การศึกษาการซ่อมแซมรอยแผลของแคคตัส
- ชื่อนักเรียนผู้จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์
ปนิตา ศุภวรรณ, ภัคพร เยื่อปุย
- อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานวิทยาศาสตร์
คณิตา สุขเจริญ
- โรงเรียนที่กำกับดูแลโครงงานวิทยาศาสตร์
- ปีที่จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์
บทคัดย่อโครงงานวิทยาศาสตร์
ในปัจจุบัน แคคตัสถือเป็นพืชที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นพืชที่มีรูปร่างที่แตกต่างจากพืชชนิดอื่น มีลำต้นเป็นเหลี่ยมหรือกลีบที่แปลกตา อีกทั้งยังออกดอกหลากสีสวยงาม รวมถึงเป็นไม้ที่ทนต่อความแห้งแล้งได้ดี แคคตัสมีเนื้อเยื่อพาเรงคิมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งเนื้อเยื่อพาเรงคิมาเป็นเนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยวที่มีการเจริญและแบ่งตัวซ่อมแซมเนื้อเยื่อพืชได้เมื่อเกิดรอยแผล ทางคณะผู้จัดทำ จึงมีความสนใจที่จะศึกษาลักษณะการสร้างเนื้อเยื่อของ พาเรงคิมาในการซ่อมแซมรอยแผลแคคตัส และความสัมพันธุ์ระหว่างรูปร่างของรอยแผลกับระยะเวลาที่ใช้ในการซ่อมแซมรอยแผล ในการศึกษาจะใช้ต้นกระบองเพชรทั้งหมด 5 ชนิด ได้แก่ Astrophytum asterias (Zucc.) Lem., Astrophytum myriostigma Lem., Echinopsis subdenudata Cárdenas,
Melocactus intortus (Mill.) Urb. และ Melocactus curvispinus Pfeiff. โดยในการทดลอง จะควบคุมสภาพแวดล้อมของแคคตัส โดยนำมาอยู่ในสถานที่เดียวกัน ทำให้แคคตัสเกิดรอยแผล เลือกบริเวณที่ต้องการให้เกิดรอยแผล
ใช้มีดผ่าตัดกรีดแคคตัสให้เกิดรอยแผลรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส โดยรอยแผลของแต่ละต้นมีพื้นที่เท่ากัน จากนั้นนำแคคตัสไปไว้ในสภาพแวดล้อมเดียวกัน เก็บผลการทดลอง โดยนำแคคตัสมาส่องกล้องบริเวณที่เกิดรอยแผลด้วยกล้องจุลทรรศน์แบบสเตอริโอ บันทึกภาพจากจอแสดงผลภาพ นำภาพถ่ายที่ได้ไปวิเคราะห์ด้วยโปรแกรม imageJ เพื่อวิเคราะห์เป็นภาพสองมิติ นำภาพที่ได้มาเปรียบเทียบระยะเวลาการสร้างเนื้อเยื่อพาเรงคิมาว่าแคคตัสชนิดใดใช้เวลาในการสร้างเนื้อเยื่อน้อยที่สุด ทางคณะผู้จัดทำคาดว่า การศึกษาครั้งนี้ได้ทราบ 1.ลักษณะการเจริญของเนื้อเยื่อพาเรงคิมาในแคคตัส 2.ความสัมพันธ์ระหว่างพื้นที่ที่เกิดและระยะเวลาใช้ในการสร้างเนื้อเยื่อเพื่อซ่อมแซมรอยแผล 3.การปรับตัวของพืชเมื่อเกิดความเสียหายทางด้านสัณฐานวิทยาและสรีรวิทยา และใช้ในการบำรุงรักษาเลี้ยงดูและขยายพันธุ์แคคตัสต่อไป