พระวิธูร

ในสมัยพุทธกาลครั้งหนึ่งบรรดาภิกษุได้สนทนากันด้วยเรื่องพระปัญญาบารมีของพระพุทธองค์ ว่าทรงมีพระปัญญาเฉียบแหลม ทำลายถ้อยคำของคนทั้งหลายอันไม่ถูกต้อง และทรงทรมานให้คนทั้งหลายละทิฐิมานะ ดำรงอยู่ในสมณะและศีลได้พระพุทธองค์ทรงทราบจึงตรัสว่า การทำลายถ้อยคำอันกล่าวไม่ถูกต้องและแนะให้คนทำความดีในบัดนี้ ยังไม่อัศจรรย์เหมือนเมื่อพระองค์เป็นเพียงวิธูรบัณฑิตและได้ทรมานยักษ์ปุณณกะบนยอดเขากาลาคีรีลงได้ แล้วได้ตรัสเล่าเรื่องวิธูรบัณฑิต ดังนี้

ครั้งหนึ่งในอดีตกาล พระเจ้าธนัญชัยโกรพยราช เป็นพระเจ้าแผ่นดินครองเมืองอินทปัตต์ พระองค์มีนักปราชญ์คู่พระ-ทัยคนหนึ่งชื่อวิธูรบัณฑิต ใครก็ตามเมื่อได้ฟังธรรมเทศนาของวิธูรบัณฑิตแล้วย่อมเลื่อมใสทั้งสิ้น และในเวลานั้น ณ กรุงพาราณสีมีพราหมณ์อยู่ ๔ คน เป็นสหายรักใคร่กันมาก เมื่อแก่ลงได้ออกบวชเป็นฤๅษีสำเร็จอภิญญาสมาบัติ อาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์ ต่อมาได้เดินทางมาเที่ยวภิกษาจารในกรุงกาลจัมปาก์ แคว้นอังคะ กรุงพี ๔ คน เกิดความเลื่อมใสจึงเชิญให้ไปพักค้างคืนที่ในสวนของตนเมื่อพักอยู่ด้วยกัน ฤๅษีทั้ง ๔ ต่างก็เล่าถึงสถานที่ ๆ ตนได้ไปมาในตอนกลางวัน องค์หนึ่งเล่าถึงดาวดึงส์ องค์หนึ่งเล่าถึง พิภพของพญาครุฑ องค์หนึ่งเล่าถึงพระอุทยานของพระเจ้าธนัญชัยโกรพยราช องค์หนึ่งเล่าถึงพิภพพญานาค เหล่ากรุงพีทั้ง ๔ ต่างก็มีความต้องการสมบัติเหล่านั้น จึงตั้งความปรารถนาไว้และทำบุญทานจนสิ้นอายุก็ได้ไปเกิดในที่ทั้ง ๔ ตามปรารถนา คือไปเป็นท้าวสักกะเทวราช ท้าววรุณ พญาครุฑ และเป็นพระโอรสพระเจ้าธนัญชัยโกรพยราชซึ่งได้ครองราชสมบัติต่อจากพระราชบิดา ต่างก็ยังบำเพ็ญทานรักษาศีลมิได้ขาด วันหนึ่งได้มาพบกันพร้อมหน้าสนทนาวิสาสะกัน และปรารภกันว่า ศีลของใครจะประเสริฐกว่ากัน แต่ตกลงกันไม่ได้ จึงพากันไปถามวิธูรบัณฑิต วิธูรบัณฑิตก็ถวายคำตอบว่า ศีลของทุกองค์เป็นคุณธรรมที่ดีเสมอกันทั้ง ๔ องค์ ต่างพอพระทัยในคำตอบ และประทานรางวัลอันมีค่าแก่วิธูรบัณฑิตแล้วต่างก็กลับที่อยู่ของตน

ผ่ายพญานาคซึ่งประทานสร้อยแก้วมณีให้วิธูรบัณฑิตแล้วกลับถึงบาดาล นางวิมลาถามถึงสร้อยแก้วมณี พญานาคจึงเล่าสาเหตุให้ฟัง ทำให้นางวิมลาปรารถนาจะได้ฟังธรรมของวิธูรบัณฑิตบ้าง จึงแสร้งทำเป็นไข้และประกาศว่าจะต้องตายหากนางไม่ได้ดวงใจของวิธูรบัณฑิต พญานาคจึงออกอุบายให้นางอริทันตีผู้เป็นธิดาออกแสวงหาผู้ชายที่เก่งกล้าสามารถนำเอาดวงใจของวิธูรบัณฑิตมาถวายโดยประกาศว่าจะยกนางอริทันตีให้เป็นภริยา นางอริทันตีจึงขึ้นจากนาคพิภพ สู่ป่าหิมพานต์เที่ยวร้องเพลงอยู่แถบเขากาลาคีรี ในเวลานั้นปุณณกยักษ์บังเอิญขับม้าผ่านมาได้ยินเสียงเพลงก็ติดตามจนเห็นตัวนางอริทันตีแล้วเกิดความรักนางอริทันตีจึงพาปุณณกยักษ์ลงไปหาบิดาที่บาดาล เมื่อปุณณกยักษ์ได้รู้ความประสงค์ก็อาสาจะไปเอาดวงใจวิธูรบัณฑิตมา ครั้นแล้วปุณณกยักษ์ก็เดินทางไปยังเมืองอินทปัตต์ พนันเล่นสกากับพระเจ้าธนัญชัยโกรพย์โดยเอาแก้วมณีและม้าของตนเป็นเดิมพัน หลังจากที่ได้เห็นอภินิหารของแก้วมณีและความเร็วเท่าลมกรดของม้าแล้วก็ตกลงพนันกัน ปรากฏว่าปุณณกยักษ์ชนะสกาจึงทูลขอวิธูรบัณฑิตเป็นของรางวัล ผ่ายวิธูรบัณฑิตเป็นคนซื่อตรงจงรักภักดี ไม่ปรารถนาจะให้พระเจ้าธนัญชัยโกรพย์ประพฤติผิดข้อตกลงกับปุณณกยักษ์ดังนั้นปุณณกยักษ์จึงได้ตัววิธูรบัณฑิตไปเมืองนาค

ก่อนจะออกเดินทาง วิธูรบัณฑิตขอเวลาปุณณกยักษ์ ๓ วันเพื่อสั่งสอนธรรมของราชการแก่ลูกทั้งหมด แล้วจึงออกเดินทางไปกับปุณณกยักษ์ ระหว่างทางปุณณกยักษ์พยายามที่จะฆ่าวิธูรบัณฑิตเพื่อเอาดวงใจ แต่ไม่ว่าจะใช้วิธีใดวิธูรบัณฑิตก็ไม่ตาย ในที่สุดวิธูรบัณฑิตจึงถามสาเหตุที่ปุณณกยักษ์พยายามจะฆ่าตน ครั้งปุณณกยักษ์เล่าความจริงทั้งหมดให้ฟัง วิธูรบัณฑิตก็เข้าใจความต้องการของนางวิมลาทันทีและทราบได้ว่าทุกคนสำคัญผิด จึงเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น แล้ววิธูรบัณฑิตก็ได้แสดงสาธุนรธรรม (ธรรมของคนดี) แก่ปุณณกยักษ์ จนปุณณกยักษ์เลื่อมใส และกลับใจจะพาวิธูรบัณฑิตกลับไปส่งเมือง แต่วิธูรบัณฑิตแสดงความประสงค์ที่จะไปยังนาคพิภพและเมื่อไปถึงนาคพิภพแล้ว วิธูรบัณฑิตก็ได้แสดงธรรมแก่พญานาคและนางวิมลา จนเป็นที่เลื่อมใสแล้วพญานาคก็ให้ปุณณกยักษ์พาวิธูรบัณฑิตกลับคืนไปเมืองอินทปัตต์ พระเจ้าธนัญชัยโกรพย์และราษฎรชาวเมืองต่างก็พากันดีใจ อยู่ร่วมกันด้วยความร่มเย็นเป็นสุขทั่วหน้า