คำพ้องรูป
เทคนิคการสังเกตและจดจำคำพ้องรูป
คำพ้องรูป เป็นคำที่เขียนรูปอักษรเหมือนกัน แต่เวลาออกเสียงจะออกเสียงต่างกัน และความหมายก็ต่างกันไปด้วย จนบางครั้งทำให้เกิดปัญหาและเกิดการเข้าใจผิดกันได้ การอ่านคำพ้องรูป จึงต้องสังเกตคำข้างเคียง หรือบริบทของประโยคนั้น ๆ ว่าควรจะออกเสียงอย่างไร เพราะเมื่อเข้าใจความหมายของประโยคนั้นแล้ว เราจะอ่านได้อย่างถูกต้อง และง่ายขึ้น เพื่อให้ทุกคนเข้าใจชัดเจนขึ้น
ท่านขุนรอแม่ปานวาดจนเพลาเย็น
คำว่า “เพลา” เป็นคำพ้องรูป อ่านได้สองอย่าง คือ อ่านว่า เพ-ลา มีความหมายว่า เวลา และอ่านอีกอย่างหนึ่งว่า เพลา (อักษร พ นำ ล ประสมด้วยสระ เอา) มีความหมายว่า แกนสำหรับให้ล้อหมุน เช่น คุณตาใช้เกวียนบรรทุกข้าวจนเพลาหัก หรือมีความหมายว่าเบา ๆ ลง เช่น ทำอะไรให้เพลา ๆ ลงหน่อย
เมื่อเราดูรูปประโยคแล้วสังเกตได้ว่า ประโยค “ท่านขุนรอแม่ปานวาดจนเพลาเย็น” มีคำว่า รอ ซึ่งในความหมายของประโยคเกี่ยวข้องกับเวลา จึงควรอ่านว่า เพ-ลา ที่มีความหมายว่ารอจนถึงเวลาเย็น
แม่ค้าขายกุ้งตะโกนบอกมะลิให้ระวังกรีแทงมือ
คำว่า “กรี” เป็นคำพ้องรูป อ่านได้สองอย่าง คือ อ่านว่า กรี มีความหมายว่า โครงแข็งแหลมที่หัวกุ้ง และอ่านว่า กะ-รี มีความหมายว่า ช้าง
จากรูปประโยค จึงควรอ่านออกเสียงว่า กรี ที่มีความหมายว่า โครงแข็งแหลมที่หัวกุ้ง
ชายชาติทหารพลีชีพเพื่อชาติ
คำว่า “พลี” เป็นคำพ้องรูป อ่านได้สองอย่าง คือ อ่านว่า พลี มีความหมายว่า เสียสละและอ่านว่า พะ-ลี มีความหมายว่า การบวงสรวง
จากรูปประโยค จึงควรอ่านออกเสียงว่า พลี ที่มีความหมายว่า เสียสละ
คณะปฏิวัติได้แถลงให้ประชาชนทราบนโยบาย
คำว่า “แถลง” เป็นคำพ้องรูป อ่านได้สองอย่าง คือ อ่านว่า ถะ-แหลง มีความหมายว่า บอกหรืออธิบาย และอ่านว่า แถ-ลง มีความหมายว่า อาการที่นกเอียงปีกร่อนลง หรืออาการที่คล้ายคลึงกัน เช่น แถไปโน่นไปนี่
จากรูปประโยค จึงควรอ่านว่า ถะ-แหลง ที่มีความหมายว่า บอก หรือ อธิบาย
ตัวอย่างคำพ้องรูป
กรี อ่านว่า กรี แปลว่า โครงแข็งบนหัวกุ้ง
กรี อ่านว่า กะ-รี แปลว่า ช้าง
เขมา อ่านว่า เข-มา แปลว่า ความสบายใจ
เขมา อ่านว่า ขะ-เหมา แปลว่า ดำ
โกศเขมา อ่านว่า โกด- ขะ-เหมา แปลว่า ต้นพืชที่นำมาเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่ง
สระ อ่านว่า สระ แปลว่า แอ่งน้ำขนาดใหญ่
สระ อ่านว่า สะ-หระ แปลว่า เครื่องหมายใช้แทนเสียงที่เปล่งออกมา
ปักเป้า อ่านว่า ปัก-เป้า แปลว่า ว่าวชนิดหนึ่ง
ปักเป้า อ่านว่า ปัก-กะ-เป้า แปลว่า ปลาชนิดหนึ่ง ผิวหนังมีหนาม
ปรามาส อ่านว่า ปรา-มาด แปลว่า ดูถูก
ปรามาส อ่านว่า ปะ-รา-มาด แปลว่า การจับต้อง การลูบคลำ
พยาธิ อ่านว่า พะ-ยา-ทิ แปลว่า ความเจ็บไข้
พยาธิ อ่านว่า พะ-ยาด แปลว่า ชื่อสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังชนิดหนึ่ง
ครุ อ่านว่า คะ-รุ แปลว่า ครู หนัก
ครุ อ่านว่า ครุ แปลว่า ภาชนะสานชนิดหนึ่ง
แถลง อ่านว่า ถะ-แหลง แปลว่า อธิบาย บอก
แถลง อ่านว่า แถ-ลง แปลว่า ร่อนลง
เสลา อ่านว่า สะ-เหลา แปลว่า ต้นไม้ชนิดหนึ่ง , สวย งาม
เสลา อ่านว่า เส-ลา แปลว่า ภูเขา หิน
มน อ่านว่า มน แปลว่า อยู่กับที่ ,กลม ๆ โค้ง ๆ
มน อ่านว่า มะ-นะ แปลว่า ใจ
ผิว อ่านว่า ผิว แปลว่า ส่วนที่มีลักษณะบาง ๆ เป็นพื้นหุ้มอยู่ภายนอก
ผิว อ่านว่า ผิ-วะ แปลว่า ถ้าว่า หากว่า แม้นว่า
หวงแหน อ่านว่า หวง-แหน (แ+ห+น) แปลว่า กันไว้สำหรับตัวเอง
จอกแหน อ่านว่า จอก-แหน (แ+หน) แปลว่า พืชน้ำชนิดหนึ่ง
เทคนิคการจำ คำพ้องรูป
คำพ้องรูปจะเขียนเหมือนกัน ทั้งพยัญชนะ สระ และตัวสะกด จึงทำให้มีหน้าตาเหมือนกัน แต่ออกเสียงต่างกัน และมีความหมายไม่เหมือนกัน การเลือกคำพ้องรูปคำใดไปใช้ให้ดูที่วัตถุประสงค์ของประโยคว่า เราจะกล่าวถึงสิ่งใดเป็นสำคัญค่ะ ให้จำว่า “หน้าเหมือนเป็นคำพ้องรูป” ต่อไป ถ้าไปเจอคำไหนที่เขียนเหมือนกัน ให้จำไว้เลยว่าคำนั้น คือคำพ้องรูป นั่นเอง
คำพ้องรูปปรากฏในบทกวี ทำให้เกิดความไพเราะในการเล่นคำ ตัวอย่างบทกวีของ พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) บางช่วงบางตอน ดังนี้ “อย่าหวงแหนจอกแหนให้แก่เขา พอลมเพลาก็เพลาลงสายัณห์”