เเผ่นฟิล์มจากไคโตซานเสริมด้วยเบนโทไนท์เพื่อช่วยบำบัดน้ำเสีย
- ชื่อนักเรียนผู้จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์
พรพิพัฒน์ เทพจันทร์, พงศกร แก้วสุวรรณ
- อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานวิทยาศาสตร์
ฐาปนี จโนภาส
- โรงเรียนที่กำกับดูแลโครงงานวิทยาศาสตร์
- ปีที่จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์
บทคัดย่อโครงงานวิทยาศาสตร์
โครงงานนี้มีจุดประสงค์เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของไคโตซานที่เสริมด้วยเบนโทไนต์ที่เป็นลักษณะเป็นแผ่นคล้ายแผ่นฟิล์มใช้สำหรับการบำบัดน้ำเสียได้ดี โดยที่ไคโตซานเป็นอนุพันธุ์ของไคติน ไคโตซานเป็นโพลีเมอร์ของหน่วยย่อยที่ชื่อว่า glucosamine มากกว่า 60% ขึ้นไป ( นั้นคือมีปริมาณ N- acetylglcosamine ) โดยการสกัดสารไคโตซานจะต้องกำจัดโปรตีน (deproteination) โดยการทำปฏิกิริยากับด่าง ต่อมาต้องกำจัดเกลือแร่ (demineralization) โดยการนำวัตถุดิบที่ผ่าน กระบวนการกำจัดโปรตีนมาแล้ว มาทำปฏิกิริยากับกรด ทำให้เกลือแร่ส่วนใหญ่เปลี่ยนเป็นก๊าซ และขั้นตอนสุดท้ายคือลดหมู่อะซีติล (deacetylation) เป็นการเปลี่ยนแปลงทางเคมีที่ใช้ในการกำจัดหรือลดหมู่อะซีติล (CH3CO-) ที่มีอยู่บนโมเลกุลของไคติน เพื่อให้เกิดเป็นไคโตซาน (chitosan) ต่อมานำมาทำเป็นแผ่นฟิล์มโดยเตรียมสารละลายไคโตซานละลายในกรดอะซีติกเข้มข้น 1% ปรับค่า pH ด้วยแอมโมเนียมไฮดรอกไซด์ ขึ้นรูปโดยลงผ่านถาดพลาสติก แล้วนำไปอบในตู้อบพร้อมทั้งปรับความชื้นสัมพัทธ์ แล้วนำมาผสมกับเบนโทไนต์ที่ไม่ละลายน้ำและช่วยเพิ่มที่มีคุณสมบัติดูดซับโลหะหนัก โดยได้ทำการทดลอง ซึ่งการทดลองแรก คือ นำแผ่นฟิล์มที่มีส่วนผสมเบนโทไนต์บำบัดน้ำเสีย โดยวัดจากค่า DO BOD และความเป็นกรด-เบสของน้ำ การทดลองที่สองเป็นการทดลองเปรียบเทียบอัตราส่วนระหว่างไคโตซานและเบนโทไนต์ที่สามารถบำบัดน้ำได้ที่ดีที่สุด ตรวจสอบจากความสามารถในการดูดซับสาร จากการศึกษาพบว่าไคโตซานมีส่วนช่วยในการบำบัดน้ำเสียและมีเบนโทไนต์ที่ช่วยในการเป็นตัวดูดซับจำพวกโลหะหนักโดยความเข้มข้นที่เหมาะสม ถ้าหากลดความเข้มข้นไคโตซานและเบนโทไนต์อย่างใดอย่างหนึ่ง ทำให้ประสิทธิภาพการบำบัดน้ำเสียลดลงด้วย ซึ่งถ้าหากใช้ไคโตซานมากหรือเบนโทไนต์เกินไป ถ้าคนที่ใช้น้ำเกิดอาการท้องเสีย ระบบขับถ่ายทำงานหนัก ทำให้ท้องเสียได้