เสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน เล่ม ๒

กวีหลายท่านร่วมกันแต่ง

นางเกสรสั่งสอนนางสร้อยทองเรื่องคู่ครอง

จัดพลางนางทรงกันแสงโศกหวนวิโยคลูกน้อยละห้อยหา
จึงตรัสเรียกโฉมยงองค์ธิดากับพี่เลี้ยงกัลยาเข้าห้องใน
กอดลูกทรวงสะท้อนสอนสั่งเจ้าจะพรากจากวังไปเวียงใต้
จะพากันไปอยู่ในหมู่ไทยอย่าได้ประมาทนะลูกรัก
อันขนบธรรมเนียมของเมืองใต้ต้องเพียรเอาใจใส่ให้รู้จัก
อีกบรรดานารีที่พบพักตร์เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่ในวัง
ที่ใครควรเคารพก็นบนอบที่ควรชิดคิดชอบอย่าผินหลัง
อย่าโหดไร้ให้เขาพากันชิงชังแต่อย่าพลังเผลอคบคนเสเพล
คนเช่นนั้นมันมักเที่ยวแทรกแซงประจบประแจงด้วยอุบายหลายเล่ห์
พอเราหลงปลงอารมณ์สมคะเนก็ถ่ายเทเอาทรัพย์เสียนับพัน
อันคนชั่วย่อมระคนปนกับดีถ้าดีมีชั่วก็มีอยู่ที่นั้น
ถึงเมืองลาวเมืองไทยไม่ผิดกันเพราะเช่นนั้นขวัญข้าวเจ้าจำไว้
อนึ่งหญิงรูปทรงที่ส่งศรีย่อมมีทั้งผู้ดีมีทั้งไพร่
จะผิดกันแน่แท้แต่ที่ใจกับที่ได้อบรมนิยมมา
นางกษัตริย์เขาจัดว่าล้ำเลิศประเสริฐด้วยสุริยวงศ์พงศา
ถือมั่นสัตย์ธรรม์จรรยาทั้งวาจามารยาทสะอาดดี
เพราะว่าเป็นวิสัยในพงศ์พันธุ์ฝึกสอนสืบกันมาตามที่
ซึ่งจะผ่าเหล่าไปมิใคร่มีเหตุนี้จึงนิยมชมทั่วไป
กษัตริย์ถึงต่างทิศผิดภาษาอันจะต่างจรรยานั้นหาไม่
ถ้าประเพณีวงศ์เจ้าทรงไว้ถึงกษัตริย์กรุงไทยคงเมตตา
แต่ทว่าอย่าลืมนะปลื้มใจว่าถวายเจ้าไปให้เป็นข้า
ถึงพระองค์ทรงพระกรุณาอย่ากำเริบเติบใหญ่ให้เมามัว
คำบุราณท่านว่ามาแต่ก่อนสำหรับสอนสตรีที่มีผัว
ว่าวิสัยภรรยาประพฤติตัวดีชั่วเจ็ดอย่างต่างๆ กัน
อย่างหนึ่งทุจริตคิดร้ายผัวอีกอย่างมัวโลกโมโหสัน
อีกอย่างหนึ่งการงานคร้านทั้งนั้นท่านว่าเมียอุบาทว์ชาติกาลี
อันหญิงดีที่เป็นภรรยากำหนดไว้ในตำราว่าเป็นสี่
หนึ่งเลี้ยงดูภัสดาด้วยปรานีหนึ่งร่วมทุกข์สุขมีเสมอกัน
หนึ่งนั้นเคารพนบนอบผัวหนึ่งยอมตัวให้ใช้ไม่เดียดฉันท์
จึงอยู่เย็นเป็นสุขทุกคืนวันด้วยผัวนั้นวางใจที่ในตัว
แต่บริจามหากษัตริย์นั้นผิดกับหญิงสามัญที่มีผัว
ต้องจงรักภักดีแล้วเกรงกลัวเหมือนอย่างตัวเป็นข้าผ่าธุลี
ตั้งใจสนองรองบาทาให้ทรงพระกรุณาเป็นราศี
ถึงขัดข้องหมองใจในบางที่ไม่ควรที่ให้เคืองเบื้องบลมาลย์
เพราะถ้าจอมกษัตริย์ขัดพระทัยมักเกิดภัยอันตรายหลายสถาน
ถ้าหากว่าพระองค์ทรงโปรดปรานก็ชุบเลี้ยงสำราญตระการใจ
จึงจะได้ความสุขทุกเวลาญาติวงศ์พงศาได้อาศัย
เป็นสุขทั้งบรรดาเหล่าข้าไททรามวัยจงจำดังรำพัน

นางทองประศรีให้โอวาทและรับเป็นธุระเลี้ยงดูบุตรภรรยาให้ในระหว่างที่ขุนแผนไปทัพ

ครานั้นทองประศรีผู้มารดาฟังลูกหลานลาน้ำตาไหล
ลูบหลังลูบหน้าแล้วว่าไปอย่าเป็นห่วงบ่วงใยเลยทางนี้
เมียเจ้านั้นไซร้ไว้ธุระแม่จะดูแลสารพัดให้ถ้วนถี่
ทั้งเรือนเหย้าข้าวของบรรดามีได้พึ่งพระหมื่นศรีก็ดีแล้ว
แม่ขัดขวางอย่างไรจะไปหาเจ้าตั้งหน้าไปเถิดนะลูกแก้ว
ทุกข์โศกโรคภัยให้คลาดแคล้วลงผ่องแผ้วพูนสุขทุกเวลา
ให้เจ้าชนะมารผลาญศัตรูใครอย่ารอต่อสู้ได้สักหน้า
ออเจ้าอย่าห่างข้างบิดายังเด็กนักเด็กหนาย่าห่วงนัก
อย่าประมาทอาจหาญการรบสู้ขุนไกรปู่นั้นแต่หนุ่มคุ้มฟันหัก
แม้มิได้หมื่นศึกทำฮึกฮักเบาหนักตรองดูให้รู้ความ
อนึ่งพวกพลไพร่ที่ไปด้วยใครเดือดร้อนผ่อนช่วยอย่าหยาบหยาม
อุตส่าห์เอาอกใจให้งดงามไปรบพุ่งเหมือนตามกันเป็นตาย
ถ้าใจเดียวเกลียวกลมกันหนึ่งแน่ถึงน้อยก็ไม่แพ้ที่มากหลาย
ท่านว่าบ่พึ่งเสือเรือพึ่งพายเราเป็นนายก็ต้องพึ่งซึ่งไพร่พล
อนึ่งความกตัญญรู้คุณเจ้าทุกค่ำเช้านึกไว้จะให้ผล
ให้รุ่งเรืองฤทธิ์ดีทั้งเวทมนตร์เจ้าจงใจจำคำย่าไว้ ฯ

นางอัปสรสอนนางสร้อยฟ้าเรื่องคู่ครอง

ครานั้นนางอัปสรชนนีเรียกสร้อยฟ้านารีเข้าเรือนใหญ่
สงสารลูกโลมเล้าเอาใจอย่าร้องไห้ไปนักนะลูกอา
เกิดมาเป็นมนุษย์ปุถุชนความทุกข์มิได้พ้นจนสักหน้า
สุดแท้แต่กรรมที่ทำมาถึงเวลาสิ้นสุขก็ทุกข์ไป
ถ้าถึงคราวพ้นเข็ญที่เป็นทุกข์ก็กลับมีความสุขสืบใบใหม่
เป็นธรรมดามาฉะนี้แต่ไรไรจะหวาดหวั่นพรั่นใจไม่ต้องการ
พระพ่อได้เจ้าถวายถ่ายโทษเหมือนเจ้าโปรดพ่อให้ได้คืนสถาน
ดังกัณหาชาลีสองกุมารเพื่อประโยชน์โพธิญาณพระบิดา
เป็นกุศลผลบุญอันยิ่งใหญ่จะช้ำชูตัวไปในภายหน้า
ไม่ควรย่อท้อคิดระอิดระอาจงก้มหน้าสนองพระคุณไป
ซึ่งภูบาลจะประทานให้มีผัวเจ้าอย่ากลัวชั่วร้ายหามีไม่
เป็นสตรีมีผัวกันทั่วไปเพราะว่าเป็นวิสัยแห่งโลกีย์
ถึงเนื้อคู่อยู่ห่างต่างภาษาจนหน้าตาไม่รู้จักมักจี่
สำคัญแต่ให้ได้คนดีก็จะมีความสุขไม่ทุกข์ใจ
เหมือนเช่นพระอุณรุฑนางอุสาก็อยู่ห่างต่างพาราเป็นไหนไหน
หลับอยู่เทวดาพาอุ้มไปยังรักใคร่ปรองดองทั้งสองรา
ถึงตัวแม่เมื่อสาวคราวพวยพุ่งก็อยู่เวียงเชียงตุงไกลหนักหนา
พระบู่เฒ่าเจ้าเชียงใหม่ไปขอมาพึ่งเห็นหน้าพ่อเจ้าต่อวันงาน
ถึงพ่อเจ้าเล่าก็ไม่ได้เห็นแม่ได้ยินแต่ว่ารูปทรงส่งสัณฐาน
ยังอยู่ด้วยกันมาเป็นช้านานมิได้มีร้าวรานประการใด
ด้วยวิสัยในการประเวณีย่อมอยู่ที่ดวงจิตพิสมัย
พอถึงกันก็ประหวัดกำหนัดในแต่พอได้รู้รสก็หมดกลัว
ยิ่งหนุ่มสาวคราวแรกภิรมย์รักพอประจักษ์ได้เสียเป็นเมียผัว
มักหลงใหลคลึงเคล้าเฝ้าพันพัวราวกับตัวขึ้นสวรรค์ขั้นไตรตรึงส์
เมื่อแรกแรกร่วมเรียงเคียงเขนยอย่ากลัวเลยจะพิโรธโกรธขึ้ง
ต่อนานวันว่างวายคลายเคล้าคลึงนั้นแลจึงจะได้รู้ดูใจกัน
วิสัยชายคล้ายกับคชสารถ้าหมอควาญรู้ทีดีขยัน
แต่ทว่าบางยกตกน้ำมันต้องรู้จักผ่อนผันจึงเป็นเพลง
ธรรมดาสตรีที่มีผัวต้องเกรงยำจำกลัวผัวข่มเหง
เพราะถ้าผัวตัวนั้นยังคุ้มเกรงถึงคนยื่นครั้นเครงมิเป็นไร
ถ้าผัวทิ้งคนเดียวเปลี่ยวอนาถเหมือนสิ้นชาติสิ้นเชื้อที่เนื้อไข
หญิงที่ผัวทั้งขว้างห่างเหไปจะเข้าไหนเขากระหยิ่มมักยิ้มเยาะ
ถึงจะหาลูกผัวแก้ตัวใหม่ก็ยากนักจักได้ที่มั่นเหมาะ
ด้วยสิ้นพรหมจารีที่จำเพาะเหมือนไส้กลวงด้วงเจาะรังเกียจกัน
ด้วยเหตุนี้มีผัวอย่ามัวประมาทถ้าพลั้งพลาดเพียงชีวาจะอาสัญ
ต้องเอาใจใส่สามีทุกวี่วันให้ผัวนั้นเมตตาอย่าจืดจาง
จงเคารพนบนอบต่อสามีกิริยาพาทีอย่าอางขนาง
จะยั่วยวนหรือว่าที่มีรอยเวรไว้ให้ว่างคนผู้อยู่ที่ลับ
สังเกตดูอย่างไรชอบใจผัวทั้งอยู่กินสิ้นทั่วทุกสิ่งสรรพ
ทำให้ได้อย่าให้ต้องบังคับเป็นแม่เรือนเขาจึงนับว่าดีจริง
อันเป็นเมียจะให้ชอบใจผัวสิ่งสำคัญนั้นก็ตัวของผู้หญิง
ทำให้ผัวถูกใจไม่มีทิ้งยังอีกสิ่งก็อาหารตระการใจ
ถ้ารู้จักประกอบให้ชอบลิ้นถึงแก่สิ้นเพราพลั้งไม่ทิ้งได้
คงต้องง้อขอกินทุกวันไปจงใส่ใจจัดหาสารพัน
เป็นต้นต้มต้นหมูให้ชูรสไข่ไก่สดปลาต้มยำทำขยัน
ตับเหล็กสันในแลไข่ดันหั่นให้ชั้นเล็กเล็กเหมือนเจ๊กทำ
พยายามเลี้ยงดูให้ชูใจถึงจะมีเมียใหม่ให้คมขำ
เสน่ห์ปลายจวักไม่รู้จักทำหลงใหลไม่กี่น้ำก็จำคลาย
พ่อเจ้ามีห้ามสักสามร้อยเป็นไรไม่หลุดลอยไปง่ายง่าย
ปะสาวสาวเจ้าก็ชมลงงมงายแต่พอหน่ายก็แพ้แม่ทุกที
ทำไมกับสาวสาวอีลาวเคอะถึงจะสวยมันก็เซอะดังซากฝี
ยังชมว่าท่านยายแยบคายดีมิได้มีเหมือนแม่จนแก่ชรา
อันเป็นหญิงสุดแต่สิ่งปรนนิบัติใครสันทัดผัวก็รักเป็นหนักหนา
แม้นเจ้าทำเหมือนคำของมารดาดีกว่ายาแฝดฝังทั้งตาปี ฯ

นางศรีมาลารำพันถึงพระคุณของพ่อแม่

ครานั้นนารีศรีมาลากอดตีนบิดาเข้าร้องไห้
ฉวยลำบากยากเย็นจะเห็นใครพ่อแม่อยู่ใกล้ได้ดูแล
ถึงผัวจะรักสักเท่าไรก็ยังไม่เหมือนคุณพ่อกับคุณแม่
ถ้าเธอไม่เป็นธรรม์จะผันแปรตั้งแต่จะระกำทุกค่ำคืน ฯ

นางบุษบาสอนนางศรีมาลาเรื่องคู่ครอง

แม่สอนเจ้ามาแต่น้อยกว่าร้อยพันสุดสำคัญแต่เพียงอดนั้นเป็นต้น
อย่าทำชั่วเพราะว่าตัวของตัวจนเขาเปรียบเทียบจงสู้ทนต้องเกรงกลัว
ใครจะว่าเจาะจงก็ชั่งเขาจงอดเอาอย่าสำออยคอยฟ้องผัว
อันคนดีนานดอกจึงออกตัวถ้าคนชั่วเขาคงเห็นเป็นไปเอง
จงอุตส่าห์เสงี่ยมค่อยเจียมตนอย่าให้คนทั้งปวงล่วงข่มเหง
จงซื่อตรงต่อผัวรู้กลัวเกรงอย่าครื้นเครงด่าว่ากับข้าไท
ปรนนิบัติอย่าให้บกน้ำใจเขาการเรือนการเหย้าเอาใจใส่
ข้าวของสารพันหมั่นเก็บไว้ระวังระไวดูแลอย่าแชเชือน
สอนลูกแล้วบอกอีเม้ยรับสั่งกำชับอีจูงอยู่เพื่อน
ทั้งอมีอีรักช่วยตักเตือนเอ็งเป็นคนต้นเรือนมาแต่ไร
แล้วเรียกข้าผู้ชายที่ใกล้ชิดช่วยอ้ายทิดกับอ้ายเต่าเอาไว้ให้
เฮ้ยพลัดบ้านเมืองมาอย่าไว้ใจฉวยเกิดเหตุเภทภัยอย่าทิ้งนาย
ว่าพลางสวมสอดกอดลูกแก้วแม่จะลาเจ้าแล้วตะวันสาย
แล้วฉุดลงเรือนมาทั้งตายายพระนายก็ตามส่งลงนาวา
พระกาญจน์บุรีศรีมาลามาส่งพ่อน้ำตาคลอไหลซาบลงอาบหน้า
นั่งชะแง้แลตามจนสุดตาลับแหลมแล้วก็มายังห้องนอน

ความรักของนางวันทองต่อพระไวย ฯ หรือพลายงาม

ครานั้นจึงโฉมเจ้าวันทองเสร้าหมองสะอึกสะอื้นไห้
สวมกอดลูกยาด้วยอาลัยน้ำตาหลั่งไหลลงรินริน
วันนี้แม่จะลาพ่อพลายแล้วจะจำจากลูกแก้วไปสูญสิ้น
พระบ่ายก็จะตายลงถมดินผินหน้ามาแม่จะขอชม
เกิดมาไม่เหมือนกับเขาอื่นมิได้ชื่นเชยชิดสนิทสนม
แต่น้อยน้อยลอยลิ่วไปตามลมต้องตรอมตรมพรากแม่แต่เจ็ดปี
ให้แต่เฝ้าทุกข์ถึงคะนึงหานึกว่าแม่จะไม่ได้เห็นผี
เจ้าก็ไม่สูญหายวายชีวีกลับมาได้เผาผีของมารดา
มิเสียแรงพ่อฟูมอุ้มท้องข้ามหนองแนวเขาลำเนาป่า
อยู่ในท้องก็เหมือนเพื่อนมารดาทนทุกข์เวทนาในข้าชัฏ
ผ่าแดดแผดฝนทนลำบากปลิงทากร่านริ้นมันกินกัด
หนามไหน่ไขว่เกี่ยวเที่ยวเดี๋ยวลัดแม่คอยปัดระวังให้แต่ในครรภ์
พ่อพาขี่ม้าไม่ขับควบขยับยวบกลัวเจ้าจะหวาดหวั่น
พอแดดเผาเข้าร่มพนมวันเห็นจะอ่อนผ่อนผันลงกินน้ำ
ค่อยกลืนแต่พอชื่นไม่กลืนหนักกลัวลูกจะสำลักทุกเช้าค่ำ
เมื่อเขาส่งลงมาต้องจองจำแสนระกำก็ระวังจะนั่งนอน
ด้วยเป็นห่วงบ่วงใยในลูกรักจะเดินหนักเกรงท้องขยักขย้อน
จะนั่งหนักเจ้าจักอนาทรครั้นนอนนักกลัวจะเหนื่อยอนาถตัว
เจ้าคลอดรอดแล้วจึงคลายใจเข้าถนอมกล่อมไกวพ่อทูลหัว
เจ็ดปีแม่ประคองไม่หมองมัวขุนข้างชั่วลักลูกไปลับตา
เขาตีต่อยปล่อยหลงในดงชัฏกุศลชัดให้เจ้าคืนมาเห็นหน้า
พอเห็นแล้วก็ต้องพรากจากมารดาแต่นั้นมาช้านานจึงพาลพบ
กุศลหนหลังยังค้ำจุนให้ลูกแก้วมีบุญประจวบจบ
เที่ยวติดตามแม่พ่อพอพร้อมครบกลับมาต้องทำศพของมารดา
เหมือนอุตส่าห์ดั้นด้นพ้นป่าชัฏพอเห็นแสงจันทร์จำรัสพระเวหา
สำคัญคิดว่าจะสุขทุกเวลาพอสายฟ้าฟาดล้มจมดินดาน
พ่อจะเห็นมารดาสักครึ่งวันพันนั้นสูญเปล่าเป็นเถ้าถ่าน
จะได้แต่คิดถึงคะนึงนานกลับไปบ้านเถิดลูกอย่ารอเย็น
เมื่อเวลาเขาฆ่าแม่คอขาดจะอนาถไม่น่าจะแลเห็น
เจ้าดูหน้าเสียแต่แม่ยังเป็นนึกถึงจะได้เห็นหน้ามารดา
ร่ำพลางนางกอดพระหมื่นไวยน้ำตาไหลซบเซาไม่เงยหน้า
ง่วงหงุบฟุบลงกับพสุธากอดลูกยาแน่นิ่งไม่ติงกาย ฯ

พระไวย ฯ รำพันถึงแม่

พระไวยร้องไห้อยู่เคียงแม่เห็นมารดานิ่งแน่ก็ใจหาย
เข้านวดแม่แก้ไขอยู่วุ่นวายนางค่อยคลายเจ้าก็ร่ำพิไรวอน
โอ้เจ้าประคุณของลูกเอ๋ยแม่เคยเลี้ยงลูกแล้วสั่งสอน
ผูกเปลเห่ช้าให้ลูกนอนป้อนข้าวอาบน้ำให้กินนม
ประโถมลูบจูบจอมกระหม่อมแก้วอาบน้ำให้แล้วก็มุ่นผม
ขมิ้นทาพาเข้าที่นอนชมแม่ปรารมภ์ระวังซึ่งโพยภัย
คราวลูกเสาะแสะแม่โศกเศร้าหยูกยาปลาอาหารเอาใจใส่
กางมุ้งยุงริ้นทั้งเรือดไรแม่มีให้ผูกน้อยอนาทร
ครั้นลูกเติบใหญ่ได้เจ็ดขวบเคราะห์ประจวบตัวลูกถูกหลอกหลอน
ขุนข้างลวงไปในบ่าดอนเอาไม้ขอนทุ่มทับไว้กับดิน
ปวดเจ็บเหน็บชาไปทั้งกายครั้งนั้นลูกนี้หมายว่าสูญสิ้น
จะเป็นเหยื่อเสือสัตว์มันกัดกินเทพไทไพรสิณฑ์ท่านเมตตา
ช่วยฉุดชักผลักขอนขุนข้างให้ลูกจึงกลับมาได้ไม่สังขาร์
ต้องพลัดพรากจากแม่แต่นั้นมาเดินบ่าหนามตำระกำใจ
คนเดียวบุกไปในไพรสัณฑ์แต่สุพรรณถึงกาญจน์บุรีได้
บุญปลอดรอดสัตว์ในกลางไพรย่าเลี้ยงดูไว้จึงเป็นคน
เสนยากใครจะยากเท่าลูกน้อยยากร้อยพันเท่าทุกแห่งหน
ถึงใครจนก็ไม่เหมือนที่ลูกจนทรพลพ่อแม่ไม่เห็นใคร
ได้เห็นแม่ก็แต่ยังเด็กเด็กหน้าพ่อเมื่อแต่เล็กหาเห็นไม่
ถามย่าย่าเล่าจึงเข้าใจหนีย่ามาในพนมชัฏ
ป่ากว้างช้างเสือก็เหลือหลายยุงรั้นบินตอมมันตอมกัด
อดอยากข้าวปลาสารพัดหนามไหน่ไม่ลัดเป็นรอยริ้ว
ยามนอนกลางไพรใจอนาถน้ำค้างสาดกระเซ็นมาเย็นฉิว
ลมจัดพัดต้องใบไม้ปลิวเดินเดี๋ยวเปลี่ยวลิ่วมาถึงกรุง
ครั้นถึงพ่อพ่อก็จนต้องทนทุกข์ติดคุกขัดสนจนผ้านุ่ง
จึงพากเพียรเรียนวิชามาบำรุงไปรบพุ่งมีชัยจนได้ดี
ข้าไทเงินทองก็กองเกลื่อนบ้านเรือนยศศักดิ์เกษมศรี
ได้เห็นหน้าบิดาทุกราตรียังบาดแต่แม่นี้ไปอยู่ไกล
คิดถึงจึงไปรับแม่กลับมาหมายว่าจะยกย่องให้ผ่องใส
มิรู้ว่าพาแม่มาบรรลัยดั่งลูกฆ่าแม่ให้มรณา
จึงหันมาว่าเหวยเพชฌฆาตมาพ้นฟาดเรานี้จะดีกว่า
ขอตายแทนตัวของมารดาอย่าให้แม่ข้านี้บรรลัย
เป็นเพราะกูรับแม่กลับมาท่านจึงลงอาญาเป็นข้อใหญ่
ว่าพลางกลิ้งเกลือกเสือกไปสะอื้นไห้อยู่กับตีนของมารดา ฯ
ครั้นค่อยฟื้นคืนขอขมาโทษแม่จงได้โปรดซึ่งเกศา
เมื่อเด็กอยู่ยังไม่รู้ซึ่งกิจจาได้เอื้อมสูงต่ำว่าให้เคืองใจ
หยิกกัดผิดตีแล้วเถียงด่ามารดาจงงดโทษให้
อย่าให้เป็นเวรกรรมของลูกไปไหว้แล้วไหว้เล่าเฝ้าโศกา
โอ้ตะวันกระไรช่างรีบบ่ายจะเร่งให้แม่ตายไม่เห็นหน้า
เจ็บไข้หรือจะได้หาหยูกยารักษาแม่มิให้ได้ร้อนรน
สิ่งของขันเชี่ยนจะซื้อขายทั้งข้าไทวัวควายที่เกลื่อนกล่น
จะจำหน่ายให้หมอพอสินบนแต่ชั้นจนตัวลูกกระทั่งเมีย
นี่มิได้รักษาพยาบาลเนื้อกรรมตามผลาญประหารเสีย
พระไวยอกใจดังไฟเลียละห้อยละเหี่ยเพียงจะม้วยไปด้วยกัน ฯ

พระไวย ฯ ทูลขอพระราชทานโทษนางวันทอง เพื่อทดแทนพระคุณของแม่

ครานั้นพระไวยวรนาถฟังพระราชบัญชาน้ำตาหลั่ง
เห็นพระเวชขลังจริงไม่ชิงชังถวายบังคมกราบแล้วทูลไป
ขอเดชะพระองค์ผู้ทรงภาพเลิศลบล้ำโลกทั้งน้อยใหญ่
จะควรมีควรประการใดชีวิตอยู่ใต้พระบาทา
ทรงชุบเกล้าชุบกระหม่อมเป็นหัวหมื่นทุกวันคืนพระคุณปกเกศา
ผาสุขทุกวันนิรันดร์มายังไม่ได้ขาดฝ่าบาทบงสุ์
มารดาข้าพระพุทธเจ้านี้มิดีแสนชั่วด้วยมัวหลง
กำเริบราคมากใจไม่ตั้งตรงควรทรงพระพิโรธไม่โปรดปราน
ถ้าเพียงแต่พี่ป้าย่ายายจะทิ้งเสียให้ตายไม่สงสาร
นี่มารดาอุ้มท้องทรมานได้เกิดมาเป็นนานเพราะมารดา
สารพัดพระคุณไม่นับได้จะทิ้งไว้ไม่ควรเป็นหนักหนา
อนึ่งตั้งแต่กำเนิดเกิดมายังมิได้พยาบาลประการใด
ครั้งนี้ที่สุดถึงชีวิตขอพระองค์จงประสิทธิ์ประสาทให้
ให้เลื่องลือชื่อเสียงปรากฏไปว่าหมื่นไวยได้แทนคุณมารดา
ชีวิตขอพระราชทานโทษโปรดแต่เฆี่ยนตีอย่างเข่นฆ่า
ตรากตรำจำไว้ให้เวทนาให้สาสมกับที่ผิดประเวณี ฯ

นางศรีประจันคร่ำครวญถึงนางวันทอง

โอ้ว่าเจ้าวันทองของแม่เอ๋ยไม่ควรเลยจะเข้าไปให้เขาฆ่า
ถ้าเจ็บไข้อยู่บ้านกับมารดาก็จะได้รักษาพยาบาล
เมื่อพ่อตายหมายจะอยู่เป็นเพื่อนแม่จนเฒ่าแก่ไม่พรากไปจากบ้าน
เผอิญเนื้อเคราะห์กรรมนำบันดาลไปได้ผัวจัณฑาลให้ผลาญตัว
ถ้ารู้ว่ามันจะเป็นถึงเช่นนี้จะให้บวชเป็นชีที่ท่านขรัว
ถึงเงินทองกองให้ไม่เมามัวอันลูกผัวภูมิให้ผู้ใดเชย
ทั้งอ้ายแผนอ้ายล้านกระบาลใสล้วนจัญไรได้มาเป็นลูกเขย
แย่งกันเหมือนหมาหมูกูไม่เคยเอาจนเลยฉิบหายถึงวายปราณ
อ้ายลูกชายพลายงามเมื่อยามเด็กเห็นเล็กเล็กก็เอ็นดูอยู่ว่าหลาน
ไม่รู้ว่าเติบใหญ่จะใจพาลพลอยล้างผลาญมารดาชีวาวาย
โอ้อกกูแก่เฒ่ามาเปล่าเปลี่ยวตัวคนเดียวลูกผัวก็สูญหาย
จะอยู่ไยให้ยากลำบากกายแกฟูมฟายครวญคร่ำอยู่ร่ำไร ฯ

พระไวย ฯ รำพันถึงนางวันทอง ว่าแม้จะสิ้นชีวิตไปแล้วก็ยังมีความห่วงใยลูก

พระไวยหวั่นหวาดอนาถนักเห็นประจักษ์ว่าแม่แน่หนักหนา
สยดสยองพองหัวกลัวมารดาน้ำตาพรากพรากลงพร่างพราย
โอ้แม่เจ้าประคุณของลูกแก้วสิ้นซากศพแล้วไม่สูญหาย
ลูกทำบุญส่งให้ไปมากมายยังไม่วายความชั่วที่ตัวทำ
เอาเพศเป็นเปรตอสุรกายกลับกลายตามมาเวลาค่ำ
สั่งสอนวอนบอกให้ลูกจำมีพระคุณเข้าค่ำแต่เป็นคน
แม่ตายหายลับไปหลายปีเพิ่งมาเห็นวันนี้ในไพรสณฑ์
ห้ามลูกมิให้ไปประจญจะเสียตนตายด้วยฝีมือมอญ