ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากเปลือกไข่ชะลอการสุกของผลไม้
- ชื่อนักเรียนผู้จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์
สุชาสินี ป้อมพยัคฆ์, พัชรีพร เพิ่มพูล
- อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานวิทยาศาสตร์
อำนวยพร ศรีสวัสดิ์
- โรงเรียนที่กำกับดูแลโครงงานวิทยาศาสตร์
- ปีที่จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์
บทคัดย่อโครงงานวิทยาศาสตร์
ไข่เป็นสิ่งที่ให้ประโยชน์มากมายกับเรา ให้ทั้งสารอาหารและพลังงาน เราควรทานไข่วันละ 1 ฟอง ซึ่งเรารับประทานเพียงด้านในของไข่ โดยไม่ได้นําเปลือกไข่ไปใช้ประโยชน์ จึงทําให้มีเปลือกไข่ มากมายที่เป็นขยะรอย่อยสลาย โดยไม่ได้นําไปใช้ประโยชน์
คณะผู้จัดทําจึงได้ศึกษาเกี่ยวกับประโยชน์ของเปลือกไข่ เพื่อนําเปลือกไข่ซึ่งเราเห็นกันอยู่ทุก วันมาใช้ให้เกิดประโยชน์และจากการศึกษาพบว่าในเปลือกไข่มีแคลเซียมคาร์บอเนตซึ่งถ้าเมื่อทํา ปฏิกิริยากับกรดเกลือแล้วจะได้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มาใช้ทางผู้จัดทําจึงคิดที่จะเอาก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ โดยการทดลองที่ 1 ได้ทําการทดลองหาว่าเปลือกไข่ชนิดใด สามารถนําก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาได้มากที่สุด โดยจากผลการทดลองพบว่า เปลือกของไข่ เป็ดสามารถให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากที่สุด และการทดลองที่ 2 เปลือกไข่ในลักษณะใดเมื่อทํา ปฏิกิริยากับกรดเกลือแล้วได้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมามากกว่ากัน โดยแบ่งเปลือกไข่ออกเป็น 3 ลักษณะ คือ เปลือกไข่เป็ดที่ยังไม่นํามาตํา เปลือกไข่เป็นที่ตําหยาบ และเปลือกไข่เป็ดที่ตําละเอียด ผล การทดลอง คือ เปลือกไข่เป็ดตําละเอียดได้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากที่สุด โดยจากการทดลองทั้ง 2 ครั้ง สรุปได้ว่าเปลือกไข่เป็ดตําอย่างละเอียดได้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมามากที่สุดจากการ ทดลองทําปฏิกิริยากับกรดเกลือ
โดยคณะผู้จัดทําได้นําก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากเปลือกไข่มาชะลอการสุกของผลไม้ โดยทํา ที่ชะลอการสุกของผลไม้ มีลักษณะเป็นตู้กระจกทรงสี่เหลี่ยมปิดมิดชิด มีฝาเปิดทั้ง 2 ข้าง มีตะแกรงไว้ วางผลไม้ และมีถาดกระจกซึ่งสามารถเอาเข้าออกได้เพื่อทําความสะอาดได้สะดวก