ตามไฟหน้าศพ

ผู้ที่ตายในตอนบ่ายหรือเย็น เจ้าภาพจะจัดการบรรจุศพลงโลงในวันนั้น ไม่ทัน เอาผ้าคลุมศพไว้ก่อนก็ดี หรือศพที่บรรจุโลงเสร็จแล้ว ตั้งไว้ที่บ้าน เพื่อบำเพ็ญกุศลก็ดี แต่เดิมมาเขาใช้กะลามะพร้าวพร้อมทั้งเนื้อด้วยซีกหนึ่ง และเอาน้ำมันมะพร้าวใส่ ใช้นมทองหลางร้อยด้ายดิบเป็นไส้ลอยในน้ำมัน มะพร้าว จุดตามไว้ทางปลายเท้าศพ แต่ในกรุงเทพฯ เขามักใช้ชามแทน กะลามะพร้าวบ้าง ตามด้วยตะเกียงลานบ้าง ที่ใช้กะลามะพร้าวเป็นภาชนะ ตามไฟมีอยู่บ้าง ก็ตามเรือกตามสวนเท่านั้น การใช้กะลามะพร้าวทั้งเนื้อ เป็นที่ใส่น้ำมันตามไฟนี้ได้ความตามคำบอกเล่าว่า เมื่อยังต้องตั้งศพเพื่อ บำเพ็ญกุศลอยู่ที่บ้านหลายวัน ก็ต้องใช้เครื่องตามไฟนี้เรื่อยไป ถ้าจะใช้แต่ กะลามะพร้าวที่ไม่มีเนื้ออยู่ด้วย กะลามะพร้าวอาจจะแห้ง ไฟจะแลบทำให้ เกิดไหม้ขึ้นได้ จึงต้องใช้กะลามะพร้าวทั้งเนื้อด้วย ส่วนไฟที่จุดตามไว้นั้น ต้องคอยระวังอย่าให้ดับ ถ้าจะเกิดดับขึ้นด้วยความจำเป็น ก็ต้องรีบจุดใหม่ ทันที เหตุที่ต้องตามไฟขึ้นไว้นี้บางท่านอธิบายว่า "จุดไว้แทนไฟธาตุของศพ อยู่มืดๆ เนื่องด้วยกลัว ถ้าจะเอาใต้ไปจุดไว้ที่ปลายเท้าศพ คงไม่มีใครรับ อาสาไปนั่งเขี่ยให้ลุกอยู่ได้ตลอดครึ่ง จึงต้องตามไฟด้วยน้ำมันมะพร้าว และใช้กะลามะพร้าวทั้งเนื้อเป็นภาชนะดีกว่าใช้อย่างอื่น