โครงงานวิทยาศาสตร์เรื่องการศึกษาวิธีชะลอการเน่าของเนื้อหมูด้วยสารเมือกจากมะเขือเทศ
- ชื่อนักเรียนผู้จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์
ณัฐพงษ์ ท้าวมหาวรรณ
สาธิตฐ์ มะโนปัญญา
อวัช อัชวงศ์
- อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานวิทยาศาสตร์
ทิพาพร ขวัญแก้ว
พิมพรรณ ช่วงสกุล
แสงเดือน เหมะวิบูลย์
- โรงเรียนที่กำกับดูแลโครงงานวิทยาศาสตร์
- รางวัลการประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์
ม.ต้น ชนะการประกวดรางวัลที่ 2 ทั่วไป ภาคเหนือตอนบน
- การตีพิมพ์ผลงาน
วารสารบทคัดย่อการศึกษาวิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี 2544 12(35) p
- คำสำคัญ (keywords) ของโครงงาน
มะเขือเทศ สารเมือก
เนื้อหมู
- ประเภทโครงงานวิทยาศาสตร์
บทคัดย่อโครงงานวิทยาศาสตร์
โครงงานนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเปรียบเทียบระยะเวลาการชะลอการเน่าของเนื้อหมู โดยใช้สารเมือกจากว่านหางจระเข้ สารเมือกจากมะเขือเทศและสารเมือกผสมระหว่างว่านหางจระเข้และมะเขือเทศ เปรียบเทียบอัตราส่วนของปริมาณของสารเมือกกับน้ำกลั่น และศึกษาว่าสารเมือกดังกล่าวมีผลต่อการยับยั้งสารใดในเนื้อหมู วิธีการทดลองทำได้โดยชุปสารเมือกทั้ง 3 ประเภทกับเนื้อหมู ใส่ในภาชนะปิดฝา วางทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องและในตู้เย็น สังเกตและบันทึกผลตามระยะเวลาที่เนื้อเน่า ผลการทดลองพบว่า เนื้อหมูที่ชุบด้วยสารเมือกจากมะเขือเทศอยู่ได้นานที่สุด 4 วัน ในอุณหภูมิห้อง ถ้าอยู่ในอุณหภูมิต่ำจะอยู่ได้ถึง 8 วัน ส่วนเนื้อหมูที่ชุบสารเมือกจากว่านหางจระเข้, สารผสมระหว่างมะเขือเทศและว่านหางจระเข้ และชุดควบคุม(น้ำกลั่น) อยู่ได้ 3 , 3 และ 2 วันตามลำดับ ถ้าอยู่ในอุณหภูมิต่ำจะอยู่ได้ 6, 7 และ 4 วันตามลำดับ และพบว่าสารเมือกจากมะเขือเทศที่มีความเข้มข้น 75 % สามารถรักษาเนื้อหมูได้ดีที่สุด ถ้าในอุณหภูมิต่ำจะอยู่ได้ถึง 10 วัน และเมื่อนำไปทดสอบในจานเลี้ยงเชื้อแบคทีเรียพบว่า Clear Zone ที่ได้จากสารเมือกจากมะเขือเทศมีขนาด 9.9 mm แต่ที่ได้จากยาเพนนิซิลินมีขนาด 16 mm และเมื่อทดลองเลี้ยงปลาหางนกยูงในน้ำที่มีสารเมือกจากมะเขือเทศ 35 % ผสมอยู่ เป็นเวลานาน 10 ชั่วโมง พบว่าปลาหางนกยูงสามารถเจริญได้เป็นปกติเหมือนกับเลี้ยงในน้ำกลั่น