การเพาะเห็ดนางฟ้าจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร

ชื่อนักเรียนผู้จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์

ฟาอิส เส็นคง, เพ็ญพิชชา พินโท, ฟาฎีล บากา

อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานวิทยาศาสตร์

ฟาตีเมาะ แยนา, นูรีฎา ดอเลาะ

โรงเรียนที่กำกับดูแลโครงงานวิทยาศาสตร์

โรงเรียนสุไหงโกลก

ปีที่จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์

พ.ศ. 2563

บทคัดย่อโครงงานวิทยาศาสตร์

บทคัดย่อ

การเพาะเห็ดนางฟ้าจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบผลผลิตของเห็ดนางฟ้าที่เพาะด้วยขี้เลื่อยและชานอ้อยในสัดส่วนที่แตกต่างกัน เพื่อเปรียบเทียบลักษณะของดอกเห็ดนางฟ้าที่ได้จากการเพาะด้วยขี้เลื่อยและชานอ้อยในสัดส่วนที่แตกต่างกันและเพื่อใช้ประโยชน์จากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรที่เหลือใช้ปริมาณมากในการเพิ่มมูลค่าทางการเกษตร โดยใช้สัดส่วนของวัสดุเพาะที่แตกต่างกันคือ ขี้เลื่อย 100% ชานอ้อย 100% ขี้เลื่อย:ชานอ้อยในอัตราส่วน 70:30 และ 30:70 ตามลำดับ ซึ่งทำการทดลองเก็บเกี่ยวผลผลิตเห็ดเป็นระยะเวลา 60 วัน พบว่าเมื่อเปรียบเทียบความกว้างของหมวกเห็ดนางฟ้า พบความกว้างของหมวกเห็ดที่เพาะด้วยขี้เลื่อย:ชานอ้อย 30:70 มีค่าเฉลี่ยความกว้างมากที่สุด และค่าเฉลี่ยความกว้างน้อยที่สุดคือ ขี้เลื่อย:ชานอ้อย 70:30 เมื่อเปรียบเทียบความยาวของเห็ดนางฟ้า พบว่าความยาวของเห็ดนางฟ้าเพาะด้วย ชานอ้อย 100% มีค่าเฉลี่ยความยาวของเห็ดมากที่สุด และค่าเฉลี่ยความยาวของเห็ดที่น้อยที่สุดคือ ขี้เลื่อย 100% เมื่อเปรียบเทียบเส้นผ่านศูนย์กลางของก้านเห็ดนางฟ้า พบว่าเส้นผ่านศูนย์กลางของก้านเห็ดที่เพาะด้วยขี้เลื่อย:ชานอ้อย 70:30 มีค่าเฉลี่ยเส้นผ่านศูนย์กลางของก้านมากที่สุด และค่าเฉลี่ยเส้นผ่านศูนย์กลางของก้านเห็ดที่น้อยที่สุดคือ ขี้เลื่อย:ชานอ้อย 30:70 และเมื่อชั่งน้ำหนักเห็ดสดโดยรวม พบว่าน้ำหนักเห็ดสดรวมของเห็ดที่เพาะด้วยชานอ้อย 100% มีค่าเฉลี่ยน้ำหนักเห็ดสดมากที่สุด และน้ำหนักรวมเห็ดสดที่น้อยสุดคือ ขี้เลื่อย:ชานอ้อย 30:70 การนำชานอ้อยที่เหลือใช้ทางการเกษตรมาทำให้เกิดประโยชน์เพื่อลดของเสียทางการเกษตรและอุตสาหกรรม โดยนำมาใช้เป็นวัสดุในการเพาะเห็ดนางฟ้าร่วมกับขี้เลื่อยได้ เมื่อพิจารณาความกว้างของหมวกเห็ดและน้ำหนักเห็ดสดของเห็ดนางฟ้าภูฐานเฉลี่ยพบว่าวัสดุเพาะที่มีชานอ้อย 70% และ 100% ให้ความกว้างและน้ำหนักผลผลิตรวมได้สูงเช่นกัน ซึ่งไม่ได้แตกต่างจากการใช้ขี้เลื่อยไม้ยางพาราเพียงชนิดเดียว ทั้งนี้สามารถลดต้นทุนค่าขี้เลื่อยไม่ยางพาราได้และทำให้เกิดประโยชน์เพื่อลดของเสียทางการเกษตรและอุตสาหกรรม โดยนำมาใช้เป็นวัสดุในการเพาะเห็ดนางฟ้าร่วมกับขี้เลื่อยได้ดี