แต่งตัวศพ
เมื่อได้ทำความสะอาดศพดีแล้ว ก่อนจะมัด เขาทำดังนี้ คือ :-
ก. หวีผม การหวีผมศพ บางท่านก็ว่าต้องหวี ๓ ครั้งเท่านั้น บางท่าน ก็ว่าต้องหวีผมกลับไปข้างหน้าซีกหนึ่ง หวีไปข้างหลังซีกหนึ่ง ที่ต้องหวี ดังนี้ อธิบายว่า สำหรับคนตายครึ่งหนึ่ง สำหรับคนเกิดครึ่งหนึ่ง เมื่อ หวีแล้วต้องหักหวีออกเป็นสองท่อนขว้างทิ้งเสีย บางแห่งเขาหักหวีออกเป็น ๓ ท่อน แล้วกล่าวว่า อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา แต่ทางภาคอีสานเขาหวีลง อย่างเดียว ห้ามหวีขึ้น เมื่อหวีแล้วหักหวีเป็น ๒ ท่อนทันที
ข. นุ่งผ้าและสวมเสื้อ ใช้ผ้าขาวนุ่งชั้นแรก เอาชายพกไปไว้ข้าง หลัง เอาเสื้อขาวสวม เอาทางที่มีคุมไว้ข้างหลัง แล้วเย็บเนาเป็นตะเข็บ ตั้งแต่แขนมาหาเอวทั้งสองข้าง ที่ทำดังนี้ได้ความว่าแต่งตัวให้ผี แล้วใช้เสื้อ และผ้านุ่งอีกสำรับหนึ่งสวมและนุ่งให้ แต่ทางคุ่มและชายพกเอาไว้ข้างหน้า กับใช้ผ้าห่มหรือสะพายให้ หมายความว่าแต่งตัวให้ไปเกิด การนุ่งผ้าให้แก่ศพ ซึ่งมีการนุ่งข้างหลังแล้วนุ่งข้างหน้านี้ บางท่านกล่าวว่าที่ทำเช่นนั้น เพื่อให้ พิจารณาว่า สัตว์ที่เกิดมา ย่อมเกิดด้วยทิฐิ และตายด้วยทิฐิ มือซ้าย ปิดหลังปิดหน้า มีตัณหาเกี่ยวประสานกันดังเรียงไม้ไผ่ ดังนี้
เสื้อและผ้านุ่งนี้ บางทีก็ใช้เสื้อผ้าที่ใช้ตามธรรมดาไม่ใช้ผ้าขาว แต่ ในปัจจุบันนี้เมื่ออาบน้ำและทำความสะอาดศพแล้ว ก็แต่งตัวนุ่งผ้าสวมเสื้อ อย่างปกติแต่ชั้นเดียว แล้ววางนอนไว้บนเขียง ทอดมือขวาไปเพื่อให้ผู้ที่ มาอาบน้ำศพรดน้ำที่มือด้วยน้ำหอมพอเป็นพิธีเท่านั้น
ค. เงินใส่ปาก เขาใช้เงินพดด้วงหรือเงินเหรียญจำนวนบาทหนึ่ง ห่อผ้าขาวผูกเชือกไว้ห่างราวคืบหนึ่งหย่อนลงไปในปาก การเอาเงินใส่ ในปากศพนี้มีความหมายแตกต่างกันอยู่เป็น ๓ ทาง คือ
๑. เพื่อให้เป็นทางพิจารณาว่า คนเกิดมาแล้วย่อมลุ่มหลงอยู่ด้วย ทรัพย์สมบัติ ทะเยอทะยานขวนขวายหา เมื่อได้มาแล้วก็อดออมถนอมไว้ ไม่ใช้จ่ายในทางที่ควร ทรัพย์เช่นนี้เป็นทรัพย์ภายนอก เมื่อตายไปแล้ว แม้แต่เขาเอาใส่ปากให้ ก็เอาไปไม่ได้ ย่อมเป็นเหยื่อของผู้อื่นทั้งสิ้น ทางที่ถูก เมื่อหาทรัพย์มาได้ในทางที่ชอบแล้ว ก็ควรใช้ในทางที่ควร เพื่อทำทรัพย์ ภายนอกที่หามาได้นั้นให้เป็นทรัพย์ภายใน ซึ่งได้แก่อริยทรัพย์ อริยทรัพย์นี้ เป็นทรัพย์ประเสริฐ จะเป็นเงาตามตัวไปในภายหน้าได้
๒. ถือตามประเพณี โดยมีเรื่องเล่ามาว่า มีสามีภรรยาคู่หนึ่ง อยู่ด้วยกันมาจนแก่ มีทองคำติดตัวอยู่บาทหนึ่ง สามีภรรยาต่างสัญญากัน ไว้ว่า "ถ้าใครตายก่อนให้เอาทองคำบาทหนึ่งนี้ใส่ปากไปให้" ต่อมาสามี ตายก่อนภรรยาจึงเอาทองคำใส่ปากให้สามี แล้วก็นำศพไปเผา ไฟได้ไหม้ ทองคำนั้นขาดไป คงเหลือเพียง ๓ สลึง ครั้งนั้นพระมหากษัตริย์บังเกิด โลภเจตนา จะขอทองคำเรือนละบาทหนึ่ง หญิงหม้ายผู้นั้นจึงไปเก็บทองคำ ในโกศพ่อนซึ่งยังคงเหลืออยู่อีก ๓ สลึง มาถวายพระมหากษัตริย์ ๆ ไม่ทรงรับ จะเอาให้เต็มบาท หญิงหม้ายเจ้าของทองคำจึงทูลว่า แต่ก่อนทองคำนี้เต็ม บาทครั้นสามีตายจึงเอาใส่ปากสามีแล้วเอาไปเผาไฟ ไฟได้ไหม้ทองคำขาด ไปจึงเหลืออยู่แต่เท่านี้ ขอพระองค์จงเป็นที่พึ่งแก่สัตว์ผู้ยากเถิด พระมหา- กษัตริย์ได้ทรงฟังก็เกิดธรรมสังเวช จึงประกาศเลิกไม่ให้เอาทองคำแก่ราษฎร อาศัยเหตุนี้ในกาลต่อมา ผู้ที่ไม่มีทองคำถึงบาท จึงได้ใช้เงินใส่ปากศพแทน ประเพณีกระทำกันสืบ ๆ มา
๓. อีกทางหนึ่งกล่าวกันว่า ใส่ไว้เพื่อให้เป็นค่าจ้างแก่สัปเหร่อ ที่จะนำไปเผา เพราะในครั้งกระโน้นราคาเงินบาทหนึ่ง ได้เป็นค่าจ้างอย่างงาม แล้ว และยังได้ผ้าผ่อนที่ปกคลุมศพกับของเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการเผาศพ เป็นพิเศษอีกด้วย
การที่ต้องเอาเงินใส่ไว้ในปากศพ ไม่เอาไว้ในที่อื่น เพราะสะดวก แก่การค้นหา ถ้าไว้ที่อื่น ก็จะหมกปนกับเครื่องซับน้ำเหลืองศพหายได้ หรือ ถ้าเจ้าภาพจะสัญญาให้ค่าจ้างภายหลัง โดยไม่ใส่เงินไว้ในปากศพก่อน น่ากลัว สัปเหร่อจะไม่ยอมในเวลามัดศพ เพราะเกรงเจ้าภาพ จะเกิดการบิดพริ้ว ภายหลัง โดยในสมัยนั้น เงินเป็นของมีค่ามาก บางคนกว่าจะหาได้ถึง บาทหนึ่งเป็นการยาก จึงจำเป็นต้องมีใส่ปากศพไว้ให้เสร็จทีเดียว
ฅ. หมากใส่ในปากศพ สำหรับผู้ที่กินหมาก เมื่อใส่เงินบาทลงไป แล้ว ถ้าผู้ตายยังมีฟันอยู่พอเคี้ยวได้ ก็ใส่หมากเจียนคำหนึ่งกับพลูจีบหนึ่ง หักใส่ลงไปด้วยกัน ถ้าคนตายเป็นคนแก่มีฟันไม่บริบูรณ์ ก็ใช้หมากคำใส่ปาก ให้ ทั้งนี้ คงได้ความแต่เพียงว่า ผู้ตายเคยชอบก็ใส่ปากไปให้พอเป็น ธรรมเนียม
ง. ขี้ผึ้งติดหน้าศพ ขี้ผึ้งที่ใช้นี้ใช้ขี้ผึ้งแข็ง บางศพก็บีบเฉพาะแต่ที่ ตากับปาก คือทำขี้ผึ้งเป็นแผ่นแบน ๆ เหมือนแว่นตา สำหรับปิดตาทั้ง ๒ ข้างแผ่นหนึ่ง กับอีกแผ่นหนึ่งสำหรับปิดปาก ศพบางแห่งก็ปิดเต็มหน้า คือ ทำขี้ผึ้งเป็นแผ่นแบนโตเท่ากับหน้า ปิดไว้เหมือนหน้ากาก ที่ทำดังนี้ บางแห่ง เขาก็บีบทองคำเปลวด้วย ผู้ที่มีทรัพย์บางทีเขาใช้ทองคำแผ่เป็นแผ่นทำเป็น หน้ากากปิดหน้าศพ การที่ใช้ขี้ผึ้งหรือทองคำปิดหน้าศพนี้ ได้ความว่าปิดเพื่อ ป้องกันความอุจาด เพราะบางศพลืมตาค้างปิดไม่ลงบ้าง บางศพอ้าปากบ้าง ทองปิดหน้าศพนั้นเมื่อเผาแล้ว มักเอาไปสร้างเป็นพระพุทธรูป
จ. กรวยดอกไม้ธูปเทียน ดอกไม้ธูปเทียนนี้ มีธูปดอก ๑ เทียน ดอก ๑ กับดอกไม้ช่อ ๑ หรือบางที่ก็ใช้ดอกบัวดอก ๑ ใส่ในกรวยใบตอง ให้ศพประนมมือถือ ได้ความว่า เพื่อจะได้ถือไปไหว้พระจุฬามณีบนสวรรค์ ชั้นดาวดึงส์