คำสมาส
คำสมาสเกิดจากคำบาลีหรือคำสันสกฤต 2 คำ ที่นำมาเขียนชนกัน เป็นที่มาของการจำว่า สมาสชนสนธิเชื่อม เมื่อนำคำมาชนกันแล้วจะไม่เปลี่ยนแปลงรูปคำเดิม และจะกลายเป็นคำใหม่ขึ้นมา
“คำสมาส” มีข้อจำกัดอยู่ว่า จะต้องมาจากภาษา 2 คือ “ภาษาบาลี และภาษาสันสกฤต” เท่านั้น ถ้ามาจากคำอื่นมาสร้างคำ เช่น คำไทย+บาลี หรือคำไทย+สันสกฤต หรือคำในภาษาอื่นๆ+คำภาษาบาลีหรือสันสกฤต จะเป็น คำประสม ทันที ซึ่งไม่นับว่าเป็นคำสมาส
คำสมาสสังเกตได้จากอะไร
คำที่นำมาจะต้องเป็นคำบาลีหรือสันสกฤต
คำบาลี จับคู่กับ คำบาลี
อัคคีภัย วาตภัย ขัตติยมานะ โจรภัย อริยสัจ อัจฉริยบุคคล คำสันสกฤต จับคู่กับ คำสันสกฤต แพทยศาสตร์ วีรสตรี วีรบุรุษ ศิลปกรรม สังคมวิทยา ศิลปกรรม
คำบาลี จับคู่กับ สันสกฤต
หัตถการ สัจธรรม นาฏศิลป์ สามัญศึกษา
เป็นคำใหม่ที่ไม่ประวิสรรชนีย์พยางค์ท้ายของคำหน้า
เช่น ทันตแพทย์ นวัตกรรม วรกาย อุทกภัย ธุรการ กาลเทศะ คณิตศาสตร์ สารคดี อธิการบดี คณบดี
ไม่มีตัวการันต์ ระหว่างคำ 2 คำ ดังนี้
ศิลป์ +ศาสตร์ = ศิลปศาสตร์
สัตว์ +แพทย์ = แพทยศาสตร์
ต้องอ่านออกเสียงต่อเนื่องระหว่างคำ 2 คำ
โดยพยางท้ายของคำแรกจะออกเสียง “อะ” ดังนี้
ทันตแพทย์ อ่าน ทัน-ตะ-แพด
วรกาย อ่าน วอ-ระ-กาย
ธุรการ อ่าน ธุ-ระ-กาน
คณิตศาสตร์ อ่าน คะ-นิด-ตะ-สาด
ทรพิษ อ่าน ทอ-ระ-พิด
รัฐมนตรี อ่าน รัด-ถะ-มน-ตรี
ทัณฑฆาต อ่านว่า ทัน-ทะ-คาด
พลศึกษา อ่านว่า พะ-ละ-สึก-สา
สุนทรพจน์ อ่านว่า สุน-ทอ-ระ-พด
รัฐศาสตร์ อ่านว่า รัด-ถะ-สาด
การแปลคำสมาสให้แปลจากคำหลัง (คำหลัก) ไปหาคำหน้า (คำรอง) ดังนี้
หัตถกรรม มาจาก หัตถ (มือ) + กรรม (การงาน) แปลว่า งานฝีมือ
ทันตแพทย์ มาจาก ทันต (ฟัน) + แพทย์ (ผู้ทำการรักษา) แปลว่า แพทย์ผู้รักษาโรคฟัน
คณิตศาสตร์ มาจาก คณิต(การคำนวณ) + ศาสตร์ (ความรู้) แปลว่า วิชาคณิตศาสตร์
คำสมาสบางคำสามารถแปลจากคำหน้าไปคำหลังได้เหมือนกัน ซึ่งจะมีคำว่า “และ” เชื่อมระหว่างคำสองคำเสมอ ดังนี้
ศีลธรรม อ่านว่า สีน-ละ-ทำ หรือ สีน-ทำ มาจาก ศีลและธรรม
บุตรภรรยา อ่านว่า บุด-ตระ-พัน-ระ-ยา มาจาก บุตรและภรรยา
ให้สังเกตคำที่มักลงท้ายด้วยคำว่า ศาสตร์ กรรม การ ภาพ ภัย เป็นต้น ดังนี้
คำที่ลงท้ายด้วย (-ศาสตร์) เช่น ศิลปศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์
คำที่ลงท้ายด้วย (- กรรม) เช่น จิตรกรรม พาณิชยกรรม คหกรรม นิรกรรม กายกรรม อุตสาหกรรม กสิกรรม
คำที่ลงท้ายด้วย (-การ) เช่น กรรมการ ตุลาการ พาณิชยการ ราชการ
คำที่ลงท้ายด้วย (-ภาพ) เช่น ภราดรภาพ เอกภาพ มรณภาพ สุขภาพ
คำที่ลงท้ายด้วย (-ภัย) เช่น อุทกภัย อัคคีภัย นิรภัย วาตภัย โจรภัย
คำที่ขึ้นต้นด้วย “พระ” ในภาษาบาลี และสันสกฤต จะเป็นคำสมาสทุกคำ เช่น พระบาท พระเนตร พระกรรณ พระโอรส พระธิดา พระวงศ์
คำที่ต้องระวัง! คำที่เป็นราชาศัพท์บางคำที่ขึ้นต้นด้วย “พระ” บางคำที่มีมาจากภาษาต่างประเทศ
เช่น ภาษาเขมร แม้จะขึ้นต้นด้วย “พระ” ก็ตาม บางคำจะไม่เป็นคำสมาส เช่น พระขนง พระสนม พระสำราญ พระศอ
คำบาลีและสันสกฤตที่ขึ้นต้นด้วยคำ “อุปสรรค” จะเป็นคำสมาส
เช่น ทุ นิร นฤ เนร อนุ อว โอ อภิ อธิ เป็นต้น เช่น ทุรชน นิรภัย นิรมิต นิรมาณ นฤมล เนรเทศ อนุญาต อนุทิน อวตาร โอวาท อภิปราย อธิการ อธิบดี วิจิตร วิภาตา
คำสมาสบางคำที่นำมารวมกันแล้วไม่เปลี่ยนแปลงรูปคำ
ตัวอย่างคำดังนี้
วัฒนธรรม มาจาก วัฒน+ธรรม
สารคดี มาจาก สาร + คดี
กาฬปักษ์ มาจาก กาฬ+ปักษ์
ทิพยเนตร มาจาก ทิพย +เนตร
โลกบาล มาจาก โลก+บาล
เสรีภาพ มาจาก เสรี+ภาพ
สังฆนายก มาจาก สังฆ+นายก