บทที่ ๒ รัตนสูตร

รัตนสูตร ว่าด้วยรัตนะ ๓ คือ พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ มีคำสวดขึ้นต้นว่า ยานิธ ภูตานิ สมาคคานิ... พระสูตรนี้มีตำนานมาว่า...

เจ็ดตำนาน

ครั้งหนึ่งในเมืองไพศาลีเกิดทุพภิกขภัย ฝนแล้งข้าวแพงผู้คนล้มตาย กันเป็นอันมากเพราะความอดอยาก เมื่อตายแล้วก็นำเอาศพไปทอดทิ้งไว้ นอกเมือง กลิ่นเหม็นตลบไปทั่วเมือง ไม่ช้าก็เกิดอหิวาตกโรคขึ้นอีก ชาว ก่อนแต่ไรไม่เคยเป็นอย่างนี้ ชะรอยพระองค์จะไม่ทรงตั้งอยู่ในธรรมกระมัง พระเจ้าแผ่นดินทรงอนุญาตให้ชาวเมืองตรวจดูว่า พระองค์ทรงประพฤติไม่ดี อย่างไรก็ให้กล่าวโทษขึ้น ชาวเมืองไม่สามารถกล่าวได้ว่า พระเจ้าแผ่นดิน ประพฤติไม่เป็นธรรมอย่างไร จึงพากันคิดจะระงับภัยอันนี้ โดยหาผู้ประเสริฐ มาระงับ จึงตกลงพากันไปอาราธนาสมเด็จพระผู้มีพระภาคจากเมืองราชคฤห์ มาเมืองไพศาลี สมเด็จพระผู้มีพระภาครับอาราธนา แล้วเสด็จไปเมืองไพศาลี พร้อมด้วยพระสาวก ๕๐๐ รูป ระหว่างเมืองไพศาลีกับกรุงราชคฤห์นั้นมีแม่ น้ำกว้างใหญ่เป็นเขตกั้น สมเด็จพระผู้มีพระภาคจึงเสด็จลงสู่นาวาข้ามไปสิ้น ระยะทาง ๘ วันจึงถึงเมืองไพศาลี เมื่อสมเด็จพระผู้มีพระภาคเสด็จถึงเมือง ไพศาลีแล้ว ฝนตกลงมาห่าใหญ่ น้ำท่วมพื้นถึงหัวเข่า พัดพาเอาซากศพ ลอยไปในแม่น้ำ ครั้งนั้นพระผู้มีพระภาคตรัสเรียกพระอานนท์มาตรัสว่า อานนท์เธอจงเรียนเอารัตนสูตรนี้ เมื่อเรียนแล้วจงไปสวดภายในกำแพง เมือง แล้วพระองค์จึงตรัสรัตนสูตรนี้ อันมีเนื้อความสรรเสริญแก้ววิเศษ ๓ ประการ คือ พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ ซึ่งไม่มีแก้วอื่นเสมอ เหมือนทำให้ผู้สวด ผู้ฟัง ผู้บูชา และผู้ระลึกถึงประสบความสวัสดี

พระอานนท์ เมื่อเรียนรัตนสูตรจากสมเด็จพระผู้มีพระภาคแล้วจึงถือ เอาบาตรน้ำมนต์ของพระผู้มีพระภาค ไปยืนอยู่ที่ประตูพระนครแล้วรำลึกถึง พระพุทธคุณ ต่อจากนั้นก็เที่ยวประน้ำมนต์สาดไปทั่วพระนคร น้ำมนต์ที่ พระอานนท์สาดไปนั้นได้ไปตกถูกพวกภูตผีปีศาจในขณะที่กล่าวคำว่ายงกิญจิ พวกภูตผีปีศาจก็หนีไปสิ้น พอกล่าวคำว่า ยานิธาภูตานิ หยาดน้ำมนต์ก็ตก ไปถูกพวกมนุษย์ที่กำลังเจ็บไข้ ในทันใดนั้นโรคภัยก็หายไปสิ้น ตั้งแต่นั้นมา ชาวเมืองก็อยู่กันโดยปราศจากโรคภัยเบียดเบียน ความเจริญสิริสวัสดิ์ก็เกิดมี แก่ราชตระกูลและชาวเมือง พระสูตรนี้จึงถือว่าเครื่องบรรเทาอุบัติภัยอันตราย ให้หมดสิ้นไป อันสมกับเรื่องที่ให้เกิดพระสูตรนี้ขึ้น