การเปลี่ยนเพศปลานิลโดยใช้สารสกัดจากวัชพืชโคกกระสุน
- ชื่อนักเรียนผู้จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์
มนัสนันท์ อักษรผอม, อังค์วรา สังขสัญญา
- อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานวิทยาศาสตร์
เตือนตา ร่าหมาน, แจ่มจันทร์ เพชรศิริ
- โรงเรียนที่กำกับดูแลโครงงานวิทยาศาสตร์
- ปีที่จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์
บทคัดย่อโครงงานวิทยาศาสตร์
ในปัจจุบันเกษตรกรมักจะเพาะเลี้ยงปลานิลเพศผู้ล้วนโดยวิธีการผลิตปลานิลเพศผู้ที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบัน คือ การให้ลูกปลาที่ถุงไข่แดงยุบแล้วกินอาหารที่ผสมฮอร์โมนเมทธิลเทสโตสเตอโรน (17 α-methyltestosterone, MT) อย่างไรก็ตามวิธีนี้อาจไม่เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคในบางประเทศ เพราะการแปลงเพศปลานิลมักจะทำในกระชังในบ่อดิน จึงอาจจะมีฮอร์โมนเมทธิลเทสเตสเตอโรนที่ผสมกับอาหารให้ลูกปลานิล หลงเหลือและตกค้างอยู่ทั้งในน้ำและดินเลน และยังสามารถส่งผลกระทบต่อผู้ที่ลงไปปฏิบัติงานในบ่อทั้งมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งตับและการเป็นหมัน (Fitzpatrick et al.,1998) และในการเปลี่ยนถ่ายน้ำทิ้งจากบ่อสู่ภายนอกอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สิ่งมีชีวิตอื่น ๆในระบบนิเวศ และสภาพความสมดุลของสัดส่วนเพศปลาในธรรมชาติ โดยจะทำให้เกิดลักษณะสองเพศในตัวเดียวกันมากขึ้น (เรณู ว่องส่งสารและนพนันท์ อยู่รอง,2549) อีกทั้งฮอร์โมนเมทธิลเทสโตสเตอโรน (17 α-methyltestosterone, MT) ยังมีราคาค่อนข้างสูง รวมถึงต้องใช้เวลาและแรงงานที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษในการปฏิบัติงาน
ปัจจุบันจึงมีการศึกษาการแปลงเพศปลาด้วยสารสกัดจากธรรมชาติเพื่อทดแทนการใช้ฮอร์โมน เช่น การสกัดกวาวเครือขาวกับการแปลงเพศปลานิล (รุ่งกานต์ กล้าหาญและคณะ,2547) สารสกัดใบมังคุดเพื่อแปลงเพศปลา ( อุไรวรรณ,2544) และการเปลี่ยนแปลงเพศปลากัดโดยใช้สารสกัดจากวัชพืชโคกกระสุน (นพรัตน์ สีธิอินใจ,2555) เป็นต้น ทางคณะผู้จัดทำจึงเล็งเห็นว่าสารสกัดจากวัชพืชโคกกระสุนมีความเป็นไปได้ที่จะสามารถใช้ในการเปลี่ยเพศปลานิล โดยมีวัตถุประสงค์ คือ
1.เพื่อศึกษาระดับความเข้มข้นของสารสกัดจากวัชพืชโคกกระสุนที่เหมาะแก่การเปลี่ยนเพศของปลานิล
2.เพื่อศึกษาคุณสมบัติการออกฤทธิ์ของสารสกัดจากโคกกระสุนกับฮอร์โมนสังเคราะห์ในการเปลี่ยนเพศปลานิล
มีวิธีทำดังนี้
วางแผนการทดลองแบบสุ่มตลอด (Completely randomized design, CRD) แบ่งเป็น 4 ชุดการทดลองโดยใช้ลูกปลานิลระยะก่อนถุงไข่แดงยุบ ซ้ำละ 200 ตัว
1 การเตรียมตัวอย่างวัชพืชโคกกระสุน
สกัดวัชพืชโคกกระสุนด้วยการนำวัชพืชโคกกระสุนบดละเอียดมาแช่ในเอทิลแอลกอฮอล์นาน 7 วัน จากนั้นระเหยแอลกอฮอล์ด้วยเครื่องกลั่นระเหยสารแบบหมุน (rotary evaporator) ที่อุณหภูมิ 45 องศาเซลเซียส แล้วนำทารที่ได้ไปทำละลายด้วยน้ำ ปรับความเข้มข้นให้เท่ากับ 0, 0.5, 1 และ 1.5 กรัมต่อน้ำ 1 ลิตร
2 การทดสอบสารสกัด
นำลูกปลานิลระยะก่อนถุงไข่แดงยุบ (อายุ 12 วันหลังปฏิสนธิ) มาอนุบาลในตู้กระจก ขนาด 12 ลิตร ด้วยน้ำที่ผสมด้วยสารสกัดจากวัชพืชโคกกระสุนเป็นระยะเวลา 5 วัน จนถุงไข่แดงยุบหมด เปลี่ยนถ่ายน้ำ 50-70 เปอร์เซ็นต์ทุกวัน จากนั้นจึงสุ่มลูกปลาซ้ำละ 80 ตัว มาเลี้ยงต่อในถังไฟเบอร์ขนาด 200 ลิตร ด้วยน้ำธรรมดาเป็นเวลา 8 สัปดาห์ โดยให้อาหารผงสำหรับลูกปลาในสัปดาห์ที่ 1-2 และให้อารหารเม็ดสำเร็จรูปสำหรับอนุบาลสัตว์น้ำในสัปดาห์ที่ 3-8 ให้อาหารวันละ 2 ครั้ง โดยให้ปลากินจนอิ่ม ดูดตะกอนและเปลี่ยนถ่ายน้ำ 30 เปอร์เซ็นต์ สัปดาห์ละ 2 ครั้ง
3 ตรวจลักษณะเพศปลา
เมื่อครบ 8 สัปดาห์นำลูกปลามาตรวจสอบผลการเปลี่ยนแปลงของเพศโดยการย้อมสีอวัยวะเพศสืบพันธุ์ด้วยสีอะซิโตคามิน แล้วนำไปจำแนกเพศผ่านกล้องจุลทรรศน์
ผลการทดลองที่คาดว่าจะได้รับ คือ สารที่สกัดได้จากวัชพืชโคกกระสุนมีคุณสมบัติการออกฤทธิ์และมีประสิทธิภาพในการเปลี่ยนแปลงเพศของปลานิลจากเพศเมียสู่เพศผู้