การศึกษาความเข้มของกรดออกซาลิกที่มีผลต่อประสิทธิภาพการเคลือบผิวหินอ่อน
- ชื่อนักเรียนผู้จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์
นัทธ์ชนัน ค้าธัญญมงคล, ศุภิสรา เตชะเกษมบัณฑิตย์
- อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานวิทยาศาสตร์
รัตนวดี โมรากุล
- โรงเรียนที่กำกับดูแลโครงงานวิทยาศาสตร์
- ปีที่จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์
บทคัดย่อโครงงานวิทยาศาสตร์
ในปัจจุบันมีการนำหินอ่อนมาใช้ในชีวิตประจำวันมากขึ้น เช่น การก่อสร้าง การปูพื้นบ้านภายในครัวเรือน และโต๊ะทดลองวิทยาศาสตร์ แต่หินอ่อนสามารถทำปฏิกิริยากับกรดทั้งกรดที่เกิดจากธรรมชาติ เช่น ฝนกรด และกรดที่ถูกสังเคราะห์ขึ้น แล้วส่งผลให้หินอ่อนเกิดการเสียหายหรือถูกกัดกร่อน เพราะหินอ่อนมีองค์ประกอบส่วนใหญ่เป็นคาร์บอเนตที่สามารถทำปฏิกิริยากับกรดแล้วถูกกัดกร่อน แล้วได้แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา
ทางคณะผู้จัดทำจึงมีแนวคิดที่จะหาวิธีการศึกษาความเข้มข้นของกรดออกซาลิกที่มีผลต่อประสิทธิภาพการเคลือบผิวหินอ่อน โดยสังเกตการเปลี่ยนแปลงมวลก่อนและหลังของหินอ่อน นำหินอ่อนมาชั่งด้วยเครื่องชั่ง 4 ตำแหน่งและทดสอบกับกรดออกซาลิกที่มีความเข้มข้น 3 M ปริมาณ 40 ml สังเกตการเปลี่ยนแปลงมวลของหินอ่อนทุกๆ 1, 2, 3, 6, 8 ชั่วโมง และ over night เพื่อศึกษาระยะเวลาที่ดีที่สุดในการเกิดชั้นตะกอนแคลเซียมออซาเลต และนำหินอ่อนมาชั่งด้วยเครื่องชั่ง 4 ตำแหน่งและทดสอบกับกรดออกซาลิกที่มีความเข้มข้น 1, 1.5, 2, 2.5, 3, 4 และ 5 M ปริมาณ 40 ml ตามลำดับ ทิ้งไว้ over night จะเกิดตะกอนแคลเซียมออกซาเลต และชั่งมวลของหินอ่อนอีกครั้ง เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงมวลของหินอ่อน และทดสอบกับกรดซัลฟูริก เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพหินอ่อนที่ถูกเคลือบด้วยแคลเซียมออกซาเลต
จากการทดลอง พบว่า ระยะเวลาที่ดีที่สุดในการเคลือบผิวหินอ่อน คือ over night และหินอ่อนที่ถูกเคลือบด้วยกรดออกซาลิกที่ความเข้มข้น 3 M มีการเปลี่ยนแปลงมวลเพิ่มขึ้น 1.5-3 กรัม รองลงมาคือ หินอ่อนที่ถูกเคลือบด้วยกรดออกซาลิกที่ความเข้มข้น 4, 2.5, 2, 1.5, 5, 1 M ตามลำดับ