โครงงานวิทยาศาสตร์เรื่องการกรองสารฟอสเฟตจากน้ำซักผ้าโดยใช้เถ้ากระดูก
- ชื่อนักเรียนผู้จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์
มิ่งขวัญ จันทรโณทัย
วัทนีพร กิจการนนท์
อรอุมา เกตุวงษ์
- อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานวิทยาศาสตร์
ดิเรก นวสุขารมย์
ประภาภรณ์ วายุภักตร์
สมเกียรติ แก้ววิเวก
- โรงเรียนที่กำกับดูแลโครงงานวิทยาศาสตร์
- รางวัลการประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์
ม.ต้น ชนะการประกวดรางวัลชมเชย ลำดับที่ 2 ทั่วไป ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- การตีพิมพ์ผลงาน
วารสารบทคัดย่อการศึกษาวิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี 2543 10 ( ) p
- ประเภทโครงงานวิทยาศาสตร์
บทคัดย่อโครงงานวิทยาศาสตร์
โครงงานนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความเป็นไปได้และประสิทธิภาพของเถ้ากระดูกในการกรองสารฟอสเฟต อุปกรณ์ที่ใช้ในการทดลองได้แก่ บีกเกอร์ เครื่องชั่ง และท่อพีวีซี วัสดุที่ใช้ได้แก่ ชุดทดสอบสารฟอสเฟต ผงซักฟอก กระดูกวัว , หมู,เป็ด, ไก่ เป็นต้น โดยมีวิธีดำเนินการทดลองคือ นำกระดูกทั้ง 4 ชนิด ไปเผาจนเป็นเถ้ากระดูกสีขาว แล้วนำเถ้ากระดูกที่เผาแล้วมาใส่ในท่อพีวีซีที่ปลายข้างหนึ่งเจาะรูเพื่อให้น้ำไหลออก นำน้ำผสมกับผงซักฟอกเพื่อทดสอบหาปริมาณสารฟอสเฟตในน้ำ แล้วนำไปใส่ในท่อพีวีซีเพื่อทำการกรอง แล้วนำน้ำที่ผ่านการกรองมาทดสอบหาปริมาณสารฟอสเฟต เปรียบเทียบผล ซึ่งแบ่งการศึกษาลักษณะต่างๆ ได้แก่ ศึกษาความเป็นไปได้ , ชนิดของเถ้ากระดูก , ขนาดของเถ้ากระดูก , ปริมาณของเถ้ากระดูก, ความสูงของท่อกรอง , ประสิทธิภาพของเก้ากระดูก และการเพิ่มประสิทธิภาพของเถ้ากระดูก ผลการทดลองพบว่าเถ้ากระดูกสามารถกรองสารฟอสเฟตจากผงซักฟอกได้ จากเถ้ากระดูก 4 ชนิดที่นำมาทดลองพบว่าเถ้ากระดูกหมูมีประสิทธิภาพในการกรองได้ดีกว่าเถ้ากระดูกวัว เป็ด และไก่ เมื่อศึกษาขนาดของเถ้ากระดูกพบว่ายิ่งกระดูกมีขนาดเล็กลงเท่าไรก็ยิ่งมีประสิทธิภาพในการกรองสารฟอสเฟตได้ดี และยังขึ้นอยู่กับปริมาณอีกด้วยคือ ยิ่งมีปริมาณเถ้ากระดูกมากก็จะสามารถกรองสารฟอสเฟตได้ดียิ่งขึ้น ส่วนความสูงของท่อกรองยิ่งมีความสูงมากก็ยิ่งช่วยในการกรองสารฟอสเฟตได้ดียิ่งขึ้น ส่วนประสิทธิภาพของเถ้ากระดูกเมื่อผ่านการกรองน้ำผงซักฟอกมากครั้งจะทำให้ประสิทธิภาพในการกรองลดลง