โครงงานวิทยาศาสตร์เรื่องกระเจี๊ยบผง

ชื่อนักเรียนผู้จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์
  • จุฑารัตน์ ตันสุธัญลักษณ์

  • ธนิสรา บุญโสม

  • นงลักษณ์ วาสิการ

  • ปาจนี ทองภิญโญชัย

  • ปิยฉัตร โภคาพันธุ์

อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานวิทยาศาสตร์
  • นิรมิตร วรวิทยานุสรณ์

  • ศิวัฒน์ สมรักษ์

  • สมโชค ณ นคร

  • สายัณห์ บุญชู

  • สุนันท์ พงษ์มณี

  • สุนิศา ปัญญาวราภรณ์

โรงเรียนที่กำกับดูแลโครงงานวิทยาศาสตร์

โรงเรียนสตรีภูเก็ต

รางวัลการประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์

ม.ต้น ชนะการประกวดรางวัลที่ 1 ภาคใต้

การตีพิมพ์ผลงาน

วารสารบทคัดย่อการศึกษาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี 2536 4 (9) p88,89

คำสำคัญ (keywords) ของโครงงาน
  • กระเจี๊ยบ ผงสำเร็จรูป

  • การถนอมอาหาร กระเจี๊ยบผง

  • โครงงานวิทยาศาสตร์

ประเภทโครงงานวิทยาศาสตร์

บทคัดย่อโครงงานวิทยาศาสตร์

การศึกษาเรื่องการทำกระเจี๊ยบผง มีจุดมุ่งหมายเพื่อทำผลิตภัณฑ์กระเจี๊ยบในรูปของกระเจี๊ยบผง นอกเหนือจากผลิตภันฑ์ในรูปของแยมกระเจี๊ยบ และน้ำกระเจี๊ยบสด ซึ่งพบกันอยู่ทั่วไป เป็นการถนอมอาหารในรูปแบบหนึ่ง เพื่อให้เก็บไว้ได้นานและสะดวกในการบริโภค ในการศึกษาเรื่องนี้ ได้ทำการศึกาาเปรียบเทียบค่า pH และปริมาณวิตามินซีของแระเจี๊ยบในรูปแบบต่างๆ คือ กระเจี๊ยบสด กระเจี๊ยบผงไม่อบ กระเจี๊ยบผงอบที่อุณหภูมิ 40องศา และอุณหภูมิ 70องศา ผลจากการทดลองพบว่า ยิ่งเพิ่มอุณหภูมิค่าความเป็นกรดและปริมาณวิตามินซีจะลดน้อยลง ซึ่งได้เลือกการทำกระเจี๊ยบผงอบที่อุณหภูมิ 70องศา เพราะที่อุณหภูมิ 70องศา สามารถฆ่าเชื้อราได้ และจากการศึกษาเพื่อหาเวลาที่เหมาะสมในการอบกระเจี๊ยบแห้งที่อุณหภูมิ 70องศา โดยใช้เวลา 5, 10 และ 15 นาที พบว่าอบในเวลา 5 นาทีเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดเพราะมีปริมาณวิตามินซี และความเป็นกรดมากที่สุด นอกจากนี้ พบว่าอุณหภูมิของน้ำที่ใช้ชงผงกระเจี๊ยบแล้วยังมีปริมาณวิตามินซีมากที่สุดระหว่างน้ำที่อุณหภูมิห้อง 40องศา, 50องศา, 60องศา และ 80องศา คือ น้ำที่อุณหภูมิห้อง จึงสรุปได้ว่า ในการทำกระเจี๊ยบสดให้เป็นกระเจี๊ยบผลสำเร็จรูป มีวิธีการทำดังนี้ โดยการนำกระเจี๊ยบสดมากตากแดดให้แห้งเพื่อไล่ความชื้น แล้วนำไปอบที่อุณหภูมิ 70องศา เป็นเวลา 5 นาที เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อรา แล้วนำบดเป็นผง บรรจุซอง