บอกหนทาง
เมื่อผู้ป่วยหนักจวนจะสิ้นใจ แต่หูและตายังไม่ดับหรือไม่มีอาการ ทุรนทุรายมาก เขาก็จัดดอกไม้ธูปเทียนบรรจุในกรวยใบตอง ให้ผู้ป่วยหนัก นายพรานผู้หนึ่ง ชำนาญในการล่าสัตว์ ครั้นป่วยหนักลงใกล้จะตายหลับตาลง เห็นแต่สัตว์ต่าง ๆ ที่ตนเคยฆ่า
จึงบอกภิกษุบุตรชาย ของคนซึ่งทำการ พยาบาลอยู่ ณ ที่นั้นให้ช่วย พระภิกษุรูปนั้นรู้ว่าโยมมีกรรมมาก จึงจัดดอกไม้ รูปเทียนใส่ในมือให้แล้วบอกโยมว่า "โยม จงแลดูดอกไม้ธูปเทียนนี้เป็น เครื่องบูชาพระรัตนตรัย"
นายพรานผู้นั้นจึงแลดูดอกไม้ธูปเทียนตามคำ แนะนำของพระบุตรชาย ก็บังเกิดความเลื่อมใสมีใจเป็นกุศล ครั้นสิ้นชีพ ก็ไปเกิดในสวรรค์ เพราะเหตุนี้ชนรุ่นหลังจึงกระทำกันต่อ ๆ มา หวังจะให้ ผู้ป่วยหนักบูชาและระลึกถึงพระรัตนตรัย และเมื่อจะมัดศพ ยังให้ศพถือ กรวยดอกไม้ธูปเทียน อีกด้วย นอกจากนี้ผู้พยาบาลยังได้บอกหนทางว่า "พระอรหัง พระอรหัง ๆ" ให้ผู้ป่วยหนักได้ยิน เพื่อจะได้ภาวนาและยึด พุทธานุสสติเป็นอารมณ์ เป็นการข่มทุกขเวทนาให้เบาบางลง หากสิ้นใจลง ในขณะนั้น ถือว่าจะไปเกิดในสวรรค์
อนึ่ง เมื่อผู้ป่วยหนักหมดลมหายใจแล้ว ถือกันว่าจิตยังลงสู่ภวังค์ ยังดับไม่สนิท ต้องทำความสงบเงียบให้มากที่สุดที่จะเงียบได้ เพราะเกรง ควาจิตจะไม่แน่วแน่ และเขาใช้เทียนขี้ผึ้งหนักบาทหนึ่งมีไส้ ๗ เส้น จุดตาม ไว้จนหมดเล่ม แล้วจึงถือว่าเป็นอันตายแน่