รามเกียรติ์ เล่ม ๑

พระราชนิพนธ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก

ความรักของนางสวาหะต่อหนุมาน

เมื่อนั้นนวลนางสวาหะดวงสมร
เห็นบุตรนั้นเป็นวานรฤทธิรอนดังองค์พระสุริยัน
มีใจใส่โสมนัสสาพ้นคำมารดาสาปสรร
จึ่งอุ้มลูกยาวิลาวัณย์ให้เสวยซึ่งถันธารา
กวดจูบโลมทั่วอินทรีย์ดวงชีวีแม่สุดเสน่หา
สงสารที่เจ้าเกิดมาอนาถาไร้ญาติเข็ญใจ
ทั้งแม่ลูกก็มีได้เลี้ยงกันสารพันไม่มีสิ่งใดให้
มิหนำจะซ้ำจากไปอาลัยเป็นพ้นพันทวี
จงฝากกายพระพายเทเวศร์ซึ่งเป็นบิตุเรศเรื่องศรี
อันกุณฑลขนเพชรเขียวมณีที่มีในกายของลูกรัก
ถ้าว่าผู้ใดมาทักทายท่านนั้นนารายณ์ทรงจักร
อวตารลงมาผลาญยักษ์เจ้าจงสามิภักดิ์กับบาทา ฯ

ฯ ๑๒ คำ ฯ

ความรักของนางนิลาดวงมานตรต่อทรพี

มาถึงท่านแก้วสุรกานต์พอพระสุริย์ฉานจารัสศรี
ก็ได้ศุภฤกษ์ยามดีพร้อมทั้งดิถีเวลา
จึ่งตกลูกมาเป็นตัวผู้คะนองดูองอาจแกล้วกล้า
คอล่ำกำลังมหึมาก็โลมเลี้ยงลูกยาสำราญใจ
ให้กินนมแล้วปลอบลูกรักแม่จะอยู่ข้างนักก็ไม่ได้
แม้นพ่อของเจ้ารู้ไปจะพากันบรรลัยไม่พริบตา
จึงเล่าให้ฟังถ้วนถี่แต่ฆ่าชีวิตลูกเสียหนักหนา
เจ้าจงระมัดกายากำพร้าแม่อยู่สถาวร
สั่งพลางน้ำตาไหลพรากขอฝากเทพไททุกส่งขร
แล้วออกจากถ้ำอลงกรณ์บทจรตามฝูงเที่ยวไป ฯ

ฯ ๑๐ คำ ฯ

นางประไพวดีย์สอนนางไกยเกษีตอนจะนำไปถวายท้าวทศรถ

เมื่อนั้นนางประไพวดีย์ยอดสงสาร
สวมกอดพระธิดายุพาพาลเยาวมาลย์รับขวัญกัลยา
แล้วมีวาจาอันสุนทรดวงสมรแม่ยอดเสน่หา
เจ้าจะจากอกพระมารดาไปยังอยุธยาธานี
เป็นข้าใต้เบื้องบาทบงสุ์พระผู้พงศ์หริรักษ์เรื่องศรี
จงเจียมองค์จงรักภักดีฝากชีพชีวีภูวนัย
อุตส่าห์พยายามหาความชอบรอบคอบราชกิจเอาใจใส่
สิ่งชั่วอย่ากลั้วให้มีภัยแม่จะได้เป็นศรีอยุธยา ฯ

ฯ ๘ คำ ฯ

เมื่อนั้นพระชนกมารดาทั้งสองศรี
ให้อาลัยในองค์พระบุตรีดั่งหนึ่งชีวีจะจากไป
ลูบหลังแล้วมีวาจาแก้วตาผู้ยอดพิสมัย
จงจำเริญสวัสดีอย่ามีภัยให้เป็นใหญ่แก่ฝูงกัลยา
ตรัสแล้วสองกษัตริย์สุริย์วงศ์พาองค์พระธิดาเสน่หา
ลงจากปราสาทแก้วแววฟ้าข้าสาวชาวแม่ก็ตามไป ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

นางไกยเกษีครวญถึงพระชนกชนนี

เมื่อนั้นโฉมนวลนางไกยเกษี
บังคมลาพระชนกชนนีมีความโศกาอาลัย
ชลเนตรคลอคลองนองพักตร์เยาวลักษณ์เศร้าสร้อยละห้อยไห้
โอ้ว่าแต่นี้จะจำไกลที่ไหนจะได้เห็นพระชนนี ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ คุกพาทย์

เดินทางผ่านทุ่งวุ้งเขาตามถิ่นเนาห้วยธารคีรีศรี
คิดถึงพระชนกชนนีเทวีเปล่าอกเปลี่ยวใจ
เห็นยูงทองท่องหามรถาเหมือนถูกจากมาในป่าใหญ่
เห็นนกกระเวนกระเวนไพรอาลัยเหมือนเสียงกระเวนวัง
สาลิกาจับเรียงเคียงพลอดเหมือนพระแม่สวมกอดแล้วสอนสั่ง
รังนานพักฟองระวังรังเหมือนครั้งระวังลูกแต่เยาว์มา
โอ้ว่าแต่นี้จะไกลบาทพระบิตุราชชนกีนาถา
บัดนี้จะทรงโศกาแสนเวทนาอาลัย ฯ

ฯ ๘ คำ ฯ เชิด

นางมณโฑอาลัยรักนางสีดาเมื่อจะใส่ผอบลอยน้ำ

เมื่อนั้นโฉมนางมณโฑมารศรี
แลเห็นผอบก็โศกีเทวีตีอกเข้ารำพัน
โอ้ว่าลูกน้อยของมารดาแม่อุตส่าห์อุ้มท้องประคองขวัญ
นอนนั่งตั้งแต่ถนอมครรภ์มิให้อันตรายสิ่งใด
อนิจจาเกิดมาเอาชาติจะคลาดจากเวราก็หาไม่
โอ้ว่าลูกน้อยกลอยใจเจ้าจะไปเป็นเหยื่อแก่ฝูงปลา
ถึงกระไรแต่พอได้อาบน้ำป้อนข้าวสักคำก็ไม่ว่า
ร่ำพลางทางแสนโศกากัลยาแน่นิ่งไม่สมประดี ฯ

ฯ ๘ คำ ฯ โอด

พระชนกและพระมเหสีสั่งสอนนางสีดาตอนอภิเษกกับพระราม

เมื่อนั้นท้าวชนกจักรวรรดิรังสรรค์
เห็นสองสุริยาวิภาวัณย์งามดังสุริยันจันทร
จึงตรัสเรียกราชบุตรมารศรีจงฟังพ่อสั่งสอน
เจ้าจะจากอกพระบิดรไปอยู่นครอยุธยา
เป็นข้าช่วงใช้บำเรอบาทพระภัสดาธิราชนาถา
สงวนกายฝากกายฝากชีวาภักดีไปกว่าจะม้วยมิด
อย่าทะนงว่าเป็นองค์อัครราชเจียมกายอย่าประมาทราชกิจ
ฝูงอนงค์ซึ่งพระองค์ใช้ชิดอย่าคิดฉันทาราคี
อันพระชนนีบิตุเรศก็เหมือนบังเกิดเกศเกศี
ลูกรักจงรักภักดีจึงมีสวัสดีสถาวร
อย่าก่อการให้เคืองเบื้องบาทเยาวราชจงสมัครสโมสร
ถนอมจิตเป็นนิจนิรันดรดวงสมรจงจำวาที ฯ

ฯ ๑๒ คำ ฯ

เมื่อนั้นนวลนางสีดามารศรี
ฟังพระบิตุรงค์ทรงธรณีน้อมเศียรรชุลีกับบาทา
โอ้ว่าพระองค์ผู้ทรงเดชพระคุณเคยปกเกศเกศา
เลี้ยงลูกแต่เยาว์จนใหญ่มาผ่านฟ้ามิให้อนาทร
ถนอมดั่งดวงเนตรดวงใจผิดชอบสิ่งใดพระสั่งสอน
จนลาพรตคืนเข้าพระนครด้วยอาวรณ์จะปลูกลูกรัก
จึงตั้งพิธียกสินชัยเลือกคู่จะให้เสมอศักดิ์
ที่สมวงศ์สมพงศ์สมพักตร์ให้เป็นหลักจรรโลงธาตรี
ควรหรือไม่ได้สนองบาทพระบิตุรงค์ธิราชเรื่องศรี
ร่ำพลางนางทรงโศกีดังหนึ่งชีวีจะมรณา ฯ

ฯ ๑๐ คำ ฯ โอด

เมื่อนั้นท้าวชนกจักรวรรดินาถา
ทั้งองค์สมเด็จพระมารดาเห็นลูกโศการำพัน
สององค์กอดองค์เยาวลักษณ์ชลนาคลอพักตร์แล้วรับขวัญ
โอ้ว่าเจ้าดวงชีวันจะกันแสงรำพันไปใยมี
จำเป็นแล้วจำจะวิโยคจงดับโศกเสียเถิดนะโฉมศรี
นังจะพบบิตุเรศชนนี้ใช่จะสิ้นชีวีจากจร
ควรเจ้าจะสนองรองบาทพระสามีธิราชทรงศร
จึงจะเป็นศรีสวัสดิ์สถาวรดวงสมรถนอมใจให้จงดี ฯ

ฯ ๘ คำ ฯ

พระรามพระลักษมณ์รำพันถึงพระคุณพระชนกชนนีตอนจะจากเมือง

ถึงหน้าปราสาทพระบิตุรงค์สามกษัตริย์นั่งลงบังคมไหว้
ชลเนตรคลอเนตรถอนใจร่ำไรโศกาอาวรณ์
โอว่าพระจอมมงกุฎเกศทรงเดชเลี้ยงลูกมาแต่ก่อน
สิ่งใดมิให้อนาทรเช้าค่ำพร่ำสอนไม่เว้นวัน
หวังจะให้สืบสุริยวงศ์ในพงศ์จักรพรรดิรังสรรค์
เวรหลังติดตามมาทันบันดาลจำพรากจากไป
ที่นี้ตั้งแต่จะแลลับเหมือนเดือนดับสิ้นแสงแขไข
ลูกขอลาบาทพระทรงชัยภูวไนยค่อยอยู่สวัสดี
ทั้งองค์พระชนนีเจ้าอันบังเกิดเกล้าเกศี
พระคุณล้ำฟ้าธาตรีพ้นที่จะนับคณนา
ยังมิได้สนองเท่ายองใยจะไกลพระองค์ ไปอยู่ป่า
แม้นลูกไม่ม้วยมรณาจะกลับมารองบาทพระทรงธรรม์
ร่ำพลางฟูมฟายชลเนตรแสนเทวษพ่างเพียงจะอาสัญ
แข็งใจเยื้องย่างตามกันจรจรัลจากปราสาทสุรกานต์ ฯ

ฯ ๑๔ คำ ฯ

โอ้ว่าสมเด็จพระบิตุเรศพระชนนีก่อเกศเกศี
พระคุณล้นฟ้าธาตรีครั้งนี้จะจากพระองค์ไป
ตั้งแต่จะไกลเบื้องบาทดั่งภานุมาศเลี้ยวลับเหลี่ยมไหล
กตัญญะจะสู้ไปเดินไพรไม่คิดอาลัยแก่ชีวา
เกิดมามิได้สนองคุณซึ่งการุณบำรุงรักษา
ถึงกระไรแต่ได้บังคมลากราบบาทบาทาจะคลายใจ
สุดคิดสุดปัญญาผ่อนผันจะผัดวันอยู่ช้าก็ไม่ได้
อกเอ๋ยจะทำประการใดจนใจเป็นพ้นพันทวี
เสียแรงเกิดในสุริยวงศ์จักรพรรดิฤทธิรงค์เรืองศรี
ดูดั่งทรลักษณ์อัปรีย์พระจักรีร่ำพลางทางโศกา ฯ

ฯ ๑๐ คำ ฯ โอด

พระชนนีติดตามอ้อนวอนให้พระรามพระลักษมณ์กลับเข้าเมือง

เมื่อนั้นสองพระชนนีเสน่หา
สวมกอดพระลักษมณ์รามากับนางสีดาดวงจันทร์
พิสพักตร์แล้วลูบอินทรีย์มีพระเสาวนีย์รับขวัญ
จงระงับโศกาจาบัลย์อย่ากันแสงนักเลยนะลูกรัก
พระบิตุรงค์ปลงชีพชีวาแม่แสนโศกาเพียงอกหัก
ทั้งทุกข์ถึงเจ้าเป็นพ้นนักเพียงจักสุดสิ้นพระชมมาน
บัดนี้พระพรตผู้น้องก็ไม่ครองพาราราชฐาน
กลัวโกรธมารดาดั่งเพลิงกาลจะประหารให้สิ้นชีวี
จึ่งพาแม่นี้ออกมาตามไม่ผ่อนความนางไกยเกษี
เชิญเจ้าเข้าไปยังธานีครอบครองบุรีภิรมยา ฯ

ฯ ๑๐ คำ ฯ

เมื่อนั้นสามพระชนนีเสน่หา
ฟังรสพจนารถพระรามาต่างแสนโศการาลัย
จึงสวมสะกดสามพระลูกรักชลนานองพักตร์สะอื้นไห้
อนิจจาต้องมาเดินไพรเพราะจะไปสังหารอาธรรม์
จะได้ยากลำบากสิบสี่ปีไม่มีสิ่งสุขะเกษมสันต์
แม่จะแสนโศการาบัลย์นับวันกว่าเจ้าจะกลับมา
ตรัสแล้วจึงมีสุนทรดูก่อนสีดาเสน่หา
แม่จะไปตามองค์พระภัสดาที่ในแนวบ่าพนาลัย
จะแสนทุกข์แสนยากลำบากนักลูกรักจะเดินที่ไหนได้
เจ้าเป็นยอดอนงค์นางในอย่าไปจงอยู่ด้วยมารดร
แม่นี้จะได้เห็นพักตร์ต่างพระอนุรักษ์ทรงศร
จะคลายทุกข์ค่อยสุขสถาวรกว่าพระสี่กรจะกลับมา ฯ

ฯ ๑๒ คำ ฯ

ความรักของนางตรีชาดาต่อนางเบญกาย

เมื่อนั้นนางตรีชาดายักษี
ครั้นเห็นพระราชบุตรีเทวีสวมกอดด้วยความรัก
ลูบไล้ไปทั่วสารพางค์แล้วอุ้มองค์นางขึ้นใส่ตัก
วันนี้แม่พึ่งเห็นพักตร์คิดว่าจักไม่พบกัน
ว่าพลางเชยชมพระธิดากล่อมยาจูบจอมถนอมขวัญ
แสนโศกโศการำพันพ่างเพียงชีวันจะบรรลัย ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

เมื่อนั้นเบญกายเยาวยอดพิสมัย
กอดบาทชนนีเข้าไว้สะอื้นไห้แล้วแจ้งกิจจา
บัดนี้พระองค์ทรงนคเรศมงกุฎเกศอสุรยักษา
ให้ลูกนิมิตกายาเหมือนองค์สีดาเยาวมาลย์
ไปลวงพระรามพระลักษมณ์ผู้วงศ์จักรพรรดิมหาศาล
ท่าตายลอยอยู่ในชลธารแทบท่าสรงสนานภูมี
ครั้นจะขืนขัดก็จนใจกลัวภัยพระยายักษี
จะทำโทษาฆ่าตีเทวีเล่าพลางพลางโศกา ฯ

ฯ ๘ คำ ฯ

เมื่อนั้นนางตรีชาดายักษา
ได้พาพระราชธิดากัลยาพ่างเพียงจะขาดใจ
โอ้อนิจจานะลูกเอ๋ยกรรมสิ่งไรเลยมาซัดให้
พ่อเจ้าก็จากอกไปเข่นฆ่าฉันใดไม่พบกัน
ตัวแม่นี้ตั้งแต่ทนทุกข์ไม่มีสิ่งสุขเกษมสันต์
ยังแต่เจ้าดวงชีวันนอกนั้นมิได้เห็นใคร
ขับพ่อเสียแล้วมิหนำมาซ้ำฆ่าลูกก็เป็นได้
ร่ำพลางแสนโศกาลัยอรไทเพียงสิ้นสมประดี ฯ

ฯ ๘ คำ ฯ โอด

ความรักของนางสุพรรณมัจฉาต่อมัจฉานุ

เมื่อนั้นนางสุพรรณมัจฉาโฉมศรี
อุ้มลูกรักแนบอินทรีย์เทวีพิศพักตร์แล้วถอนใจ
โอ้ว่าเจ้าเกิดมาในครรภ์แม่จะเลี้ยงสักวันก็ไม่ได้
จำเป็นแล้วจำจะจากไปด้วยกลัวราชภัยอัยกา
เสียแรงพ่อเกิดมาเป็นชายเสียดายไม่ได้อยู่เห็นหน้า
เจ้าจะจำคำมารดาสืบไปแก้วตาอย่าลืมความ
อันบิตุเรศบังเกิดเกล้าของเจ้านั้นเชี่ยวชาญสนาม
เขียนยอดทหารพระรามนามกรชื่อสรีหนุมาน
มีมาลัยกุณฑลขนแก้วเขียวเพชรพรายแพรวฉายฉาน
หาวเป็นดาวเดือนชัชวาลเหาะทะยานไปได้ในอัมพร
แม้นพบจงเข้าอภิวาทกราบบาทด้วยใจสโมสร
สั่งพลางโศกาอาวรณ์บังอรเพียงสิ้นสมประดี ๆ

ฯ ๑๒ คำ ฯ โอด

ครั้นเสร็จซึ่งสั่งโอรสยอกรประณตเหนือเกศี
ค่อยระงับดับความโศกีเทวีประกาศด้วยวาจา
ขอจงฝุงรุกขเทเวศร์อันเรื่องเดชมาช่วยรักษา
องค์มัจฉานุคุมาราลูกข้าอย่าให้มีภัย
สั่งพลางโลมลูบจูบพักตร์เขตรวลักษณ์ถอนทอดใจใหญ่
ลงจากฟากฝั่งสมุทรไทว่ายไปในท้องวารี ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ เชิด

ความรักของนางพิรากวนต่อไวยวิก

เมื่อนั้นฝ่ายนางพิรากวนยักษี
ต้องจำลำบากพันทวีกันด้วยอสุรีลูกรัก
อยู่ในเรือนตรุกันคารแสนทุกข์ทรมานเพียงอกหัก
ไมยราพอสุราพระยายักษ์ให้ใช้ไปตักคงคา
ใส่กะทะจะต้มลูกชายให้ตายด้วยพระรามนาถา
ก็กระเดียดกระออมเดินมาออกจากทวารธานี ฯ

ฯ ๖ ฯ คำ เพลง

ครั้นถึงที่สระบุษบงนั่งลงริมท่าวารีศรี
คิดถึงลูกรักร่วมชีวีตีทรวงเข้าร่ำโศกา
โอ้ว่าไวยวิกของแม่เอ๋ยทรามเชยผู้ยอดเสน่หา
เสียแรงบำรุงเลี้ยงมาจนชันษาจำเริญวัย
ควรหรือไมยราพขุนมารคิดการพาลผิดก็เป็นได้
โทษกร ไม่มีเท่ายองใยใส่ไคล้จะล้างชีวัน
อนิจจาสงสารตัวเจ้ารุ่งเช้าก็จะม้วยอาสัญ
กับองค์พระรามด้วยกันใครจะช่วยได้นั้นก็ไม่มี
สุดที่แม่แล้วนะแก้วตาซึ่งจะพ้นอาญายักษี
แม้นเจ้าสิ้นชีพชีวีแม่นี้ไม่อยู่จะสู้ตาย
ก้มหน้าไปตามทรามสวาทให้ประจักษ์โลกธาตุทั้งหลาย
ถึงอยู่ไปจะทรมานกายจะฟูมฟายชลเนตรทุกเวลา
พรุ่งนี้ก็จะจากอกไปที่ไหนแม่จะได้เห็นหน้า
ร่ำพลางแสนโศกโศกาดั่งว่าจะสิ้นชีวัน ฯ

ฯ ๑๔ คำ ฯ โอด

ความรักของนางมณโฑต่ออินทรชิต

เมื่อนั้นนางมณโฑเยาวยอดเสน่หา
ได้ฟังโอรสทูลมากัลยาอัดอั้นตันใจ
สวมสอดกอดองค์พระลูกนงลักษณ์ทอดถอนใจใหญ่
แล้วมีเสาวนีย์ตรัสไปเจ้าดวงฤทัยของมารคร
ซึ่งพ่อจะยกไปสงครามกับด้วยพระรามทรงศร
เรืองเดชดั่งองค์ทินกรขจรฟากฟ้าธาตรี
ทูษณ์ขรตรีเสียรชาญสนามอาเจ้าทั้งสามยักษี
พร้อมหมู่พหลโยธีออกไปต่อตีราญรอน
แต่พระรามองค์เดียวเคี่ยวฆ่าอสุราตายสินด้วยแสงศร
บัดนี้มีพลวานรทั้งสองพระนครชัยชาญ
แต่ละตนล้วนทรงศักดาฤทธิ์ทศทิศไม่รอต่อต้าน
ซึ่งเจ้ารับราชโองการจะยกทวยหาญไปชิงชัย
ด้วยพระนารายณ์สุริยวงศ์เร่งรักษาองค์ให้จงได้
แม้นี้มิใคร่จะให้ไปจนใจด้วยกลัวพระบิดา ฯ

ฯ ๑๔ คำ ฯ

เมื่อนั้นนางมณโฑเยาวยอดเสน่หา
เห็นโอรสผู้ร่วมชีวาโลหิตติดมาทั้งกาย
ตระหนกตกใจด้วยความรักนงลักษณ์ตัวสั่นขวัญหาย
สวมสอดกอดองค์พระลูกชายโฉมฉายจึงตรัสถามไป
ตัวเจ้าสิทำพิธีการยังเนินจักรวาลเขาใหญ่
แม่นี้เห็นเป็นประหลาดใจเหตุใดบาดเจ็บทั้งอินทรีย์

ฯ ๖ คำ ฯ

เมื่อนั้นอินทรชิตสุริยวงศ์ยักษี
ได้พั่งสมเด็จพระชนกนี้ชุลกรสนองพระวาจา
ลูกไปตั้งตบะชำระกายยังเนินทรายจักรวาลภูผา
ไม่ทันเสร็จกิจวิทยาข้าศึกนั้นตามไปรอนราญ
ได้รบกับองค์พระลักษมณ์สงครามนั้นหนักหักหาญ
พลับพลาเชิงสมุทรบรรลัยลาญด้วยมือพวกพาลไพรี
สินสุดรถรัตนาสถานอีกทั้งกุญชรราชสีห์
ต้องศรบาดเจ็บทั้งอินทรีย์บ่มว่าชีวีจะบรรลัย
สันฤทธิ์สันคิดสรรพอาวุธจะต่อกรมนุษย์นั้นไม่ได้
ผู้เขียวสุดที่จะชิงชัยจึงหนีไพรีเข้ามา
หวังจะลาบาทพระแม่เจ้าอันบังเกิดเกล้าเกศา
กับองค์สมเด็จพระบิดาแล้วจะยกโยธาไปราวี ฯ

ฯ ๑๒ คำ ฯ

เมื่อนั้นนวลนางมณโฑมารศรี
ได้ฟังเพียงสิ้นสมประดีโศกีกอดองค์พระลูกรัก
ชลนัยน์อาบพักตร์อัครเรศแสนเทวษพ่างเพียงอกหัก
สองกรค่อนทรวงเข้าฮักฮักนงลักษณ์ครวญคร่ำร่ำไร ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

โอ้โอ้ว่าเจ้าดวงนัยนาแม่บำรุงเลี้ยงมาจนใหญ่
มิให้ระคายเท่ายองใยหวังจะได้สืบวงศ์พรหมาน
เดิมทีแม่นั้นก็ได้ห้ามไม่พังความขื่นอวดกำลังหาญ
ออกไปต่อกรรอนราญด้วยใจเป็นพาลอหังการ์
ทั้งนี้เพราะองค์พระบิตุเรศฟังเหตุเชื่อสำมนักขา
พระลักษมณ์พระรามจึงตามมาเคี่ยวฆ่าสังหารราญรอน
อินทรชิตลูกรักของแม่เอ๋ยทรามเชยจงงดอยู่ก่อน
แม่จะขึ้นไปทูลพระบิดรอ้อนวอนผ่อนปรนให้พ้นภัย
ร่ำพลางพิศพักตร์พระโอรสแสนระทดทอดใจใหญ่
แสนทุกข์แสนโศกาลัยอรไทเพียงสิ้นสมประดี ฯ

ฯ ๑๐ คำ ฯ

ครั้นถึงน้อมเคียรบังคมบาทพระชนนิธิราชยักษา
ทูลว่าลูกรักจักขอลายกหมู่โยธาพลากร
ออกไปรณรงค์ด้วยพวกพาลยังเนินจักรวาลสิงขร
พระองค์ค่อยอยู่สถาวรอย่าทุกข์ร้อนโศกาอาลัย
อันตัวของลูกครั้งนี้ที่จะรอดชีวีนั้นหาไม่
แม้นได้ประมาทสิ่งใดให้เคืองใต้เบื้องบาทา
ด้วยกายวาจามโนกรรมซึ่งจะนำให้ทุกข์ไปภายหน้า
พระแม่จงได้เมตตาอย่าให้มีเวราแก่ลูกรัก
ทูลพลางสะท้อนถอนใจอาลัยพ่างเพียงอกหัก
ชลนัยน์ไหลลงอาบพักตร์ขุนยักษ์แสนโศกโศกี ฯ

ฯ ๑๐ คำ ฯ

เมื่อนั้นนวลนางมณโฑมารศรี
เห็นลูกรักร่วมชีวีพาทีโศกาอาลัย
ให้เร่าร้อนฤทัยดังไฟพิษปิ้มจะสิ้นชีวิตด้วยได้
สวมสอดกอดลูกเข้าไว้สะอื้นไห้ครวญคร่ำรำพัน ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

นิจจาเอ๋ยเจ้าดวงนัยน์เนตรจอมเกศของแม่เฉลิมขวัญ
เวราสิ่งใดมาตามทันให้พลัดพรากจากกันอนาถนัก
เสียแรงเป็นวงศ์พรหมินทร์เลื่องชื่อลือสิ้นทั้งไตรจักร
ไม่ได้อยู่สืบสุริย์วงศ์ยักษ์มาตายด้วยปรปักษ์ปัจจามิตร
ควรหรือสมเด็จพระบิดรแม่ว่าโดยดีเอาเป็นผิด
จำให้เจ้าสิ้นชีวิตสุดคิดแม่แล้วในครั้งนี้
เสียดายพิภพอสุรินทร์จะเสื่อมสิ้นวงศายักษี
ร่ำพลางกอดลูกเข้าโศกีดั่งหนึ่งชีวีจะมรณา ฯ

ฯ ๘ ฯ คำ โอด

เมื่อนั้นอินทรชิตสุริย์วงศ์ยักษา
เห็นองค์สมเด็จพระมารดาโศกาครวญคร่ำรำพัน
ให้เป็นห่วงบ่วงใยอาลัยนักเพียงจักสิ้นชีพอาสัญ
เร่าร้อนฤทัยคั่งไฟกัลป์กุมภัณฑ์อุตส่าห์แข็งใจ
ทูลว่าพระองค์อย่าทุกข์ร้อนอาวรณ์นักเลยหาควรไม่
ลูกนี้จะกราบลาไปซิงชัยด้วยราชไพรี
แม้นว่าบุมีไม่มรณาจะกลับมารองเบื้องบทศรี
ทูลแล้วย่างเยื้องจรลีจากที่ปราสาทพระมารดร ฯ

ฯ ๘ คำ ฯ เสมอ

อินทรชิตครวญ

ครั้นออกนอกทวารพระนิเวศน์เหลือบแลแปรเนตรซ้ายขวา
เห็นปราสาทแก้วแววฟ้าของพระบิดามารดร
งามเพียงไพชยนต์พิมานมาศโอภาสจำรัสประภัสสร
คิดถึงสองกษัตริย์แล้วอาวรณ์จึงยอกรเหนือเกล้าเมาลี
โอ้ว่าตั้งแต่จะแลลับมิได้กลับมารองบทศรี
พระองค์จงอยู่สวัสดีข้าบาทนี้ขอบังคมลา
อกเอ้ยแม้นหาลูกไม่จะใช้ใครให้ออกไปเข่นฆ่า
จะต้องร้อนถึงองค์พระบิดายกพวกโยธาออกโรมรัน
โอ้ว่าสงสารพระแม่เจ้าจะอาวรณ์ร้อนเร่าโศกศัลย์
จะทุกข์ตรอมผอมเพียงสิ้นชีวันด้วยพระทัยกรุณาลูกรัก
ทั้งสุวรรณกันยุมาเทวีจะโศกีพ่างเพียงอกหัก
ร่ำพลางรีบเร่งพลยักษ์ผันพักตร์ไปตามมรคา ฯ

ฯ ๑๒ คำ ฯ เชิด