คำสนธิ
คำสนธิ คือ คำที่มาจากภาษาบาลี และภาษาสันสกฤต นำมาเขียนเรียงเชื่อมคำกัน ทำให้เกิดเป็นคำใหม่ ที่มีความกลมกลืนของเสียง และแปลความหมายจากคำหลังไปคำหน้า การเชื่อมคำในคำสนธิเป็นที่มาของการจำคำสนธิว่า “สนธิเชื่อม”
ชนิดของคำสนธิ
การเชื่อมคำ 2 คำ ในคำสนธิทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเสียง เพื่อให้ทุกคนเข้าใจง่ายและเป็นระบบ ครูสรจะจำแนกให้เห็นชัด ๆ กันไปเลย โดยแบ่งเป็น 3 ลักษณะ ดังนี้
สระสนธิ
คำสนธิที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงเสียงสระระหว่างคำที่เชื่อมต่อกัน เป็นการกลมกลืนคำด้วยเสียงสระ เราเรียกว่า “สระสนธิ”
สระสนธิ ทำได้หลายลักษณะด้วยกัน เช่น ตัดสระพยางค์คำหน้า และใช้สระพยางค์คำหลังแทน แล้วรวบคำกลายเป็นคำใหม่ ตัดสระพยางค์หลังของคำหน้า และใช้สระพยางค์หน้าของคำหลัง โดยให้เปลี่ยนสระพยางค์หน้าของคำหลัง
อีกวิธีหนึ่งคือการเปลี่ยนสระพยางค์หลังของคำหน้าเป็นพยัญชนะไปเลยก็ได้
ตัวอย่างคำสนธิที่มาจากสระสนธิในลักษณะต่าง ๆ กัน ดังนี้
ให้ตัดสระพยางค์หน้า และใช้สระพยางค์หลัง
วิทย + อาลัย = วิทยาลัย
ภักษ + อาหาร = ภักษาหาร
ธน + คาร = ธนาคาร
สุร + อาลัย = สุราลัย
ให้ตัดสระพยางค์หลังของคำหน้า และใช้สระพยางค์หน้าของคำหลัง โดยการเปลี่ยนสระพยางค์หน้าของคำหลัง มีหลักเกณฑ์ดังนี้
เดิมเป็นสระอะ ให้เปลี่ยนเป็น สระอา
เดิมเป็นสระอิ ให้เปลี่ยนเป็น สระเอ
เดิมเป็นสระอุ ให้เปลี่ยนเป็น สระโอ หรือสระอู
ตัวอย่าง
พุทธ + อังกูร = พุทธางกูร
ปรม + อินทร์ = ปรเมนทร์
มหา + อิสิ = มเหสี
นย + อุบาย = นโยบาย
ให้เปลี่ยนสระพยางค์หลังของคำหน้าเป็นพยัญชนะ ก่อนนำไปสนธิ โดยมีวิธีเปลี่ยนดังนี้
พยางค์หลังของคำหน้าประสมด้วยสระ อิ อี ให้เปลี่ยนเป็น พยัญชนะเป็น “ย”
พยางค์หลังของคำหน้าประสมด้วยสระ อุ อู ให้เปลี่ยนเป็น พยัญชนะเป็น “ว”
ตัวอย่าง
กิตติ + อากร = กิตยากร
สิริ + อากร = สิรยากร
รังสี + โอภาส = รังสิโยภาส
ธนู + อาคม = ธันวาคม
คำยกเว้นบางคำ ที่ตัดสระ อี ออกไป โดยไม่ต้องเปลี่ยน สระอี เป็น “ย” เช่น
หัตถี + อาจารย์ = หัตถาจารย์
ราชินี + อนุสรณ์ = ราชินานุสรณ์
พยัญชนะสนธิ
คำสนธิที่เกิดจากการกลมกลืนของเสียงระหว่างพยัญชนะกับพยัญชนะ ที่ใช้ในภาษาไทย มีพยัญชนะในภาษาไทยที่ใช้ คือ “ส” วิธีใช้มี 2 ลักษณะ ดังนี้
ตัด “ส” ทิ้ง และให้ใส่สระโอ แทน
เปลี่ยน “ส” เป็น “ร”
ตัวอย่าง
มนส + มย = มโนมัย
ยสฺ + ธร = ยโสธร
นิสฺ+ ภย = นิรภัย
นิสฺ+ ทุกข์ = นิรทุกข์
ทุสฺ + ชน = ทุรชน
พรหมน +ชาติ = พรหมชาติ
รหัส + ฐาน = รโหฐาน
มนัส + ทัศน์= มโนทัศน์
นฤคหิตสนธิ
คำสนธิที่เกิดจากการ นฤคหิตสนธิกับพยัญชนะ วิธีการเขียนง่ายมาก เพียงเปลี่ยน นฤคหิตเป็นพยัญชนะท้ายวรรคนั้น ๆ แยกพยัญชนะออกเป็น 6 กลุ่ม ดังนี้
กลุ่มที่ 1 ประกอบด้วยพยัญชนะ ก ข ค ฆ ง ในภาษาบาลีเรียกว่าวรรค กะ และ พยัญชนะ ย ร ล ว ส ศ ษ ห ฬ ในภาษาบาลี เรียกว่าเศษวรรค ให้เปลี่ยนนฤคหิต เป็น ง สำหรับภาษาบาลีครูสรจะมาเล่าให้ฟังในวันหลังนะคะว่าเป็นอย่างไร วันนี้มาดูตัวอย่างคำในกลุ่มที่ 1 กันก่อนค่ะ
สํ + เกต = สังเกต
สํ + หาร = สังหาร
สํ + วร = สังวร
สํ + กรานต์ = สงกรานต์
สํ + คม = สังคม
สํ + ขาร = สังขาร
สํ + โยค = สังโยค
สํ + สาร = สงสาร
กลุ่มที่ 2 ประกอบด้วยพยัญชนะ จ ฉ ช ฌ ญ ให้เปลี่ยนนฤคหิต เป็น “ญ”
สํ + ญา = สัญญา
สํ + ญาณ = สัญญาณ
สํ + ชาติ = สัญชาติ
สํ + จร = สัญจร
กลุ่มที่ 3 ประกอบด้วยพยัญชนะ ฎ ฐ ฑ ฒ ณ ให้เปลี่ยนนฤคหิต เป็น “ณ”
สํ + ฐาน = สัณฐาน
กลุ่มที่ 4 ประกอบด้วยพยัญชนะ ต ถ ท ธ น ให้เปลี่ยนนฤคหิต เป็น “น”
สํ + ตาป = สันดาป สํ + โดษ = สันโดษ สํ + ธาน = สันธาน
กลุ่มที่ 5 ประกอบด้วยพยัญชนะ ป ผ พ ภ ม ให้เปลี่ยนนฤคหิต เป็น “ม”
สํ + ภาษณ์ = สัมภาษณ์ สํ + มติ = สมมติ สํ + พันธ์ = สัมพันธ์
กลุ่มที่ 6 เป็นกลุ่มที่มีคำพยางค์หน้าเป็นสระ ให้เปลี่ยนนฤคหิตเป็น “ม” เช่นกัน หลังจากนั้นให้สนธิแบบการสนธิสระ ดังนี้
สํ + อาคม = สมาคม
สํ + อาส = สมาส
สํ + โอสร = สโมสร
สํ + อุทัย = สมุทัย
สํ + อิทธิ = สมิทธิ