การเปรียบเทียบประสิทธิภาพในการยับยั้งเชื้อแบคทีเรียของแผ่นฟิล์มผสมสารสกัดจากเพกาและขมิ้นชัน
- ชื่อนักเรียนผู้จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์
จุฑามาศ สมศรี, อภิญญา จันทร์เพ็ง
- อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานวิทยาศาสตร์
วัชราภรณ์ แสนนา
- โรงเรียนที่กำกับดูแลโครงงานวิทยาศาสตร์
- ปีที่จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์
บทคัดย่อโครงงานวิทยาศาสตร์
ในปัจจุบันรูปแบบยาที่นิยมมากที่สุดคือ ยาที่อยู่ในรูปแบบรับประทาน ซึ่งมีความสะดวก รับประทานได้ง่าย แต่เมื่อรับประทานเป็นเวลานานหรือรับประทานเป็นจำนวนมาก อาจมีข้อเสียอีกหลายประการตามมา เช่น ตับที่ทำหน้าที่ทำลายสารพิษที่ผ่านเข้าสู่ร่างกาย เมื่อได้รับปริมาณสารที่มากเกินกว่าจะขับสารพิษนั้นออกไปได้ จะเกิดการตกค้างภายใน อาจทำให้ตับเสียหาย ในการนำส่งยาเข้าสู่ร่างกายนั้นมีหลายวิธี แต่วิธีที่กำลังได้รับความสนใจมากขึ้นคือ ระบบนำส่งยาผ่านผิวหนัง ซึ่งมีผลข้างเคียงน้อยกว่ายาที่อยู่ในรูปรับประทาน อีกทั้งในประเทศไทยมีสมุนไพรพื้นบ้านที่มีประสิทธิภาพในการรักษาแผลอยู่หลายชนิดด้วยกัน เช่น
เพกา มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Oroxylum indicum (L.) Kurz วงศ์ Bignoniaceae โดยมีสารที่ออกฤทธิ์ต้านการอักเสบเป็นสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ ได้แก่ bacailein, chrysin และสารในกลุ่มแนฟโทควิโนน คือ lapachol โดยมีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาหลายด้าน เช่น ฤทธิ์ต้านการอักเสบ ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียและแก้ท้องเสีย เป็นต้น
ขมิ้นชัน มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Curcuma longa Linn. ชื่อวงศ์ Zingiberaceae โดยสารสำคัญที่ออกฤทธิ์ของขมิ้นชันเช่น Circumin ซึ่งมีฤทธิ์ในการต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านไวรัส HIV ต้านการอักเสบ และต้านการเกิดเนื้องอก โดยมีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาหลายด้าน เช่น ฤทธิ์ลดการอักเสบ ฤทธิ์สมานแผล เป็นต้น
แต่ในการนำสมุนไพรไทยมาใช้ในการรักษามักไม่ค่อยได้รับความนิยม เนื่องจากเป็นสมุนไพรสดเก็บได้ไม่นานจึงเกิดการเน่า ทำให้ไม่สะดวกต่อการพกพาและใช้งาน ทางกลุ่มเราจึงมีแนวคิดในการนำเพกาและขมิ้นชันมาสกัดเพื่อนำมาทดสอบการยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย Escherichia coli หรือ E. coli และ Staphylococcus aureus หรือ S. aureus เพื่อนำไปพัฒนาเป็นแผ่นฟิล์มปิดแผลจากสารสกัดสมุนไพรต่อไป