บทละครนอกเรื่องสังข์ศิลป์ชัย

พระราชนิพนธ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย

นางประทุมครวญถึงสังข์ศิลป์ชัย ตอนถูกหกกุมารผลักตกเหว

โอ้ว่าลูกรักของแม่เอียแม่เคยเชยชิดพิสมัย
หรือมาพลัดพรากจากไปเพราะเชื่อไอกระยาจกทั้งหกคน
อันความคิดของมันแม่รู้เท่าได้ห้ามปรามเจ้าเป็นหลายหน
ช่างไว้เนื้อเชื่อใจไอ้แสนกลมันคนริษยาอาธรรม์
เห็นว่ารับเอามาได้แล้วจงคิดฆ่าลูกแก้วให้อาสัญ
จะได้หน้าได้ตาแต่พวกมันควรหรือจอมขวัญไปหลงรัก
อนิจจาลูกน้องมาสูญหายจะเป็นตายฉันใดไม่ประจักษ์
สองกรช้อนทรวงเข้าฮักฮักซบพักตร์กันแสงโศกี

ฯ ๘ คำ ฯ โอด

ครั้นค่อยคลายวิโยคโศกศัลย์จึงปรึกษากันทั้งสองศรี
อันปราสาทราชฐานของเรานี้บังเกิดมีเพราะบุญพระโอรส
แม้นว่าขวัญข้าวเจ้าม้วยมรณ์เห็นบ้านเมืองสังข์ศรจะสูญหมด
ต่อจะยังไม่ทิวงคตก็ค่อยคลายกำสรดโศกา

ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา

นางประทุมยอมคืนดีกับท้าวเสนากุฎเพราะความรักลูก

เมื่อนั้นพระสังข์น้อยค่อยพูดกับเชษฐา
จะทำกระไรดีพี่สิงหราพระมารดาเคืองขัดตัดรอนเรา
จำจะไปวิงวอนผ่อนผันถึงตีรันก็จะทำอย่างไรเล่า
ผิดชอบสองคนเราทนเอาแล้วจูงมือกันเข้าไปเมียงมอง
เห็นไม้เรียวเสียวจิตคิดพรั่นเกียดกันมิใคร่เข้าในห้อง
แข็งใจเต็มที่ทั้งพี่น้องค่อยย่างย่องก้มกรานคลานมา
นั่งริมแท่นสุวรรณบรรจงเห็นมารดรเมินอยู่ไม่ดูหน้า
จึงจับพัดอยู่งานให้มารดาแล้ววอนว่าพาทีพิรี้พิไร
พระแม่เจ้าประคุณของลูกแก้วไม่ดีด้วยพ่อแล้วหรือไฉน
ลูกเป็นกำพร้าน่าอายใจนานไปเขาจะลือออกอื้ออึง

ฯ ๑๐ คำ ฯ

เมื่อนั้นนางประทุมพิโรธโกรธขึ้ง
จึงว่าน้อยหรือช่างดื้อดึงถูกตีทีหนึ่งแล้วมิฟัง
ขืนจะเฝ้าอ้อยอิ่งวิงวอนนี่เนื้อแท้เคืองค้อนใส่สันหลัง
ยิ่งห้ามยิ่งว่าน่าชิงชังจะให้ตีอีกกระมังสังข์ศิลป์ชัย

ฯ ๔ คำ ฯ

เมื่อนั้นพระกุมารพี่น้องร้องไห้
แล้วแกล้งปรึกษากันทันใดพระชนนีมิได้เมตตา
ตัวเราเดี๋ยวนี้ไม่มีพ่อก็เป็นข้ออับอายขายหน้า
ตายเสียเห็นจะสิ้นนินทาอยู่ไปไพร่ฟ้าจะเลื่องลือ
ว่าพลางทางชักพระขรรค์แก้วจะเชือดคอเสียแล้วให้ลับชื่อ
สิงหราคว้าเชือกที่ผูกมือจะปีนขึ้นบนขื่อผูกคอตาย

ฯ ๖ คำ ฯ

เมื่อนั้นสองนางตัวสั่นขวัญหาย
ตรงเข้าสวมสอดกอดลูกชายน้อยหรือใจร้ายใช่พอดี
ว่าพลางนางยุดพระขรรค์ไว้สังข์ศิลป์ชัยทำว่าอย่าจู้จี้
นางกลัวลูกตายวายชีวีจึงว่าแม่จะดีด้วยบิดา

ฯ ๔ คำ ฯ