การออกแบบและสร้างเตาอบรังสีอินฟาเรด
- ชื่อนักเรียนผู้จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์
นภัสนันท์ เรืองมาก, นีรชากร รักห่วง
- อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานวิทยาศาสตร์
รุ่งดาว อ้นชุม, พิชญา ทิพย์ศรี
- โรงเรียนที่กำกับดูแลโครงงานวิทยาศาสตร์
- ปีที่จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์
บทคัดย่อโครงงานวิทยาศาสตร์
ปัจจุบันการปลูกกล้วยในประเทศไทยมีปริมาณเพิ่มขึ้นแสดงให้เห็นถึงความนิยมในการบริโภค โดยปกติกล้วยที่คนไทยนิยม รับประทานมี 3 ชนิด ได้แก่ กล้วยไข่ กล้วยหอม และกล้วยน้ำว้า ซึ่งจะมีคุณค่าทางโภชนาการแตกต่างกันออกไป โดยกล้วยน้ำว้า จะพบวิตามินและแร่ธาตุมากกว่ากล้วยชนิดอื่น อีกทั้งยังมีน้ำตาลน้อย จึงนิยมนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น กล้วยฉาบ กล้วยทอด กล้วยอบเนย ซึ่งเป็นอาหารที่มีน้ำมันและน้ำตาลจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นเบาหวาน ความดัน ไขมันอุดตัน และมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคมะเร็งจากการใช้น้ำมันเก่าทอดซ้ำ ทำให้ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ อีกทั้งกระบวนการทอดใช้เวลานาน ทำให้เราได้รับความร้อนจากเตาเป็นเวลานาน ในปัจจุบันจึงมีการนำรังสีอินฟราเรดมาใช้ในกระบวนการอบกล้วยน้ำว้า เพื่อลดปัญหาดังกล่าวข้างต้น เนื่องจากรังสีอินฟราเรดสามารถทะลุผ่านวัตถุโดยเฉพาะผลผลิตทางการเกษตรเข้าไปทำให้โมเลกุลของวัตถุนั้น ๆ ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนมากกว่าปกติ เป็นผลให้วัตถุนั้นมีอุณหภูมิสูงขึ้น ทำให้อัตราการอบแห้งสูงขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้พลังงานที่แผ่รังสีออกมาในรูปคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจะไม่ทำให้คุณสมบัติทางกายภาพของวัตถุนั้นๆ ต้องเสียไป ซึ่งในปัจจุบันมีการนำรังสีอินฟราเรดมาใช้ในการอบแห้งอาหารหลายชนิด เช่น ขนุน กล้วย เนื้อวัว และกระเทียม
จากเหตุผลดังที่กล่าวมา ดังนั้นกลุ่มของข้าพเจ้าจึงคิดจะออกแบบและสร้างเตาอบจากรังสีอินฟราเรดเพื่อนำมาใช้ในการอบกล้วย และเปรียบเทียบประสิทธิภาพของผลผลิตที่ได้ทั้งในด้านต้นทุน เวลา และคุณภาพของกล้วยที่ได้จากการอบด้วยเตาอบรังสีอินฟาเรดและการทอดด้วยน้ำมัน