การศึกษาความหลากชนิดและความชุกชุมของยุงบริเวณพื้นที่แปลงเกษตรในจังหวัดสุพรรณบุรี
- ชื่อนักเรียนผู้จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์
พิชญ์สินี ไทยศรี, พัชชา สุทธิธารสุวรรณ, พิชญาภา แช่มวงษ์
- อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานวิทยาศาสตร์
พิมพ์รดา เพิ่มพูล, นริศตา ด้วงต้อย
- โรงเรียนที่กำกับดูแลโครงงานวิทยาศาสตร์
- ปีที่จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์
บทคัดย่อโครงงานวิทยาศาสตร์
การศึกษาความหลากชนิดและความชุกชุมของยุงบริเวณพื้นที่แปลงเกษตรในจังหวัดสุพรรณบุรี มีขอบเขตของพื้นที่การศึกษา คือ อำเภอเมือง อำเภอศรีประจันต์ อำเภอบางปลาม้า และอำเภอสองพี่น้อง ซึ่งเป็นพื้นที่การเกษตรของจังหวัดสุพรรณบุรี ทั้งหมด จำนวน 100 หลังคาเรือน และนำข้อมูลมาวิเคราะห์ ค่าดัชนีความหลากหลาย (H’) ดัชนีค่าความชุกชุม HI, CI และ BI และใช้สถิติค่าความถี่และค่าร้อยละ ผลการศึกษา พบว่า ความหลากหลายชนิดของลูกน้ำยุงที่พบในบริเวณพื้นที่การเกษตรของจังหวัดสุพรรณบุรี มีค่าดัชนีความหลากหลายชนิดในภาพรวม เท่ากับ 1.177 โดยพบว่า ลูกน้ำยุงที่พบมากที่สุดคือ ยุงรำคาญ (Culex spp.) 459 ตัว ร้อยละ 53.248 รองลงมา คือ ยุงลายสวน (Aedes albopictus) 196 ตัว ร้อยละ 22.737 และ ยุงลายบ้าน (Aedes aegypti) 162 ตัว ร้อยละ 18.793 ค่าความชุกชุมของลูกน้ำยุง พบว่า มีค่า HI ร้อยละ 15 ค่า CI ร้อยละ 25 และค่า BI ร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับการแปลค่าดัชนีลูกน้ำยุงของกรมควบคุมโรค พบว่า ค่า HI และ ค่า BI อยู่ในระดับที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการ แพร่โรค ส่วนค่า CI อยู่ในระดับความเสี่ยงสูงมากที่จะเกิดการแพร่โรค สีและประเภทของภาชนะที่พบลูกน้ำยุง พบว่าพฤติกรรมการวางไข่ของยุงจะชอบวางไข่ในภาชนะประเภทดินเผา และเป็นภาชนะที่มีสีเข้ม ส่วนสภาพแวดล้อมที่ส่งผลต่อการวางไข่ของลูกน้ำยุง คือปริมาณระดับน้ำในภาชนะ 75-100 % ภาชนะไม่มีการทำความสะอาด ไม่มีการกำจัดขยะมูลฝอย การใช้น้ำประปา และการกำจัดยุงที่มีหลายวิธีแต่ยังคงสำรวจพบลูกน้ำยุงในพื้นที่เก็บข้อมูล คือ การใช้สารเคมี การพ่นหมอก ไฟฟ้าดัก และกระชอน ดังนั้นจึงควรหาวิธีการและแนวทางให้คนในชุมชนแต่ละพื้นที่ตระหนักถึงอันตรายและความสำคัญของการดูแลแหล่งที่อยู่อาศัยไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงต่อไป