การศึกษาสมบัติการจับตัวของน้ำมันที่ใช้แล้วจากครัวเรือนกับผิวสัมผัสของพอลิเมอร์ชนิดต่างๆ

ชื่อนักเรียนผู้จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์

พีชญา สอนเสริม, กัญญาวีร์ ศิริวสุกาญจน์

อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานวิทยาศาสตร์

ปิยาอร ทรัพย์ผ้าพับ, ปราโมทย์ น้ำยาง

โรงเรียนที่กำกับดูแลโครงงานวิทยาศาสตร์

โรงเรียนสตรีวิทยา

ปีที่จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์

พ.ศ. 2566

บทคัดย่อโครงงานวิทยาศาสตร์

การศึกษาสมบัติการจับตัวของน้ำมันที่ใช้แล้วจากครัวเรือนกับผิวสัมผัสของพอลิเมอร์ชนิดต่าง ๆ ได้แก่ พอลิไวนิลคลอไรด์ (PVC) พอลิซัลโฟน (PSU) ไคโตซาน และ เมทิลเซลลูโลส ทางผู้วิจัยจึงสนใจศึกษาเรื่องวัสดุศาสตร์เกี่ยวกับการหาสัดส่วนที่เหมาะสมของพอลิเมอร์ในการสร้างท่อชนิดใหม่และนำไปใช้งานในระบระบายน้ำเพื่อลดการอุดตันของน้ำมันและนำไปสู่การลดปัญหาน้ำท่วมในปัจจุบันโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ1.เปรียบเทียบการจับตัวของน้ำมันกับผิวสัมผัสของพอลิเมอร์ชนิดต่าง ๆ ศึกษาจากการนำตัวอย่างน้ำผสมน้ำมันไหลผ่านท่อพอลิเมอร์ชนิดต่างๆ และสกัดน้ำมันด้วยเฮกเซนจากน้ำที่ไหลผ่านท่อเพื่อหาปริมาณน้ำมันที่มีค่ามากที่สุดและน้อยที่สุดตามลำดับ 2.ศึกษาสมบัติการชอบน้ำและไม่ชอบน้ำของพอลิเมอร์ส่งผลต่อการจับตัวของน้ำมันกับพอลิเมอร์ที่พื้นผิวท่อ ศึกษาจากการวัดมุมสัมผัสของน้ำกับผิวสัมผัสของท่อ 4 ชนิด ได้แก่ พอลิไวนิลคลอไรด์ (PVC) , พอลิไวนิลแอลกอฮอล์ (PVA) , ไคโตซาน และ พอลิซัลโฟน (PSU) ด้วยไม้โปรแทรคเตอร์ครึ่งวงกลม

จะได้มุมสัมผัสของน้ำ 3.ศึกษาสมบัติการมีประจุของพอลิเมอร์ส่งผลต่อการจับตัวของน้ำมันกับพอลิเมอร์ที่พื้นผิวท่อ 4.หาปริมาณน้ำมันหลังการผ่านท่อพอลิเมอร์ชนิดต่าง ๆ โดยมีวิธีการดำเนินการแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอน 1.เตรียมพอลิเมอร์ 2.เคลือบพอลิเมอร์ที่พื้นผิวท่อ 3.การศึกษาคุณสมบัติความชอบน้ำ (Hydrophilic) ของผิวสัมผัสของท่อ 4 ชนิด พบว่า เมทิลเซลลูโลสมีความชอบน้ำมากที่สุดเนื่องจากมีมุมสัมผัสกับน้ำน้อยที่สุด รองลงมาคือ ไคโตซาน (16.67 องศา) พอลิซัลโฟน (PSU) (63.33 องศา) และ พอลิไวนิลคลอไรด์ (PVC) (66.67 องศา) 4.ทดสอบปริมาณน้ำมันหลังจากการผ่านท่อชนิดต่าง ๆ ผลการศึกษาพบว่า เมทิลเซลลูโลสมีการจับตัวกับน้ำมันน้อยที่สุดเนื่องจากปริมาณน้ำมันหลังการผ่านท่อมีปริมาณมากที่สุด(20.0788 กรัม) รองลงมาคือพอลิไวนิลคลอไรด์ (PVC) (17.8812 กรัม) พอลิไวนิลแอลกอฮอล์ (PVA) (16.6045 กรัม) และ ไคโตซาน (16.0865กรัม) ตามลำดับ