บทละครเรื่องรามเกียรติ์

พระราชนิพนธ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย

ความรักของนางมณโฑต่ออินทรชิต

โอ้ว่าอินทรชิตสิทธิศักดิ์เสียแรงแม่พิทักษ์รักษา
กล่อมเกลี้ยงเลี้ยงไว้จนใหญ่มาทุกเวลาเช้าเย็นได้เห็นกัน
หมายจะสืบสุริย์วงศ์พงศ์เผ่าควรหรือเจ้าจะมาอาสัญ
แม่จะกินน้ำตาไม่ราวันจะมอดม้วยด้วยกันเป็นมั่นคง
ทั้งนี้สีดาเป็นต้นเหตุให้บิตุเรศรักใคร่หลงใหล
จนสูญเสียลูกเต้าเผ่าพงศ์จะคิดสงสารใครก็ไม่มี
โอ้เสียดายลงการาณาจักรจะเสื่อมศักดิ์สูญสิ้นทั้งกรุงศรี
นางกอดโอรสร่ำพร่ำโศกีดังเทวีจะวินาศขาดใจ

ฯ ๘ คำ ฯ โอด

แล้วกลั้นกลืนชลนาว่าลูกรักอย่าเพ่อด่วนหวนหักตักไษย
แม่จะพาขึ้นไปเฝ้าท้าวไททูลให้ผ่อนผันด้วยสัญญา
ว่าพลางย่างเยื้องยุรยาตรกับองค์โอรสราชเสน่หา
พร้อมเหล่าสาวสรรค์กัลยาส่องโคมนำหน้าคลาไคล

ฯ ๔ คำ ฯ เพลง

ความรักของนางสีดาต่อพระมงกุฎและพระลบ

โอ้ว่าลูกรักของแม่เอ๋ยทรามเชยพ่ออย่ากันแสงศัลย์
คิดว่าม้วยด้วยแม่แต่ในครรภ์จะไม่เห็นเดือนตะวันแล้วลูกยา
เจ้าเร่ร่อนในป่าดงพงไพรได้ลำบากยากไร้อนาถา
ลูกเอ๋ยเป็นกำพร้าพระบิดาสุริยวงศ์พงศาไม่เห็นพักตร์
แม้นเกิดในเวียงชัยไอศูรย์จะสมบูรณ์พร้อมหมดด้วยยศศักดิ์
นี่มารดายากจนเป็นพ้นนักลูกรักอย่าละห้อยน้อยใจ
ธำมรงค์วงเดียวติดมือมาจะทำขวัญลูกยาอย่ารู้ไข้
ถอดแหวนผูกกรกุมารไว้ทรามวัยพิไรร่ำโศกา

ฯ ๘ คำ ฯ โอด

เมื่อนั้นนวลนางสีดาเสน่หา
ก้มเกล้าเคารพพระสิทธายินดีปรีดาในอารมณ์
แล้วชวนองค์โอรสทั้งสองอุ้มประคองเข้ามายังอาศรม
ค่อยวางลูกจอมขวัญให้บรรทมนางเชยชมกุมารสำราญใจ
ลูกรักของแม่ไม่หลับนอนจะชะอ้อนเที่ยวไปข้างไหน
นิ่งเถิดแก้วตาอย่าร่ำไรแม่จะกล่อมเจ้าให้ไสยา

ฯ ๖ คำ ฯ

เจ้านอนเสียเถิดทั้งพี่น้องจะร่ำร้องไปไยหนักหนา
พ่ออย่ากันแสงโศกาจงนิ่งนิทรานะสายใจ
อย่าเฝ้าเร้ารบมารดาตื่นนอนพ่ออย่ารู้ร้องไห้
ขวัญข้าวเจ้าแม่ผู้เพื่อนไร้ต้องนอนในป่าดงพงพี
แม่จะเก็บผลไม้ให้เสวยทรามเชยของแม่ทั้งสองศรี
โพยภัยไข้เจ็บอย่ารู้มีเทวีโลบลูบพระลูกยา

ฯ ๖ คำ ฯ กล่อม

ครั้นพี่น้องสององค์หลับไหลทรามวัยนั่งพิทักษ์รักษา
โบกปัดพัดวีไปมาด้วยเมตตาลูกน้อยกลอยใจ
ครั้นกุมารตื่นขึ้นค่อยประคองมิให้ลูกสองร้องไห้
อุ้มมาโสรจสรงคงคาลัยลูบไล้ขนงเนตรเกศกรรณ
แล้วอุ้มขึ้นจากอ่างวางบนตักเชยชมลูกรักแล้วรับขวัญ
จึงหยิบผลามาป้อนปันบำรุงเลี้ยงเที่ยงธรรม์ทุกวันมา

ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา

โอ้ว่าลูกรักผู้เพื่อนยากเป็นวิบากมาวิบัติชัดให้
เล่นอยู่ดีดีก็มีภัยมาจากไปเปล่าเปล่าเจียวเจ้ากรรม
สงสารด้วยเจ้ายังเยาว์อยู่ใครจะช่วยค้ำชูอุปถัมภ์
ป่านนี้จะอดอยากตรากตรำเขาจะทำโทษทัณฑ์ฉันใด
เห็นจะให้ห้ำหั่นฟันฆ่าไหนจะรอดชีวามาได้
นิจจาเอ้ยถูกน้อยกลอยใจไม่เคยไกลมารดาสักราตรี
ได้เห็นกันสองราประสายากถ้าแม้นแม่ตายจากจะฝากผี
ควรหรือมาเป็นเช่นนี้ชีวีแม่จะวายตายตาม
เดิมห้ามมิให้เจ้าไปป่าพร่ำว่าหลายครั้งไม่ฟังห้าม
เห็นที่ดีร้ายนี่พระรามจะแจ้งความว่าแม่ยังไม่ตาย
จึงแกล้งคิดอ่านพาลผิดเพราะจิตพยาบาทมาดหมาย
นางครวญคร่าร่ารักลูกชายทอดกายเกลือกกลั้วกลิ้งไป

ฯ ๑๒ คำ ฯ โอด

เมื่อนั้นนางสีดาเศร้าหมองไม่ผ่องใส
ได้ฟังลูกยาจะคลาไคลทรามวัยหวาดหวั่นพันทวี
สวมสอดกอดกุมารไว้บนตักขอบใจเจ้านักที่รักพี่
จะไปตามเชษฐาถึงธานีแม่นี้นึกประหวั่นพรั่นนัก
จะเข้าไปในบ้านเมืองเขาแต่ล้วนพวกเหล่าปรปักษ์
เจ้าอย่าดูถูกนะลูกรักศัตรูรู้จักมิเป็นการ
แม้นเขาช้ำจับไปได้ด้วยแม่จะม้วยชีวันสังขาร
จงหยุดยั้งฟังคำทัดทานอยู่เพื่อนอาจารย์กับมารดา
ลูกใหญ่ก็กำจัดพลัดพรากจะซ้ำจากลูกน้อยเสน่หา
ว่าพลางทางซบพักตราโศกากอดลูกร่ำไร

ฯ ๑๐ คำ ฯ โอด

เมื่อนั้นนางสีดาได้ฟังไม่กังขา
ค่อยระงับดับความโศกาจึงสมองวาจาพระอาจารย์
ทั้งนี้สุดแต่ผู้เป็นเจ้าโปรดเกล้าโยมด้วยช่วยคิดอ่าน
ข้ามิได้แข็งขัดทัดทานขอแต่หลานสองคนให้พ้นภัย
แล้วโอบอุ้มโอรสกำสรดสั่งลูกหลังลูบหน้าน้ำตาไหล
ลูกน้อยของแม่ผู้ร่วมใจเจ้าอย่าประมาทอาจอง
เร่งระมัดระวังกายาฟังคำแม่ว่าอย่าลืมหลง
สอนพลางนางถอดธำมรงค์ยื่นให้องค์พระลบลูกชาย
แหวนนี้มีฤทธิ์สิทธิศักดิ์อุตส่าห์รักษาไปอย่าให้หาย
ถึงต้องโทษทัณฑ์ไม่อันตรายคงจะคลายเคลื่อนพ้นพันธนา
ขวัญข้าวของแม่คิดแก้ไขเอาแหวนนี้ไปให้แก่เชษฐา
ก็จะไม่ม้วยมอดรอดชีวากลับคงคืนมาเห็นหน้ากัน
ถึงมาตรปัจจามิตรจะคิดแค้นตามมาหมื่นแสนก็ไม่พรั่น
แคล้วคลาดปราศรากภยันต์นางรำพันอวยชัยให้พร

ฯ ๑๔ คำ ฯ

เมื่อนั้นนางสีดายินดีจะมีไหน
ประคองกอดลูกน้อยกลอยใจลูบไล้รับขวัญจำนรรจา
เจ้าพลัดพรากจากไปหลายวันแม่สำคัญว่าจะไม่เห็นหน้า
เป็นบุญไม่มอดม้วยชีวาเจ้ากลับมาแม่นี้ดีใจ
เมื่อกองทัพจับเจ้าไปได้นั้นเขาทำโทษโทษทัณฑ์เป็นไฉน
แม่นี้วิตกเป็นพ้นไปด้วยเจ้าไม่เคยทุกข์ทรมาน
น้อยหรือเนื้อตัวมัวมอมซูบผอมผิดทรงน่าสงสาร
ว่าพลางโฉมยงนงคราญสวมกอดกุมารเข้าโศกา

ฯ ๘ คำ ฯ โอด