การพัฒนาคุณสมบัติของหนังฟอกบ้านสำหรับการทำผลิตภัณฑ์หัตถกรรมหนังตะลุง ด้วยการเสริมอนุภาคนาโนซิงค์ออกไซด์
- ชื่อนักเรียนผู้จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์
ภัทราวดี อออิปก, ณัฏฐณิชา ย่องลั่น, พรลภัส นุ้ยคง
- อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานวิทยาศาสตร์
ศรายุทธ พูลสุข, วรรณธิรา คงพลับ
- โรงเรียนที่กำกับดูแลโครงงานวิทยาศาสตร์
- ปีที่จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์
บทคัดย่อโครงงานวิทยาศาสตร์
โครงงานการพัฒนาคุณสมบัติของหนังฟอกบ้านสำหรับการทำผลิตภัณฑ์หัตถกรรมหนังตะลุงด้วยการเสริมอนุภาคนาโนซิงค์ออกไซด์ ไซด์ จังหวัดพัทลุงเป็นถิ่นกำเนิดของหนังตะลุง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ทางศิลปวัฒนธรรม มีการใช้หนังวัว หนังควายมาทำเป็นตัวหนังตะลุง โดยมีวิธีการนำหนังมาฟอก แกะสลักเป็นรูปตัวหนัง ลงสีและเคลือบสี แต่เมื่อนำตัวหนังตะลุงไปใช้งาน ผ่านการแสดงหนังตะลุงในตอนกลางคืน ตลอดจนการเก็บรักษาพบว่า มีปัญหาด้านการเสื่อมสภาพของหนังตะลุง เช่น เกิดการย่นของตัวหนังจากการโดนความร้อน สีจางลง เกิดเชื้อราได้ง่ายเมื่อโดนความชื้น ตลอดจนกลิ่น (หนังวัว) อันไม่พึงประสงค์ของหนังตะลุง ทางคณะผู้จัดทำจึงสนใจที่จะพัฒนาคุณสมบัติของหนังฟอกบ้านที่ใช้เป็นวัสดุในการทำเป็นตัวหนังตะลุงให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น มีวัตถุประสงค์เพื่อเพื่อศึกษาชนิดของกรดจากธรรมชาติที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการฟอกหนังวัว เพื่อศึกษาความเข้มข้นที่เหมาะสมของ ZnO NPs (0.2 0.4 0.6 0.8 และ 1.0%w/v) ที่ผสมลงไปในหนังฟอกบ้าน และทดสอบประสิทธิภาพของหนังฟอกบ้านในการทำหนังตะลุง คือ ประสิทธิภาพในการยับยั้งเชื้อรา ความคงทนของสี ความคงทนต่อการเปลี่ยนสภาพเมื่อโดนความร้อน ค่าการสะท้อนแสง ความเค้น มีผลการทดลองดังนี้ กรดจากน้ำส้มสายชูทำให้ขูดขนออกง่ายที่สุด และกรดจากน้ำมะนาวทำให้หนังที่ฟอกมีสีขาวที่สุด
ทุกชุดที่มีการเติมสารอนุภาคนาโนซิงค์ออกไซด์ มีประสิทธิภาพในการยับยั้งการเกิดเชื้อราได้ ให้ประสิทธิภาพของตัวหนังตะลุงดีกว่าชุดควบคุม โดยชุดที่เติม 0.4% ZnO NPs มีค่าความคงทนของสีต่อแสงแดดสูงที่สุดคือ 22.2 และ 0.2% ZnO NPs มีความคงทนต่อการเปลี่ยนสภาพเมื่อโดนความร้อนได้ดีที่สุดคือ 0.23 cm และมีค่าการสะท้อนแสงดีที่สุด โดยแสงทะลุผ่านได้เพียง 2.52 lux และชุดที่เติม 1.0% ZnO NPs มีความเค้นสูงสุดคือ 10.29x104 N/m2