คำไทยแท้

  • คำไทยแท้  เป็นคำที่มีลักษณะเป็นคำพยางค์เดียว  เป็นคำโดด ๆ  ฟังเข้าใจง่าย ๆ     มักสะกดตรงตามมาตราตัวสะกด ไม่มีตัวการันต์  ไม่เป็นคำควบกล้ำ

  • คำไทยแท้จะมีวรรณยุกต์หรือไม่มีวรรณยุกต์ก็ได้  ซึ่งคำและความหมายจะแตกต่างกันไปตามวรรณยุกต์ที่ใช้

  • เป็นคำที่สามารถนำมาสร้างเป็นคำใหม่ได้ โดยการนำคำไทยแท้สองคำมาประสม ทำให้เกิดเป็นคำใหม่มีความหมายใหม่ก็ได้เช่นกัน

  • คำไทยแท้ที่ทุกคนคุ้นเคยกันดีตั้งแต่เด็ก ๆ ที่ประสมด้วยสระไอไม้ม้วนทั้ง 20 คำ  ผู้ใหญ่หาผ้าใหม่ให้สะใภ้ไว้คล้องคอฯ  ก็จัดว่าเป็นคำไทยแท้ทั้งหมด

  • นอกจากนั้น คำไทยแท้คำเดียวกันสามารถทำหน้าที่ได้หลายอย่าง เช่น คำนาม คำกริยา คำวิเศษณ์ เป็นต้น

  • คำไทยแท้ส่วนมากมีพยางค์เดียว  แต่ก็อาจมีหลายพยางค์ได้เช่นกัน  ซึ่งเกิดจากการกร่อนเสียง การแทรกเสียง  หรือการเติมพยางค์หน้าคำมูล

หลักการสังเกตคำไทยแท้

  1. มีพยางค์เดียว  เรียกว่า คำโดด  เช่น  พ่อ แม่  พี่ น้อง  ลุง ป้า น้า อา  สูง ต่ำ ดำ ขาว

  2. คำไทยแท้ จะไม่มีตัวการันต์

  3. คำไทยแท้ส่วนมากจะมีตัวสะกดตรงตามมาตราในภาษาไทย

    • ยกเว้นบางคำที่ประสมด้วยสระอำ  จะเป็นภาษาเขมร  เช่น ทราบ  กราบ  เกิด

    • หรือคำที่อ่านออกเสียงสระอะในตัวอักษรตัวสุดท้ายบางคำจะเป็นภาษาบาลี สันสกฤต   เช่น  เอก  อ่าน เอก-กะ  นาม  อ่าน นาม-มะ  คำเหล่านี้จะไม่เป็นคำไทยแท้

  4. มีวรรณยุกต์หรือไม่มีวรรณยุกต์ก็ได้  ความหมายจะแตกต่างกันตามวรรณยุกต์ที่ใช้

  5. คำไทยแท้นำมาสร้างเป็นคำใหม่ได้ โดยนำคำไทยแท้ 2 คำมาประสมกัน  หรือเป็นซ้อน คำซ้ำ  เช่น คัดเลือก

  6. คำที่ประสมด้วยสระไอไม้ม้วน 20 คำ  (20 ม้วน จำจงดี)

  7. คำไทยแท้ทำหน้าที่ได้หลายอย่าง  เช่น  คำว่า “ดี”

    • เป็นคำกริยา    ตัวอย่างเช่น  พี่ดีต่อน้อง

    • เป็นคำนาม    ตัวอย่าง เช่น ดีมีรสขม

    • เป็นคำวิเศษณ์  ตัวอย่างเช่น  คนดีจะมีความสุข

  8. ไม่นิยมเป็นคำควบกล้ำ  แต่ยกเว้นคำที่ควบกล้ำด้วย กร  กล  กว  คร  คล  ปร ปล พร พล

  9. มักมีพยางค์เดียว แต่อาจมีหลายพยางค์ได้เช่นกัน   ดังนี้

    • กรณีเกิดจากการกร่อนเสียง เช่น  หมากพร้าว  เป็น มะพร้าว  ,หมากม่วง  เป็น  มะม่วง

    • เกิดจากการแทรกเสียง เช่น  เดี๋ยว  เป็น  ประเดี๋ยว  ,ลูกดุม  เป็น ลูกกระดุม ทำ  เป็น  กระทำ

  10. ไม่ใช้ “รร”   เช่น  คำว่า   อัศจรรย์   มหรรณพ  บรรทัด