การศึกษาและเปรียบเทียบประสิทธิภาพของแคปซูลยาจากข้าวและมันสำปะหลังที่ผสมสารแอนโทไซยานินจากผักปลังและทับทิม
- ชื่อนักเรียนผู้จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์
พิชญาภา แก้วสมบัติ, ธีรภัทร รัตนชัย
- อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานวิทยาศาสตร์
ชุติกาญจน์ สางห้วยไพร, ณัฏฐพัชร์ เพ็ชรศรีกุล
- โรงเรียนที่กำกับดูแลโครงงานวิทยาศาสตร์
- ปีที่จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์
บทคัดย่อโครงงานวิทยาศาสตร์
แคปซูลสำหรับบรรจุยาที่มีขายตามท้องตลาดนั้นมีประสิทธิภาพในการปกป้องตัวยาจากแสงที่ไม่มากพอ เมื่อบรรจุยาที่มีความไวต่อแสงมากจะทำให้ตัวยาทำปฏิกิริยากับแสงและมีคุณภาพลดลง ถึงในปัจจุบันจะมีการผลิตบรรจุภัณฑ์สำหรับแคปซูลยาที่มีความไวต่อแสงขึ้นมาแล้ว แต่เมื่อเปิดฝาบรรจุภัณฑ์ออกก็จะมีแสงเล็ดลอดเข้าไปภายในนั้นได้บางส่วนจึงทำให้คุณภาพของตัวยาลดลงได้เช่นกัน การป้องกันในขั้นตอนของตัวบรรจุยาจึงเป็นทางเลือกที่สามารถปกป้องตัวยาจากแสงได้มากกว่า จากการศึกษาพบว่าสารแอนโทไซยานินมีคุณสมบัติในการดูดกลืนแสง พบมากในผลผลิตทางการเกษตรที่มีสีม่วงไปจนถึงสีแดงและสามารถรับประทานได้ สารแอนโทไซยานินจึงไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เพื่อให้ได้แคปซูลยาที่มีประสิทธิภาพในการปกป้องตัวยาจากแสง ผลิตจากวัตถุดิบที่หาง่ายและสามารถนำผลผลิตทางการเกษตรมาสร้างมูลค่าเพิ่มได้ ทางผู้จัดทำจึงได้ศึกษาและเปรียบเทียบประสิทธิภาพของแคปซูลยาที่ทำจากข้าวเจ้าและมันสำปะหลังที่ผสมสารแอนโทไซยานินจากผักปลังและทับทิม
โดยสกัดสารแอนโทไซยานินจากผักปลังและทับทิมโดยใช้สารละลายเอทานอลในอัตราส่วนวัตถุดิบต่อสารละลายเป็น 1 : 10 ใช้เวลาสกัด 5 ชั่วโมงและกรองตะกอนออก จากนั้นเก็บในบริเวณที่ไม่มีแสงส่องถึงที่อุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียส จากนั้นนำแป้งข้าวเจ้าและแป้งมันสำปะหลังมาผสมกันโดยแบ่งเป็น 3 การทดลองโดยใช้อัตราส่วน 70 : 30 , 50 : 50 และ 30 : 70 เตรียมสารละลายเจลาตินในน้ำกลั่นที่อุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียส ในอัตราส่วน 1 : 20 ตวงแป้งที่ผสมไว้มาชนิดละ 6 กรัม ใส่ในบีกเกอร์ขนาด 250 มิลลิลิตร เติมสารละลายเจลาติน 50 มิลลิลิตรลงในแต่ละบีกเกอร์ จากนั้นกวนผสมให้เข้ากันและนำไปอุ่นที่อุณหภูมิ 85 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 5 นาที เติมกลีเซอรอลร้อยละ 30 ของน้ำหนักเจลาตินและกวนให้เข้ากันเป็นเวลา 5 นาที แบ่งทั้ง 3 ชนิดลงในบีกเกอร์ ชนิดละ 3 ใบ ใบละ 20 มิลลิลิตร นำสารสกัดแอนโทไซยานินจากผักปลังมาผสมร้อยละ 10 , 30 และ 50 โดยปริมาตรลงไป กวนให้เข้ากันเป็นเวลา 5 นาที จากนั้นเทลงถาดและนำไปอบให้แห้งในตู้อบลมร้อนที่อุณหภูมิ 40 องศาเซลเซียสจนแผ่นฟิล์มแห้งสนิท ทำซ้ำขั้นตอนเดิมโดยเปลี่ยนจากสารสกัดแอนโทไซยานินจากผักปลังเป็นสารสกัดแอนโทไซยานินจากทับทิม ตรวจสอบคุณสมบัติทางกายภาพและประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดดของแผ่นฟิล์มแต่ละชิ้น จากนั้นจึงขึ้นรูปแคปซูลจากสารตั้งต้นของตัวฟิล์มที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุด