พิธีแห่ขันหมาก

การแห่ขันหมาก นั้น ผู้ปกครองฝ่ายชายต้องเลือกชายหญิงที่มีรูปร่าง หมดจดแต่งตัวดี ยกทุนสิน ผ้าไหว้ ขันหมาก มีผู้คนแห่ห้อมไปพร้อมกัน ไปบกหรือไปเรือแล้วแต่ทางที่จะไปยังบ้านบิดามารดาฝ่ายหญิง มีมโหรีนำ ขันหมาก หรือบางที่ก็มีเครื่องดีดสีตีเป่าไปเป็นสำคัญ หรือไปเงียบ ๆ ก็มี โดย มาก แต่ขันหมากเอกนั้น จัดให้หญิงรุ่นสาวแต่งตัวยกไปหน้าเกียบ เกียบนั้น จัดหาหญิงที่มีตระกูลมีสามีแล้วยกไปเป็นคู่ ๆ กัน ต่อเกียบลงไปเป็นผ้าไหว้แล้ว ถึงขันหมากเลวให้เด็กผู้ชายยกตามไปเป็นลำดับ ครั้นถึงบ้านบิดามารดาฝ่าย หญิงคนในบ้านก็ดีออกมารับแล้ว จัดผู้ใหญ่นำเด็กแต่งตัวถือขันพานรองมีหมาก พลูลงไปรับ เรียกว่า เชิญขันหมาก ขึ้นมาบนเรือนหอ ขณะนั้นบิดามารดา ฝ่ายหญิงให้เฒ่าแก่ออกมารับขันหมาก แล้วจัดหาผู้ใหญ่ทั้งสามีภรรยาแต่งตัว เต็มยศหญิงนุ่งจีบห่มผ้าคลุมทั้ง ๒ บ่า มารับเปิดเกียบเป็นคู่ ๆ กันตามมาก และน้อย แล้วเฒ่าแก่ฝ่ายหญิงยกเกียบกับขันใส่เหล้า มะพร้าวอ่อน พาน ผ้าไหว้ผีไปไว้ในเรือนบิดามารดาฝ่ายหญิง เช่นบอก ปู่ ย่า ตา ยาย ตาม ประเพณีที่นับถือกันต่อ ๆ มา บางที่บิดามารดาฝ่ายหญิงไม่ให้ฝ่ายชายต้องจัด หาขันหมากเอกและผ้าเกียบมีเครื่องเช่นไป ฝ่ายบิดามารดาฝ่ายหญิงจัดหาสิ่ง ของเครื่องเช่นเอง ไม่ให้ลำบากด้วยกันทั้งสองฝ่าย เพียงให้มีแต่ทุนสิน ผ้าไหว้ตามสมควร

เมื่อผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงเสร็จแล้วเฒ่าแก่ฝ่ายเจ้าบ่าวเรียกเอาทุนจาก เฒ่าแก่ฝ่ายเจ้าสาว บิดามารดาเจ้าสาวเอาทุนออกมาที่เรือนหอนับตรวจครบ ถ้วนด้วยกันทั้ง ๒ ฝ่ายตามกำหนด ที่เรียกว่า สินสมรส และมักให้มี เงินเถาบ้าง เงินสลึงเงินเฟื้องเป็นเศษนอกจากทุนออกไปบ้างเป็นเคล็ดที่ จะให้ทุนทรัพย์นั้นงอกงามมีความเจริญสืบไป เฒ่าแก่ข้างชายหญิงพร้อมกัน นำเงินทั้ง ๒ ฝ่ายมารวมเคล้าด้วยถั่วงาแป้งน้ำมันหอมแล้วมอบให้ฝ่ายหญิง เมื่อเคล้าเงินทุนเสร็จแล้ว ข้างเจ้าสาวจัดสำรับคาวหวานเลี้ยงเฒ่าแก่และผู้ยก ทุนสิน ผ้าไหว้ขันหมากแล้วจัดสิ่งของต่าง ๆ ให้แก่เฒ่าแก่กับผู้ยกขันหมากเอก ส่วนผู้ยกขันหมากเลวนั้น แจกเงินคนละเล็กละน้อย แต่คนที่ยกทุนสินนั้น เป็นธรรมเนียมถือกันว่าจะต้องให้ชั่งละบาท เรียกว่าเป็นของแถมพก ครั้น จัดการเลี้ยงกันเสร็จแล้ว เฒ่าแก่ของเจ้าสาวแบ่งขันหมากเลวเป็น ๒ ส่วน คือไปให้ข้างบิดามารดาเจ้าบ่าว สำหรับไปเลี้ยงพวกเจ้าบ่าวส่วนหนึ่ง ข้าง เจ้าสาวไว้เอาไว้ส่วนหนึ่ง เฒ่าแก่ฝ่ายชายก็พาพวกที่ยกทุนสินขันหมากกลับ ไป

ครั้นเวลาบ่ายเจ้าบ่าวกับพวกแต่งตัวตามศักดิ์พากันไปบ้านเจ้าสาว มี เครื่องมโหรีหรือไปเงียบ ๆ ก็มี

ครั้นถึงบ้านเจ้าสาว บิดามารดาญาติฝ่ายหญิงก็ให้ผู้ใหญ่พาเด็กแต่ง- ตัวถือพานหมากมาเชิญเจ้าบ่าว เจ้าบ่าวต้องมีบำเหน็จให้แก่เด็กที่มาเชิญนั้น ๔ บาทบ้าง ๘ บาทบ้าง แล้วผู้ใหญ่ก็พาเด็กกลับขึ้นเรือนก่อนเจ้าบ่าว เจ้า บ่าวตามขึ้นไปภายหลัง พวกเจ้าสาวถือแพรสีบ้าง สายสร้อยทองคำบ้าง ยืน คนละข้าง ยืนกั้นขวางทางประตูไว้ตามธรรมเนียม ๓ ชั้น ไม่ให้เจ้าบ่าวขึ้น ชั้นที่ ๑ ประตูบ้าน พวกเจ้าบ่าวถามว่าประตูอะไร? พวกเจ้าสาวที่กั้นขวาง นั้นบอกว่า ประตูเงิน ชั้นที่ ๒ ประตูเรือน พวกเจ้าบ่าวถามว่าประตูอะไร? พวกเจ้าสาวตอบว่า ประตูทอง ชั้นที่ ๓ ประตูเรือนหอ พวกเจ้าบ่าวถาม ว่าประตูอะไร? พวกเจ้าสาวตอบว่า ประตูแก้ว เมื่อบอกชื่อประตูถูกต้อง ดังนี้แล้วพวกเจ้าบ่าวผู้ใหญ่คนหนึ่งเรียกว่า บ่าวนำ ต้องให้เงินแก่พวกเจ้า สาวที่กั้นขวางประตูไว้นั้น คนละสลึงบ้าง ๒ สลึงบ้าง บาทบ้าง เป็น ชั้น ๆ กัน ถ้าพวกเจ้าสาวบอกชื่อประตูไม่ถูกต้องตามแบบแล้ว พวกเจ้าบ่าว ก็ไม่ใคร่จะให้เงิน หรือบางทีพวกเจ้าสาวกั้นขวางทางไว้มากถึงหลายแห่ง พวกเจ้าบ่าวก็ต้องแจกเงินให้ทั่วไปตามสมควร กว่าจะขึ้นเรือนหอได้ก็เสียเงิน มากหลายตำลึง พวกเจ้าสาวยกพานหมาก น้ำชามาเลี้ยงพวกเจ้าบ่าวคนละที่