แสงสีที่มีผลต่อสีปีกของผีเสื้อ
- ชื่อนักเรียนผู้จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์
จันทรัตน์ เวทยานนท์, บวรลักษณ์ เต็กเดิม, วันทนีย์ แก้วบัวทอง
- อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานวิทยาศาสตร์
คณิตา สุขเจริญ
- โรงเรียนที่กำกับดูแลโครงงานวิทยาศาสตร์
- ปีที่จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์
บทคัดย่อโครงงานวิทยาศาสตร์
ผีเสื้อมีการแสดงสีที่โดดเด่นในธรรมชาติคือมีสีสันที่ต่างกัน สีของปีกผีเสื้อสามารถอำพรางตัวจากศัตรูและดึงดูดคู่ได้ ซึ่งสีของปีกนั้นมาจากเม็ดสีที่อยู่บนเกล็ดปีกของผีเสื้อ เกล็ดปีกของผีเสื้อแบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือเกล็ดที่มีเม็ดสีภายใน โดยสีปีกของผีเสื้อที่มีเม็ดสีอยู่ภายในเกล็ดเกิดจากเม็ดสีเคมีที่ดูดซับความยาวคลื่นแสงและสะท้อนสีออกมาเข้าสู่ตาเราทำให้เรามองเห็นปีกผีเสื้อเป็นสีต่างๆ และเกล็ดที่ไม่มีเม็ดสีภายในโดยโครงสร้างของปีกผีเสื้อชนิดนี้จะมีเกล็ดที่มีรูปร่างเป็นสันนูนขึ้นมา และจะสะท้อนให้เห็นเป็นสีต่างๆ ซึ่งสีของปีกผีเสื้อที่ไม่มีเม็ดสีเกิดจากแสงมาตกกระทบกับเกล็ดที่เป็นเยื่อบางๆซ้อนกันอยู่และจะสะท้อนออกมาเป็นสีต่างๆให้เราเห็น
ในขณะที่ผีเสื้อถูกแสงแดดเกล็ดปีกก็จะทำหน้าที่ทั้งดูดซับและสะท้อนแสง ซึ่งการผลิตสีบนปีกของผีเสื้อมีกลไกพื้นฐาน 2 ประการ คือ สีธรรมดาบนปีกเกิดจากรงควัตถุที่อยู่บนปีกจะดูดซับคลื่นแสงบางส่วนและสะท้อนออกมา แต่ละรงควัตถุจะให้สีต่างกัน และสีที่เปลี่ยนแปลงเมื่อมีแสงมาตกกระทบไม่ได้เกิดจากการให้สีของเม็ดสีทั้งหมด แต่มีบางส่วนเกิดจากการแทรกสอดของแสง เนื่องจากมีการสะท้อนที่ไม่เท่ากันในแต่ละวัตถุ ซึ่งโครงสร้างสีในบางครั้งสามารถปรากฏบนวัตถุเดียวกันและเปลี่ยนเป็นสีอื่นได้
ทางคณะผู้จัดทำจึงสนใจที่จะศึกษาผีเสื้อชนิดที่เกล็ดปีกมีเม็ดสีภายในแต่เกล็ดมีรูปร่างเป็นสันนูนขึ้นมา ซึ่งผีเสื้อที่ทางคณะผู้จัดทำเลือกศึกษาคือ ผีเสื้อหนอนคูณธรรมดาโดยทางคณะผู้จัดทำจะทำการทดลองเลี้ยงผีเสื้อตั้งแต่ระยะเป็นหนอน ด้วยการเลี้ยงด้วยสีของแสงจากหลอดไฟ LED ที่มีสีแตกต่างกัน 3 สี คือ สีแดง สีเขียวและสีน้ำเงิน เปรียบเทียบกับชุดแสงจากธรรมชาติ โดยจะเก็บผลการทดลองด้วยการวัดค่าสีของตำแหน่งเดิมบนปีกผีเสื้อด้วยเครื่องColor Meter เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของสีปีกผีเสื้อที่จะเกิดขึ้น และทราบปัจจัยที่มีผลต่อความหลากหลายของสีปีกผีเสื้อ ซึ่งอาจจะนำโครงสร้างของปีกผีเสื้อนี้ไปประยุกต์ใช้ในการสร้างนวัตกรรมเกี่ยวกับเสื้อผ้าที่สามารถจัดเรียงโครงสร้างให้สะท้อนสีออกมาในรูปแบบที่แตกต่างกันได้ เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาเสื้อผ้าให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้นในอนาคต