การสกัดซาโปนินจากไมยราบ Mimosa pudica L.และการออกฤทธิ์ต่อหอยเชอรี่ Pomacea canaliculate

ชื่อนักเรียนผู้จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์

ณัฐกฤตา พรศิริวงศ์, ศิริรัตน์ ฉลาดเจน

อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานวิทยาศาสตร์

สุริยา กล้วยดี, วัชราภรณ์ แสนนา

โรงเรียนที่กำกับดูแลโครงงานวิทยาศาสตร์

โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย บุรีรัมย์

ปีที่จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์

พ.ศ. 2566

บทคัดย่อโครงงานวิทยาศาสตร์

แนวคิดในการพัฒนาโครงงานนี้มาจากสภาพปัญหาของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่ประสบปัญหาด้านศัตรูพืชทำลายผลผลิต ซึ่งศัตรูพืชที่ได้กล่าวถึงในที่นี้ คือหอยเชอรี่ จากประเด็นปัญหาดังกล่าวจึงมีการพัฒโครงงานนี้ขึ้นเพื่อ สกัดซาโปนินจากไมยราบ และนำมาเป็นสารสกัดซาโปนินจากไมยราพมาศึกษาอัตราส่วนที่เหมาะสมในการกำจัดหอยเชอรี่ โดยแบ่งการทดลองออกเป็น 2 ขั้นตอน คือทำการสกัดสารสกัดหยาบจากไมยราบโดยใช้ 70% ของเอทานอลเป็นตัวทำละลาย วิเคราะห์ปริมาณของซาโปนินเทียบกับกราฟของสารละลายมาตรฐานซาโปนิน ด้วยเทคนิค Uv-visible spectrophotometer ที่ความยาวคลื่น 550 nm และทำการวิเคราะห์ชนิดของซาโปนินในสารสกัด และนำสารสกัดไมยราบมาทดสอบในการกำจัดหอยเชอรี่ โดยแบ่งการทดลองที่มีความเข้มข้นของสารสกัดซาโปนินจากไมยราบ แตกต่างกัน เป็น 7 ชุดการทดลอง ได้แก่ความเข้มข้น 0, 180, 300, 1,500, 3,000,และ4,500ppm ผลการทดลองพบว่าสารสกัดซาโปนินจากไมยราบมีประสิทธิภาพในการกำจัดหอยเชอรี่​ มีวัตถุประสงค์​เพื่อศึกษาการสกัดสาร​ ชนิด​ และปริมาณของซาโปนินในไมยราบ​ นำส่วนใบและส่วนลำต้นของไมยราบแห้ง​ 100​ กรัม​ สกัดโดยใช้เอธานอล​ 70% การกลั่นแบบ​reflux สารสกัดหยาบที่ได้มีน้ำหนัก​ 17.879 และ​ 5.845 กรัมตามลำดับ​ ตรวจวิเคราะห์ชนิดสารสกัดเปรียบเทียบกับสารมาตรฐาน​ไตรเทอร์พีนอยด์​ ซาโปนินและสารมาตรฐาน​ดิจิโทนิน​ โดวิธี​ Foam tase และ​ Liebermann-Burchard tast พบว่า​Triterpene saponin digitonin น้ำใบ น้ำลำต้น Steroid saponin n-butanol saponinใบ n butanol ลำต้กำจัดหอยเชอรี่โดยเลี้ยงในน้ำผสมสารสกัดหยาบ 0, 1,000, 2,000 และ4,000ppm พบว่าที่ความเข้มข้น 4,000ppm หอยเชอรี่ตายภายใน 12 ชั่วโมง

สามารถสรุปผลการทดลองได้ว่าสารสกัดซาโปนินจากไมยราบสามารถกำจัดหอยเชอรี่ได้