คำบุพบท
คำบุพบท คือ คำที่เชื่อมคำ กลุ่มคำ หรือประโยคให้มีความสัมพันธ์กันและแสดงความสัมพันธ์ระหว่างคำข้างหน้าและคำข้างหลังว่าเกี่ยวข้องกันอย่างไร เช่น ใน ใกล้ ตาม ริม บน เหนือ แก่ โดย ต่อ ด้วย เพราะ สู่ ยัง เมื่อ ตั้งแต่ เป็นต้น
คำบุพบทมีความสัมพันธ์ระหว่างคำได้หลายชนิด เช่น คำนาม กับคำนาม , คำนามกับคำสรรพนาม ,คำนามกับคำกริยา หรือคำกริยา กับคำวิเศษณ์ เป็นต้น
คำบุพบทบอกอะไรได้บ้าง
คำบุพบทที่เชื่อมกับคำอื่นหรือประโยคอื่น จะนำหน้าคำนาม คำสรรพนาม คำวิเศษณ์ คำกริยา หรือกริยาวิเศษณ์เสมอ แยกออกเป็นหมวดหมู่ได้ดังนี้
1. คำบุพบทบอกตำแหน่ง หรือบอกสถานที่
จะมีคำว่า ใน ใกล้ ตาม แถว ข้าง ติด ริม ที่ บน ล่าง ณ อยู่ในประโยค
ตัวอย่าง
ครูอยู่ในโรงเรียน
แมวอยู่ใต้ต้นไม้
เขาทำบุญ ณ วัดนอก
บ้านเขาอยู่ใกล้แม่น้ำ
แม่นั่งริมทางเดิน
พ่อนอนบนเตียง
ดำเดินบนสะพานลอย
2. คำบุพบทบอกเวลา จะมีคำว่า “เมื่อ ตั้งแต่ ตราบเท่า” อยู่ในประโยค
ตัวอย่าง
เขามาเมื่อเช้านี้
ฝนตกตั้งแต่บ่าย
ฉันรักเธอตราบเท่าชีวิต
3. คำบุพบทบอกสาเหตุ หรือใช้นำหน้าคำที่เป็นเครื่องมือเครื่องใช้ จะมีคำว่า “ ด้วย เพราะ” อยู่ในประโยค
ตัวอย่าง
นักเรียนสอบผ่านเพราะทุกคนตั้งใจเรียน
เขาเขียนหนังสือด้วยปากกา
4. คำบุพบทบอกความคาดหวัง หรือบอกผู้รับ จะมีคำว่า “กับ แก่ แด่ ต่อ เพื่อ โดย สำหรับ” ในประโยค ให้สังเกตคำว่า กับ แก่ แด่ ต่อ จะมีหลักการใช้ดังนี้
“กับ” ใช้แสดงอาการ เช่น การกระชับ อาการร่วม อาการกำกับกัน อาการเทียบกัน และแสดงระดับ
“แก่” ใช้นำหน้าคำที่เป็นฝ่ายรับ เช่น ฉันให้ขนมแก่เด็ก
“แด่” ใช้นำหน้าคำที่เป็นฝ่ายรับ เหมือนคำว่า “แก่” แต่ใช้สำหรับผู้ที่แสดงความเคารพ เช่น พ่อถวายอาหารแด่พระสงฆ์
“ต่อ” ใช้นำหน้าแสดงความเกี่ยวข้องกัน ติดต่อกัน การเทียบจำนวน เช่น ประชาชนยื่นคำร้องต่อผู้ว่าราชการจังหวัด
ตัวอย่าง
พ่อถวายอาหารแด่พระภิกษุสงฆ์
รถยนต์คันนี้สำหรับเธอ
ทหารบริจาคโลหิตเพื่อช่วยเหลือคนป่วย
เขาอยู่เพื่อเธอ
แม่ให้เงินแก่ลูก
สุราให้โทษแก่ร่างกาย
5. คำบุพบทบอกความเป็นเจ้าของ จะมีคำว่า “ของ แห่ง” อยู่ในประโยค
ตัวอย่าง
หนังสือของฉัน
การรถไฟแห่งประเทศไทย
บ้านของฉัน
สภาความมั่นคงแห่งชาติ
6. คำบุพบทบอกทิศทาง จะมีคำว่า “สู่ ยัง ถึง” อยู่ในประโยค
ตัวอย่าง
นักกีฬาวิ่งสู่จุดเส้นชัย
อ้วนกลับถึงบ้านแล้ว
เขาเดินไปยังภูเขาสูง
ข้อควรสังเกตของคำบุพบท
1. ให้ดูหน้าที่หลักของคำ
คำในภาษาไทยบางคำเขียนเหมือนกัน แต่ทำหน้าที่หลักต่างกัน เช่น ทำหน้าที่เป็นคำวิเศษณ์ ทำหน้าที่เป็นคำกริยา หรือทำหน้าที่เป็นคำบุพบท การจะดูว่าคำใดเป็นคำบุพบท จึงต้องดูหน้าที่หลักของคำหรือประโยคนั้นว่าเป็นคำชนิดใด
ตัวอย่างเช่น คำว่า “แก่” เป็นได้ทั้งคำวิเศษณ์ คำกริยา และคำบุพบท
ฉันเห็นคนแก่เดินอยู่ริมถนน (แก่ เป็นคำวิเศษณ์)
แม่ให้อาหารแก่สุนัข (แก่ เป็นบุพบท อยู่หน้าคำนาม)
พ่อแก่มากแล้ว (แก่ เป็นคำกริยา)
2. ตำแหน่งของคำบุพบท
คำบุพบทจะต้องนำหน้า คำนาม คำสรรพนาม คำกริยา คำกริยาวิเศษณ์ หรือคำวิเศษณ์ คำบุพบทจะอยู่ตามลำพังไม่ได้