โครงงานวิทยาศาสตร์เรื่องการสำรวจวัชพืชกินได้ในอำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน

ชื่อนักเรียนผู้จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์
  • กิตติพงศ์ จินา

  • ณัฐพงศ์ ปางคำ

  • สุเมฆ จีรชัยสิริ

โรงเรียนที่กำกับดูแลโครงงานวิทยาศาสตร์

โรงเรียนป่าซาง

รางวัลการประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์

ม.ต้นชนะการประกวดรางวัลชมเชย สาขาวิทยาศาสตร์ชีวภาพภาคเหนือตอนบน

คำสำคัญ (keywords) ของโครงงาน
  • ลำพูนป่าซาง

  • วัชพืช

ประเภทโครงงานวิทยาศาสตร์

บทคัดย่อโครงงานวิทยาศาสตร์

โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง การสำรวจวัชพืชกินได้ในอำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูนโครงงานนี้จัดทำขึ้นเนื่องจากผู้ทำโครงงานพบเห็นชาวบ้านในอำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน นำวัชพืชหลายชนิดมาเป็นอาหารและรักษาอาการของโรคบางอย่าง ทั้ง ๆ ที่บุคคลทั่วไปไม่ได้ให้ความสนใจและมีความรู้สึกว่าวัชพืชมีแต่โทษ ทำความเสียหายแก่เกษตรกร เป็นอุปสรรคต่อการคมนาคมทั้งทางบกและทางน้ำ จึงเกิดความสนใจที่จะศึกษาค้นคว้า สำรวจและเก็บรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับวัชพืชกินได้เหล่านั้นมาศึกษา โดยดำเนินการดังนี้ คือ กำหนดพื้นที่ที่จะสำรวจวัชพืชกินได้ในอำเภอป่าซางจังหวัดลำพูน โดยสมาชิกทุกคนร่วมกันสำรวจในแต่เขตของอำเภอป่าซางให้ครอบคลุม 9 ตำบล คือ ตำบลป่าซาง ตำบลปากบ่อง ตำบลม่วงน้อย ตำบลแม่แรง ตำบลบ้านเรือน ตำบลท่าตุ้ม ตำบลนครเจดีย์ ตำบลน้ำดิบ และตำบลมะกอก รวบรวมข้อมูลจากการสังเกตด้วยตนเอง สัมภาษณ์ ซักถามชาวบ้าน ผู้ปกครอง ตลอดจนครูอาจารย์ที่สอนในโรงเรียน บันทึกภาพ และศึกษาจากหนังสือประกอบ นำข้อมูลที่ได้มาเรียงตามลำดับอักษร จัดจำแนกและบันทึกรายละเอียดเกี่ยวกับวัชพืชกินได้ชนิดนั้น ๆ จากผลการดำเนินงาน พบว่า วัชพืชกินได้ที่สำรวจพบมี 41 ชนิด เมื่อนำมาจำแนกตามลักษณะทางนิเวศวิทยา สามารถจำแนกได้ 5 กลุ่ม ได้แก่ วัชพืชบกมี 30 ชนิด วัชพืชน้ำมี 8 ชนิด วัชพืชริมน้ำมี 1 ชนิด วัชพืชที่อยู่ได้ทั้งบนบกและในน้ำมี 1 ชนิด และวัชพืชพวกกาฝากมี 1 ชนิด จากการดำเนินงานทำให้ทราบถึงชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อที่ใช้เรียกในท้องถิ่นและท้องถิ่นอื่น ลักษณะวิสัย ส่วนที่นำมาบริโภคและวิธีบริโภค ตลอดจนประโยชน์ทางยาของวัชพืชกินได้แต่ละชนิด เมื่อนำวัชพืชกินได้ 16 ชนิดมาตรวจสอบหาสารอาหาร พบว่ามีเพียง 3 ชนิดที่มีปริมาณวิตามินซีมากกว่าสารละลายกรดแอสคอบิก 0.01 % ได้แก่ ผักหวานบ้าน(ขี้เหล็กเทศ) ชุมเห็ดเทศ และผักเอื้อง ส่วนคาร์โบไฮเดรตจำพวกแป้งพบในวัชพืชกินได้ทุกชนิดที่นำมาตรวจสอบ สำหรับน้ำตาลพบเฉพาะในบอนจีนและฝอยทองเท่านั้น ส่วนโปรตีนไม่พบในวัชพืชกินได้ชนิดใดทั้งสิ้น จากผลดำเนินงานทำให้ผู้ที่ใส่ใจสุขภาพตลอดจนบุคคลทั่วไปรู้จักและเลือกบริโภควัชพืชกินได้หลากหลายขึ้น ซึ่งต่อไปอาจนำไปขยายพันธุ์ไว้ในที่ที่สะดวกต่อการเก็บมาบริโภคหรือจำหน่ายเพื่อสร้างรายได้ให้แก่ครอบครัว นอกจากนี้ผู้ที่สนใจเรื่องราวของวัชพืชกินได้อาจใช้เป็นแนวทางในการศึกษาค้นคว้า และวิจัยหาสารอาหารชนิดต่าง ๆ ของวัชพืชกินได้เหล่านั้นต่อไป