การสำรวจขยะใกล้แหล่งที่อยู่อาศัยของโลมาบริเวณชายฝั่งปากแม่น้ำดอนสัก อำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ชื่อนักเรียนผู้จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์

นภัสวรรณ ว่องสกุล, สันต์ฤทัย เพชรศรีเงิน

อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานวิทยาศาสตร์

สุวัฒน์ จุฑาพฤทธิ์

โรงเรียนที่กำกับดูแลโครงงานวิทยาศาสตร์

โรงเรียนมอ.วิทยานุสรณ์ สุราษฎร์ธานี

ปีที่จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์

พ.ศ. 2563

บทคัดย่อโครงงานวิทยาศาสตร์

พื้นที่โลกของเรามีพื้นที่ราว 5 ร้อยล้านตารางกิโลเมตรและประมาณ 71% ของผิวโลกถูกปกคลุมไปด้วยน้ำซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิต ไม่ว่าแหล่งน้ำจืดหรือน้ำเค็มล้วนมีความสำคัญกับโลกเช่นกันโดยเฉพาะทะเล เหตุผลที่ทะเลหรือมหาสมุทรมีความสำคัญเพราะทะเลเป็นจุดเริ่มต้นของวิวัฒนาการตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ ทะเลเป็นแหล่งอาหารที่ใหญ่มาก ๆ เพราะในทะเลมีสัตว์น้ำจำนวนมาก ทะเลเป็นเส้นทางคมนาคมทั้งในอดีตและปัจจุบัน และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสำคัญ ในปัจจุบันมนุษย์ใช้ประโยชน์จากทะเลเพื่อนำตอบสนองความต้องการของประชากร

ต่อมามีการคิดค้นพลาสติกขึ้นมา จนพลาสติกกลายมาเป็นส่วนหนึ่งเพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์อีกด้วย เนื่องจากพลาสติกสามารถใช้งานได้อย่างหลากหลายและสะดวกในการใช้สอยทำให้มีปริมาณในการผลิตมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งยังมีเทคโนโลยีใหม่ที่สามารถผลิตพลาสติกให้มีความหลากหลายตามความต้องการของผู้บริโภค เช่น ถุงใส่อาหาร บรรจุภัณฑ์ใส่อาหารและเครื่องดื่ม ของเล่นเด็ก อุปกรณ์ก่อสร้าง และเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น เมื่อพลาสติกหมดประโยชน์ พลาสติกที่ใช้เหล่านั้นจะกลายมาเป็น “ขยะทะเล” ขยะทะเลหนึ่งในปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญที่สุดในโลก เป็นปัญหาวิกฤตข้ามพรมแดนเนื่องจากขยะทะเลสามารถเคลื่อนย้ายได้โดยอิทธิพลของกระแสน้ำในมหาสมุทร โดยไทยถูกจัดอยู่ในลำดับที่ 6 ของประเทศที่ทิ้งขยะพลาสติกลงสู่ทะเลมากที่สุดในโลก ขยะพลาสติกถูกพบในซากสัตว์ทะเลไทย ในปี2561 พบพลาสติกจำนวนมากในท้องของวาฬเกยตื้นที่ตายลง กลายเป็นข่าวใหญ่ดังไปทั่วโลก ในปีที่ผ่านมา พบเต่าที่ตายเพราะมีขยะจำนวนมากอยู่ในท้อง ทั้งโฟมและพลาสติก กระทั่งล่าสุด “มาเรียม” พะยูนขวัญใจชาวไทยก็ได้ตายสาเหตุมาจากมีขยะพลาสติกขนาดเล็กไปขวางในลำไส้ นอกจากผลกระทบต่อสัตว์ทะเลแล้วขยะพลาสติกเหล่านี้ยังส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทั้งในทะเลและชายฝั่ง ในด้านเศรษฐกิจขยะทะเลยังสามารถสร้างผลเสียได้อีกด้วย โดยขยะทะเลทำลายทัศนียภาพของสถานที่ท่องเที่ยว ด้วยเหตุนี้ขยะทะเลจึงจัดเป็นปัญหาระดับชาติ ที่ทุกคน ทุกภาคส่วนต้องช่วยกันแก้ไข

โครงงานนี้เป็นการศึกษาขยะที่พบบริเวณปากแม่น้ำดอนสักขณะพบเห็นโลมาชายฝั่งจะใช้วิธีการประเภท Belt transects ในการสำรวจขยะบริเวณชายฝั่งของท่าเรืออเนกประสงค์ ขยะที่พบเจอหลังจากการสำรวจจะนำขึ้นมาบนชายฝั่งเพื่อ คัดแยกประเภท และชั่งน้ำหนัก เพื่อตรวจสอบโครงสร้างของสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมและรักษาคุณภาพของสิ่งแวดล้อมทางทะเลไทยให้มีมลพิษน้อยลง และการจัดทำแผนจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมเพื่อให้ได้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ติดตามและจัดทำรายงานบันทึกผลการสำรวจขยะที่พบบริเวณปากแม่น้ำดอนสักขณะที่พบโลมาชายฝั่ง

โลมาสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจำพวกหนึ่ง มีรูปร่างคล้ายปลา แต่หายใจด้วยปอด โลมามีจมูกไว้หายใจจมูกของโลมาของตรงกลางกะหม่อมเพื่อสะดวกต่อการหายใจเหนือน้ำ ในแต่ละครั้งที่ขึ้นมาหายใจประมาณ 40-50 วินาทีและกลับลงน้ำได้ประมาณ 4-5นาที โลมาที่สามารถพบได้บริเวณปากแม่น้ำดอนสักมีหลากหลายสายพันธุ์ได้แก่ โลมาหลังโหนกหรือโลมาสีชมพู (ชื่อสามัญ:Pacific humpback dolphin,Indo-Pacific humpback Dolphin. ชื่อวิทยาศาสตร์: Sousa chinensis) โลมาอิรวดี (ชื่อสามัญ: Irrawaddy dolphin. ชื่อวิทยาศาสตร์: Orcaella brevirostris) โลมาหัวบาตรหลังเรียบ (ชื่อสามัญ: Finless porpoise. ชื่อวิทยาศาสตร์: Neophocaena phocaenoides) โลมานั้นเป็นสัตว์ที่มีความเฉลียวฉลาดมาก มีขนาดสมองใหญ่มากเมื่อเทียบกับลำตัว แถมภายในสมองยังมีความซับซ้อนความพิเศษนี้ส่งผลไปถึงการดำเนินชีวิตของโลมา วิธีล่าเหยื่อและการสื่อสารจะใช้คลื่นความถี่สูงส่งออกมา อาหารทางธรรมชาติของโลมาคือ กุ้ง หอย ปู ปลา ปลาหมึก การที่อาหารตามธรรมชาติมีความคล้ายคลึงกับขยะทางทะเล จึงมีความเสี่ยงสูงมากที่สัตว์ทะเลจะเข้าใจผิดและรับประทานขยะทะเลเข้าไปส่งผลร้ายแรงสู่การดำเนินชีวิตและสุขภาพ

บริเวณท่าเรืออเนกประสงค์ดอนสักเป็นที่ทำประมงพื้นบ้าน เป็นที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของโลมาชายฝั่ง และเป็นที่สาธารณะจึงมีขยะจำนวนมาก ขยะจำนวนมากเหล่านั้นอาจส่งผลกระทบต่อโลมาและสัตว์น้ำชนิดอื่น

โครงงานการสำรวจขยะบนผิวน้ำบริเวณปากแม่น้ำดอนสักขณะที่พบโลมาชายฝั่ง เพื่อเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลทางสิ่งแวดล้อมทางทะเล และช่วยแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน มั่นคง ให้ความรู้ในการคัดแยกขยะ ชุมชนที่ใกล้บริเวณท่าเรือดอนสักจะได้มีความรู้และเห็นความสำคัญของการดูแลธรรมชาติเพื่อเป็นการวางระบบการจัดการกับสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมไทยให้อยู่ต่อไปก่อนทุกอย่างจะสายเกินแก้ไข