พระอภัยมณี

ของ สุนทรภู่

พระมารดาสั่งสอนนางเกษรา ตอนจะส่งตัวให้ศรีสุวรรณ

ฝ่ายพระชนนีนางอยู่ปรางค์รัตน์ครั้นสงัดมองย่ำยามปฐม
นึกปรานิศรีสุวรรณจะบรรทมจึงเชยชมลูกน้อยค่อยประคอง
แล้วลูบหลังส่งสอนประสาหญิงแม่งามยิ่งยอดสตรีไม่มีสอง
จะจำไกลไปอยู่ด้วยคู่ครองอย่าให้ข้องเคืองอัชฌาพระสามี
อย่าถือองค์นงลักษณ์ว่าอัครเรศแม่ดวงเนตรนึกว่าเหมือนทาสี
ต้องซื่อตรงจงรักด้วยภักดีถึงราตรีกราบบาทอย่าขาดวัน
ถ้าเธอกริ้วแม่อย่าโกรธพิโรธตอบประณตนอบโอนอ่อนค่อยผ่อนผัน
อนึ่งเหล่าสาวสุรางค์นางกำนัลอย่าป้องกันหึงหวงให้ล่วงเกิน
เมื่อคราวทุกข์ปลุกให้พระทัยชื่นอย่าเริงรื่นเริศร้างทำห่างเหิน
ราชการภารธุระอย่าละเมินจึงเจริญราศีไม่มีมัว
อันหญิงดีเพราะผลปรนนิบัติรักษาสัตย์สู้ม้วยอยู่ด้วยผัว
ผัวยิ่งรักหนักหญิงก็ยิ่งกลัวอย่าถือตัวต่อชายจะหน่ายใจ
คำของแม่แต่เท่านี้ก็ดีนักบุรุษรักนั้นไม่มีที่สงสัย
ดึกอยู่แล้วแก้วตาจงคลาไคลแม่จะไปส่งเจ้าลำเภาพาล ฯ

ความรักของนางมณฑาต่อนางสุวรรณมาลี

พระมารดรกรกอดพระลูกรักเห็นชบพักตร์นิ่งไปก็ใจหาย
เป็นไรสายสวาทไม่ไหวกายาสะอื้นร่ำน้ำพระเนตรลงพรั่งพราย
เออผิดแล้วแก้วตาของแม่เอ๋ยนี่ทรามเชยสิ้นชีวังกระมังหนา
สะอื้นแอบแนบชิดพระธิดานางพระยานิ่งซบสลบไป
ฝ่ายแสนสาวชาวแม่ต่างแซ่ซ้องประคองร้องกรีดกราดเสียงหวาดไหว
บ้างนวดเคล้นเส้นพระศอสองอรไทก็กลับได้สมประดีค่อยมีมา ฯ
นางมณฑาว่าแต่พรากไปจากแม่เฝ้าตั้งแต่คอยคอยละห้อยหา
สายสุดใจได้คืนมาพาราพระบิดาไปอยู่หนตำบลใด ฯ
ส่วนสุวรรณมาลีศรีสมรสะอื้นอ้อนทูลแจ้งแถลงไข
เหมือนเรื่องหลังครั้งไปปะพระอภัยแล้วใช้ใบกลับมาในวาริน
พอเรือแตกแยกย้ายในสายสมุทรพระราชบุตรแบกว่ายแหวกสายสินธุ์
แล้วกุมารผลาญโจรใจทมิฬไปบุรินทร์รมจักรนครา
จึงยกทัพกลับเที่ยวเลี้ยวตลบมาพานพบอุศเรนตระเวนหา
เข้ารบรับจับได้ไว้ชีวาแล้วกลับมารบแตกแยกกันไป
บัดนี้สองกษัตราก็มาส่งแต่พระองค์ยังอยู่ลำกำปั่นใหญ่
นางทูลตามความยากลำบากใจแล้วสอนให้ลูกหลานกราบมารดา ฯ

ความรักของนางเงือกต่อสุดสาคร

นางเงือกน้ำคำรพอภิวาทข้าเป็นชาติเชื้อสัตว์เหมือนม้าฉา
จะกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงมนุษย์สุดปัญญาขอฝากฝ่าพระบาทบงสุ์พระทรงธรรม
ช่วยเลี้ยงดูกุมารเหมือนหลานเกิดเสียแรงเกิดกายมาจะอาสัญ
อันข้านี้วิสัยอยู่ไกลกันเช้ากลางวันเย็นลงจะส่งนม ฯ
พระโยคีมีจิตคิดสงสารด้วยเหมือนหลายลูกศิษย์สนิทสนม
จึงว่ากูผู้สถิตในกิจกรมไม่มีสมบัติอะไรที่ไหนเลย
จะเย็บฟูกผูกเปลเห่อ้ายหนูก็ไม่รู้สีสาสีกาเอ๋ย
ต้องกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงไปทั้งไม่เคยจะเฉยเมยเสียมิช่วยจะม้วยมุด
ฤกษ์วันนี้ตรีจันทร์เป็นวันโชคต้องโฉลกลัคนามหาอุด
จะให้นามตามอย่างข้างมนุษย์ให้ชื่อสุดสาครอวยพรชัย ฯ
นางกราบกรานท่านสิทธาว่าสาธุให้อายุยืนยงอสงไขย
สืบตระกูลพูนสวัสดิ์กำจัดภัยแล้วอุ้มให้กินนมนั่งชมเชย
โอ้เกิดมาอาภัพอัปภาคย์จะจำจากมารดานิจจาเอ๋ย
อย่าเศร้าสร้อยน้อยใจอาลัยเลยบุญแม่เคยครองเลี้ยงเจ้าเพียงนี้
ไปชาติหน้ามาเกิดกับอกแม่อย่าห่างแหเสน่หาจนอาสัญ
ในชาตินี้วิบากจะจากกันเพราะต่างพันธุ์ผิดเพศสังเวชใจ
สะอื้นพลางนางแลดูลูกรักสงสารนักนึกน่าน้ำตาไหล
จึงหยิบของสองสิ่งซึ่งซ่อนไว้เป็นของพระอภัยให้โอรส
ทำขวัญลูกผูกธำมรงค์รัตน์ไว้กับหัตถ์เบื้องขวาให้ปรากฏ
กุณฑลทองขององค์พระทรงยศให้ดาบสเก็บไว้ให้กุมาร
แล้วเรียกบุตรสุดสาครของแม่เฝ้าแลแลมารดาน่าสงสาร
ให้กินนมชมชูพระกุมารแล้วให้คลานขึ้นบนเพลาพระเจ้าตา
พระสอดกรช้อนอุ้มว่านุ่มนิ่มดูจิ้มลิ้มลูกพ่อเจียวหนอหวา
ไปด้วยกูอยู่ด้วยกันที่ศาลาแล้วอุ้มพามากุฎีพระชีไพร
......
โอ้เอ็นดูมุนีฤษีน้อยให้ละห้อยโหยหาน้ำตาไหล
เข้ากราบเท้าเจ้าตาด้วยอาลัยหลานจะไปกังวลด้วยชนนี
พระเจ้าขู่ดูแลแม่ฉันด้วยจะเจ็บป่วยเป็นตายอย่าหน่ายหนี
ฉันไปปะพระบิดาไม่ช้าที่ถ้าอยู่ดีแล้วจะลามาหาคุณ
ฉวยขัดของต้องอยู่นานสงสารแม่ผู้เดียวแท้สิ้นสุดผู้อุดหนุน
เห็นแต่ปู่อยู่ใกล้น้ำใจบุญจงการุณอย่าให้มีราคีพาน ฯ
มุนีน้อยค่อยนั่งจะสั่งแม่แต่แลแลแล้วก็ขืนสะอื้นอ้อน
จะออกคำอำลาให้อาวรณ์สะท้อนถอนฤทัยมิใคร่ลา
แล้วว่าฉันบรรพชามาวันนี้ให้กุศลชนนีจงหนักหนา
วันหนึ่งปู่ผู้เฒ่าเล่าลูกยาว่าบิดาตกยากมาจากเมือง
พลอยสำเภาเขาไปจะได้สุขหรือเป็นทุกข์ทนอยู่ไม่รู้เรื่อง
มรรคาสารพัดจะขัดเคืองจะถึงเมืองเหมือนหมายหรือวายชนม์
ลูกจะมาลาตามไปถามข่าวพอให้ท้าวเธอรู้จักเสียสักหน
ถ้าฉุกเฉินทุกข์ทับถึงอับจนจะสู้ทนยากแค้นแทนบิดา
ชนนีดีฉันฝากกับปู่แล้วจงผ่อนแผ้วพักอยู่ในคูหา
อย่าถือโทษโปรดให้ลูกคลาคลาตามศรัทธาที่ฉันคิดถึงบิดร ฯ
นางเงือกน้ำกำสรดสลดจิตสุดจะคิดคับทรวงดวงสมร
จะทานทัดขัดไว้มิให้จรสุดสาครของแม่จะอาดูร
นางดูหน้าอาลัยใจจะขาดดังฟ้าฟาดทรวงแยกให้แตกฉาน
สะอื้นอั้นต้นใจอาลัยลานแสนสงสารโศกาแล้วว่าพลาง
โอ้ทูนหัวตัวแม่นี้ไม่ห้ามสุดแต่ตามใจปองอย่างหมองหมาง
แต่ปรานี้ที่ไม่แจ้งรู้แห่งทางจะอ้างว้างวิญญาณ์ในวารี
เคยกินนมชมชื่นระรื่นรสพ่อจะอดนมหมองละอองศรี
ทั้งย่อมเยาว์เบาความได้สามปีเล็กเท่านี้จะไปกระไรเลย
ต้องลมแดดแผดเผาจะเศร้าสร้อยทั้งกล้วยอ้อยพ่อจะได้ไหนเสวย
กันดารแดนแสนไกลพ่อไม่เคยจะหลงเลยลดเลี้ยวอยู่เดียวโดย
แสนสงสารมารดาอุตส่าห์ถนอมจะซูบผอมเผือดผิวจะหิวโหย
เหมือนดอกไม้ไกลต้นจะหล่นโรยน้ำค้างโปรยปรายต้องจะหมองมัว
แม้นล้าเหนื่อยเมื่อยเหน็บจะเจ็บป่วยใครจะช่วยอนุกูลพ่อทูนหัว
ทั้งผีสางกลางชลาล้วนน่ากลัวจะจับตัวฉีกเนื้อเป็นเหยื่อกิน
สารพัดมัจฉาก็กล้าหาญในกลางห้วงชลาชลาสินธุ์
ทั้งครุฑาวายุรัตน์นกหัสดินเที่ยวโบยบินบนอากาศไม่ขาดวัน
เห็นเดินหนคนเดียวจะเฉี่ยวฉาบพิฆาตคาบเข่นฆ่าให้อาสัญ
น่าใจหายตายเป็นไม่เห็นกันแม่พรั่นพรั่นเพราะว่าเจ้ายังเยาว์นัก
ถึงสิบทวีปโบราณท่านเฉลยไม่เหมือนเคยผีสอนด้วยอ่อนศักดิ์
อย่าจู่สู่ดูถูกนะลูกรักจงคิดหนักหน่วงใจดูให้ดี ๆ
สุดสาครวอนว่าอย่าปรารภถึงพานพบผีสางกลางวิถี
ไม้เท้าของป้องกันของฉันมีทั้งม้าขี่เขี้ยวเพชรเกล็ดเป็นนิล
อนึ่งเล่าเจ้าตาวิชาขลังได้สอนสั่งเสร็จสมอารมณ์ถวิล
อย่าหวาดหวั่นพรั่นใจที่ไพรินถึงของกินก็พอเสาะตามเกาะเกียน
ที่พ่อยู่ปู่ชี้วิถีแล้วประเทศแถวทางทิศสถิตเสถียร
จำสำคัญมั่นคงไม่วงเวียนจะพากเพียรพยายามไปตามบุญ
ถึงยังเด็กเหล็กเพชรไม่เข็ดขอนจะเจาะชอนเชิงลำเนาภูเขาหลวง
จะลำบากยากแค้นเพราะแทนคุณก็ได้บุญเบื้องหน้าขอลาไป ๆ
นางรู้ว่าอาจารย์บอกหลานน้อยที่เศร้าสร้อยสร่างเสื่อมเพราะเลื่อมใส
ฤษีช่วยด้วยแล้วเห็นไม่เป็นไรค่อยวางใจจึงว่าแม่ก็แก่กาย
พ่อไปปะพระบิดาแล้วอย่ากลับจงอยู่กับภูวนาถเหมือนมาดหมาย
แม้นลูกยาผาสุกสนุกสบายถึงแม่ตายเสียก็ไม่อาลัยตัว
ถ้าเที่ยวไปไม่พบตลบหลังมาเหมือนสั่งอย่าให้สูญนะทูนหัว
แม่อยู่นี่ไม่เป็นไรดอกไม่กลัวจะฝากตัวดาบสจนปลดปลง
พ่อไปถึงจึงรู้มูลเหตุให้ทรงเดชทราบความตามประสงค์
ว่าชาตินี้ได้ปะกับพระองค์ขอดำรงรองบาททุกชาติไป
แล้วเงือกน้ำอำนวยอวยสวัสดิ์อย่าเคืองขัดขุ่นข้องให้ผ่องใส
ให้พบปะพระบิดาดังอาลัยอรินทร์ภัยคลาดแคล้วอย่าแผ้วพาน ฯ
ฤษีสุดสาครรับพรแม่จะห่างแหนหวนจิตคิดสงสาร
จึงสั่งซ้ำร่ำว่าไม่ช้านานสำเร็จการก็จะมาหามารดร
แล้วลานางย่างเยื้องชำเลืองเหลียวให้เปล่าเปลี่ยวเสียวทรวงสะท้อนถอน
ขึ้นทรงนั่งหลังพระยาม้ามังกรแล้วหยุดหย่อนยืนยั้งเหลียวหลังแล
เห็นศาลาอาลัยเพียงใจขาดจะนิราศแรมร้างไปห่างแหน
สะอื้นไห้ใจคอให้ท้อแท้คิดถึงแม่ถึงตายิ่งอาลัย
ชุลีกรวอนว่าเทพารักษ์ซึ่งสำนักเนินผาชลาไหล
ช่วยคุ้มครองป้องบำบัดกำจัดภัยเทพไททิพโสตจงโปรดปราน

พระนางจันทวดีทรงห่วงใยพระโอรสและพระธิดา

ผ่ายโฉมจันทวดีนารีราชแสนสวาทลูกน้อยละห้อยให้
จะจากวังทั้งสามตามกันไปเป็นจนใจที่จะขัดจะทัดทาน
จัดสุรางค์นางสนมพี่เลี้ยงพร้อมทั้งคนกล่อมกล่าวเกลี้ยงล้วนเสียงหวาน
เจ้าขรัวยายนายสำหรับบังคับการตรวจเครื่องอานพร้อมเพรียงจนเสียงเครือ
เร่งให้คนขนส่งลงกำปั่นทั้งกำนัลน้อยใหญ่ดีใจเหลือ
พอรุ่งสางต่างคนมาลงเรือมีหมอนเสื่อสารพัดจัดประจง ฯ
ฝ่ายพระหน่อบพิตรอดิศรสุดสาครชวนพระน้องเข้าห้องสรง
สสุคนธ์ป่นทองละอององค์ต่างสอดทรงเครื่องประดับดูวับวาม
แล้วลีลามายังห้องสองกษัตริย์ชลีหัตถ์พร้อมพรั่งกันทั้งสาม
นางไว้จุกถูกน้อยน้อยคอยติดตามล้วนงามงามน่ารักลักษณา ฯ
พระบิตุราชมาตุรงค์องค์กษัตริย์สู้อัดอั้นอกรักไว้หนักหนา
กลัวเป็นลางต่างสะอื้นกลืนน้ำตาทั้งบิดามารดรอวยพรชัย
จงไปดีมาดีศรีสวัสดิ์อย่าเคืองขัดขุ่นข้องให้ผ่องใส
ได้พบปะพระบิดาดังอาลัยอรินทร์ภัยคลาดแคล้วอย่าแผ้วพาน
ทั้งสามองค์ทรงสดับอภิวาทประยูรญาติใหญ่น้อยพลอยสงสาร
พระบิตุราชมาตุรงค์ทั้งวงศ์วานพากุมารมาส่งลงนาวา
พร้อมสะพรั่งทั้งร้อยลอยสล้างมีขุนนางลำละนายรายรักษา
เสียงทหารขานโห่ก้องโกลาขึ้นสัญญายิงลั่นสนั่นดัง
ออกกำปั่นลั่นฆ้องกลองกระหึ่มประโคมครึมครื้นแซ่ทั้งแตรสังข์
ออกจากท่าสาคเรศนิเวศน์วังลำที่นั่งลอยเลื่อนค่อยเคลื่อนคลาย
สองกษัตริย์ทัศนานาวาคล้อยหวนละห้อยโหยไห้พระทัยหาย
ทั้งแสนสาวท้าวนางท่านขรัวยายต่างฟูมฟายชลนาด้วยอาลัย
ยิ่งแลลับวับจิตคิดวิตกระกำอกอุตส่าห์ขืนสะอื้นไห้
กษัตราพาสนมกรมในกลับไปไพชยนต์สุวรรณพรรณราย ฯ