โครงงานวิทยาศาสตร์เรื่องขี้เถ้าลดปริมาณปูนซีเมนต์
- ชื่อนักเรียนผู้จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์
ธาน ส่งทวน
สกุลวัล ประเดิมวงศ์
เจนจิรา ควนวิไล
- อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานวิทยาศาสตร์
จิตนวนแก้ว
นิตยา ทวีกิจการ
- โรงเรียนที่กำกับดูแลโครงงานวิทยาศาสตร์
- ประเภทโครงงานวิทยาศาสตร์
บทคัดย่อโครงงานวิทยาศาสตร์
โตรงงานมีจุดมุ่งหมาย เพื่อปริมาณการใช้ปูนซีเมนต์ นำวัสดุธรรมชาติเหลือทิ้งชนิดต่างๆมาเผาจนเป็นขี้เถ้า แล้วนำขี้เถ้าไปผสมกับปูนซีเมนต์ ทราย หิน เพื่อเป็นคอนกรีต ขนาด 15*15*15 cm3 แล้วนำคอนกรีตที่ได้ไปวัดแรงอัด เพื่อศึกษาว่าขี้เถ้าชนิดใดทำให้คอนกรีตมีความแข็งแรงที่สุด และหาอัตราส่วนที่เหมาะสมของปูนซีเมนต์ ต่อ ขี้เถ้า ชนิดที่ทำให้แท่งคอนกรีตมีความแข็งแรงที่สุด สำหรับขี้เถ้าที่ได้จากวัสดุธรรมชาติเหลือทิ้งชนิดต่างๆ ได้น้ำหนักเถ้า คิดเป็น % สูงสุดได้แก่ขี้เถ้าจากฟางข้าว ได้ 16.75 %รองมาได้แก่ขี้เถ้าจากแกลบ 14.17 % ,ขี้เถ้าจากหญ้าคา 7.83 % ขี้เถ้าจากใบตองแห้ง 6.17 % , และขี้เถ้าจากกาบมะพร้าว ได้ 4.17% ส่วนการนำขี้เถ้าไปผสมปูนซีเมนต์ เพื่อหล่อเป็นคอนกรีตนั้น ทุกแท่งใช้สูตร (ปูนซีเมนต์ 1300กรัม+ขี้เถ้า 200กรัม) : ทราย 2300 กรัม :หิน 4500 กรัม : น้ำ 1100 กรัม) (ยกเว้นชุดควบคุมใช้ ปูนซีเมนต์ 1500 กรัม) โดยทำเป็น 4 ชุด คือชุดที่มีอายุ 8 วัน (18 แท่ง) ชุดที่มีอายุ 15 วัน (18 แท่ง) ชุดที่มีอายุ 22วัน (18 แท่ง) และชุดที่มีอายุ 31 วัน (12 แท่ง) รวม 66 แท่งนำส่งสำนักวิเคราะห์วิจัยและพัฒนางานทาง สำนักทางหลวงที่ 14 (นครศรีธรรมราช) เพื่อตรวจสอบความแข็งแรงของแท่งคอนกรีต โดยดูค่าแรงอัด (กก./ซม2)จากค่าแรงอัดที่ได้พบว่าขี้เถ้าจากแกลบที่ผสมในแท่งคอนกรีต ทำให้แท่งคอนกรีตมีความแข็งแรงติดอันดับที่ดีในทุกกลุ่มอายุ จึงได้ศึกษาหาอัตราส่วนของปูนซีเมนต์ ต่อ ขี้เถ้าแกลบที่เหมาะสมที่สุด พบว่าปูนซีเมนต์ 1200 กรัม : ขี้เถ้าแกลบ 300 กรัม : ทราย : หิน เป็นอัตราส่วนที่ทำให้แท่งคอนกรีตแข็งที่สุด คือวัดค่าแรงอัดได้ 104.2 กก./ซม2 ฉะนั้นจึงเห็นว่าขี้แกลบ สามารถลดปริมาณการใช้ปูนซีเมนต์ลงได้ในระดับหนึ่ง