บทละครเรื่องพระลอ
พระนิพนธ์ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์
พระนางบุญเหลือทัดทานมิให้พระลอจากเมือง เมื่อไม่สำเร็จ ก็สั่งสอนให้โอวาท ด้วยความรักและห่วงใย
ร้องลำลาวเล็กตัดสร้อย พระลูกเอยพระลูกรัก แม่สุดจักทูลทัดขัดขึ้น พระเคราะห์ร้าย โหรทายว่าไม่พ้น เหมือนยางยืนกลางพนาลีชล เนื้อสู่เสือท่าเสือจะยัน พ่อทรงพญาไวจงไต่สวน จะเกินบ่าผ่าดงคงประชวร แม่นี้ตรองเห็นล้วนแต่หนักใจ ตัวแม่แก่แล้วลูกแก้วแม่ เห็นแต่พ่อนฟากผีไข้ แม้ขึ้นไปก็ไม่ห้ามตามพระทัย ร่ำพลางแม่ไห้ก็โศกี
ฯ ๖ คำ ฯ โอด
ร้องลำลาวครวญ พระเอยพระลอราช สะอันอนาถเสน่ห์เคล้าเศร้าศรี กราบบาท พระราชชนนี อาจากบุรีมสั่งวอน ๆ คำ เจรจา (พระลอกันแสงทูลละ)
เกริ่นประสาท เมื่อนั้น พระพันปีชนนีนาถรันทด สลดพระหฤทัยดังจะหว่า พระนางว่าเจ้าวาลักษณ์ แม่รักเจ้าแม่นา รักยิ่งตายิ่งตัว รักยิ่งหัวยิ่งชีพ แต่จอมทวีปแม่จะจาก พรากแม่พรากพระบุรี สรีกษัตริย์มีหลายสิ่ง พระมิ่งของแม่จงจำ ยำน้ำคำแม่อย่าคลา รีตพญาอย่าคลาด อย่าประมาทละเมอตน อย่าระคนคนเท็จ ริรอบเสร็จจึงทำ คิดทุกคำวังออกปาก อย่าให้ยากแก่ใจไพร่ ไต่ความเมืองจงตรง ดำรงพิภพให้เย็น ดับเข็ญนอกเข็ญใน ส่องใจดูทุกทบวง อย่านิยมถ่วงหลงมารษา ถ่องกรุณาเกื้อทางธรรม ที่จะค้าค้ำจงมั่น ที่จะคั้นค้นจงเป็นกล สองต้นหนคนใช้ เลือกหาใจอันสัตย์ ดัดมนตรี โดยยุคต์ ปลุกใจคนให้หาญ ผลาญศัตรูเพรียงเมือง อาชญาเรื่องเรื่อยราษฎร์ กันนิกรกาจเกื้อไพรี ดับกระดีอย่าให้ลุก อย่าชิงสุกก่อนห่าม อย่าล่ามม้าสองปาก อย่าลากพิษตามหลัง อย่าให้คนชังลักแข่ง แต่งตนให้คนรัก ชักชวนคนเมื่อฟ้า ม้วยหล้าอย่าม้วยประสงค์ จงดำรงพระยศพ่อ จงจำข้อแม่สอน จงจำคำแม่วอนสั่งเจ้า จงสุขทุกค่ําเข้า พ่อเอยสุดใจ แม่รา
ฯ ๒๓ คำ ฯ
ความอาลัยรักของพระนางบุญเหลือและพระลอเมื่อจะต้องพรากจากกัน
พระเอยพระมาตุเรศ พระเกศเกศ-กัดกาย เกิดกรรมจรผันผาย ลูกรักขอถวายบังคมลา พระอยู่เดียวเปลี่ยวแด สมเพชพระแม่ ก่นแต่จะโศกา เห็นแต่แสนชาวศรี ลักษณ์วยดีกันยา ประยูรเสนีคณา บรรจงบาทบงสุ์ ไฉนหนอพระนอราช กล้าไกลบาทพระมาตุรงค์ เที่ยวสัญจรตอนดง เดินพงเดินไพร เห็นเหมือนดูแล พระแม่มือไกล ยามประชวรครวญไข้ ไหนจะเห็นกันเอย ๆ
ร้องลำลาวสมเด็จรับมโหรี ยามเอ่ยยามวิโยค พระเรืองอีลุค โลกกรมโศกศัลย์ (ชื่นผกาข่อสงสารพระองค์เพื่อนเอย) ยุรยาตรจากปราสาทสุวรรณ ออกหน้าพระโรง ครามโหร่ฟ้า (โชกิช่อวิเชียร พระเทวมนเทียรของเพื่อนเอย) มเหสีสาวสนมระทมเทวษ โดยเสด็จภูเบศเนื่องนิรันดร์ (พุ่มพิทุกร่วง สงสารสาวแมนสรวงของเพื่อนเอย) บรมกษัตริย์ ทัศนาหน้าพระสถาน พิศวงพรากทวยนานเหิ่มแรง (ช่อพุมเรียง จตุรงค์เชียงเฉียง ของเพื่อนเอย) เทียบพยุหะแสนยาโอราทัพ พร้อมสระพยุหวนประพาสไพรระหง (ช่อการะเกด พระจะจากนิเวศน์เสียแล้วเอย) เห็นสมเด็จมาตรฉะอ้อนองค์ กำสรวลทรงเทวนาโศกาลัย (ช่อกรรณิการ์ โอ้พระพันวรรษาของข้านิเอย) พระโฉมยงวงกราบบัวบาท ทูลลามาตุราชละห้อยไห้ (ก่องมรกต พระราชบุตรโยรสเองเพื่อนเอย) ขอพระพรปกเกศคุ้มเภทภัย สวัสดิมีชัยในไพรวัน (ช่อมะลิซ้อน ขอให้สมพระพรพระแม่นิเอย)
ฯ ๘ คำ ฯ
ร้องลำลาวชมดง เมื่อนั้น เจ้าประจุณบุญเหลือสะอันอื่น (สร้อย) โอ้อ่อนไห้ แม่เหล่ออาลัยเสียแล้วนิเอย ยอดเยาวราช ในแม่จะขาดเสียแล้วนิเอย แสนห่วงพระลูกเจ้าท้าวจวบัลย์ เฝ้ารำพันโอภาสประสาภรณ์ (สร้อย) พ่อหวังใดจงได้ดังถวิล ไร้ราคินภิญโญสมสมะ (สร้อย) ชัยเดชะชนะดัสกร พบอ่อนท้าวสาวสมรเหมือนหมายไป (สร้อย) กล่าวพร่ำแล้วพร่ำเล่ากระเส่าสั่ง กอดจูบลูบหลังกันแสงไห้ (สร้อย) เพียงพระแม่แผ่พินาศอนาถใจ ฤทธิ์อาลัยพันผูกพระลูกยา (สร้อย)
ฯ ๖ คำ ฯ โอด
พระลอรำพันถึงพระชนนี
ร้องลำลาวคราญ โอ้พระชนนีศรีแมนสรวง จะรันทดทรวงเสียวรู้สึกรำลึกถึง ไหนทุกข์ถึงบิตุรงค์ทรงรำพึง ไหนโศกซึ่งถึงคูหทัย ร้อยชู้ถาเท่าเนื้อเมียตน เมียร้อยคนฤๅเท่าพระแม่ได้ พระแม่อยู่เยือกเย็นไม่เห็นใคร ฤๅกลับไปสู่นครก่อนจะดี พี่เลี้ยงตรองพลางสนองพระคำรัส เห็นชอบขัดเคืองจึงคืนบูรีศรี เฉลิมกรุงบำรุงประชาชี เป็นที่เกษมสุขสืบไป โอ้บพิตรยิ่งคิดยิ่งขัดข่อน ครั้นจะจรก็ห่วงนครใหญ่ ครั้นจะคืนก็เกรงคนนินทา ว่าท่านไท้คร้านขลาดประดาษชาย นายแก้วนายขวัญชั้นเสนอ ใครจะเพ้อครหาว่าเสียหาย จากไปหน่อยจึงค่อยเอื้อนอุบาย หมดชินยินร้ายทุกทาง มากูจะเสี่ยงน้ำลองดู ผิวะกูรอดฤทธิ์ผีสาง น้ำใสจงไหลควังคว้าง กูอับปางน้ำเชี่ยวจงเวียนวน
ร้องลำลาวเล็กตัดสร้อย ทอดองค์ลงกับที่ศรีไสยาสน์ พระลอราชโศกสร้อยละห้อยไห้ คะนึงถึงแม่เจ้าเศร้าพระทัย ภูวไนยกำสรวลครวญคราง โอ้ว่าอนิจจามาตุเรศ เกิดเกศถนอมนวลรู้หมาง แม้นลูกตายกายเกลื่อนในเถื่อนทาง ไฉนพระนางชนนีเห็นผีกู เสียแรงทรงศักดาวราฤทธิ์ คิดคิดก็น่าอดสู มาม้วยเพราะหลงระเริงในเชิงรู้ ทั้งพระแม่ให้อยู่แต่เอกองค์ เกิดเป็นชายหมายสนองพระคุณท่าน ไยนกูหาญรักสาวเมื่อคราวหลง มาแต่กายตายกลิ้งอยู่กลางดง พระลอราชอนาถทรงพระโศกา (ปี่พาทย์ทำโอด)