เปรียบเทียบประสิทธิภาพของการเจริญเติบโตของข้าวไรซ์เบอร์รี่จากนาโนซิงค์ออกไซด์และการปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่จากน้ำหมักชีวภาพ

ชื่อนักเรียนผู้จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์

ภัคนันท์ แก้วมณี, ก้องตะวัน สงวนวงค์, อนิวรรตน์ ศรีธาราธิคุณ

อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานวิทยาศาสตร์

จิรวัฒน์ วโรภาษ

โรงเรียนที่กำกับดูแลโครงงานวิทยาศาสตร์

โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย เชียงราย

ปีที่จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์

พ.ศ. 2564

บทคัดย่อโครงงานวิทยาศาสตร์

การขยายพันธุ์พืชมีความสำคัญในการปลูกพืช เพราะขั้นตอนแรกของการเพาะปลูกต้องมีต้นกล้าพืชเสียก่อน การเลือกวิธีการขยายพันธุ์พืชที่เหมาะสมจะทำให้สามารถผลิตต้นกล้าได้ตามปริมาณ และมีคุณภาพที่ต้องการ ซึ่งเป็นผลไปถึงคุณภาพหรือปริมาณของผลผลิตของพืชนั้นๆ การปลูกข้าวนั้นก็เริ่มจากการเพาะกล้าโดยเกษตรกรนั้นมักพบปัญหาราในพืช ซึ่งจะทำให้อัตราดัชนีการงอกของพืชน้อยลง สามารถทำลายข้าวได้ทุกระยะ ตั้งแต่เริ่มปลูกจนถึงเก็บเกี่ยว ในปัจจุบันมีผู้คิดหลากหลายวิธีในการแก้ไขปัญหาในการเพาะกล้า หนึ่งในวิธีในการได้แก่น้ำหมักชีวภาพ แต่ถึงยังไงการใช้น้ำหมักชีวภาพก็มีข้อเสียคือใช้ระยะเวลาในการเห็นผล การเปลี่ยนแปลงของต้นไม้ไปในทางที่เราพอใจต้องใช้เวลานาน ทำให้ดินเป็นกรด พืชผักไม่เติบโตสวยงาม และสิ้นเปลืองเงินมากเกินไปโดยใช่เหตุ น้ำหมักไม่ได้ใช้รักษาหรือเยียวยาต้นที่เป็นโรคพืชหรือแมลงกิน ใช้แค่ป้องกันเท่านั้นและมักพบจุลินทรีย์ที่พบในน้ำหมักชีวภาพมักเป็นกลุ่มแบคทีเรีย นอกจากนี้ยังยังอาจพบเชื้อรา และยีสต์ นอกจากนี้มีวิธีที่มีการศึกษาคือการนำนาโนซิงค์ออกไซด์มาใช้ศึกษา ซึ่งพบว่ามีผลทําให้ต้นพริกหวานเจริญเติบโตได้ดีจากความสูงของลําต้น ปริมาณและ ความยาวของ รากและจํานวนใบที่เพิ่มขึ้น ผู้จัดทำจึงสนในที่จะศึกษาการเจริญเติบโตของข้าวไรซ์เบอร์รี่โดยใช้นาโนซิงค์ออกไซด์ โดยที่จะศึกษาตั้งแต่ขั้นตอนการบ่มแช่ข้าว จนถึงการเพาะต้นกล้า เพื่อดูการเจริญเติบโต อัตราการเกิด และน้ำหนักของข้าวไรซ์เบอร์รี่