การกระตุ้นปัจจัยที่ส่งเสริมมะนาวแป้นพิจิตร(Citrus aurantifolia Swingle) ออกนอกฤดู ร่วมกับการใช้เทคนิคเพิ่มผลผลิต
- ชื่อนักเรียนผู้จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์
อนุพงษ์ ขันแข็ง, อัมรินทร์ นันทอินทร์, ปภัสรา บุตตะวงค์
- อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานวิทยาศาสตร์
รุ่งทิวา สุ่มมาตย์, วีระชัย วรรณวิชิต
- โรงเรียนที่กำกับดูแลโครงงานวิทยาศาสตร์
- ปีที่จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์
บทคัดย่อโครงงานวิทยาศาสตร์
เนื่องจากในช่วงหน้าแล้ง ในพื้นที่ อำเภอดอนจาน จังหวัดกาฬสินธุ์ มีปริมาณผลผลิตของมะนาวลดลง และมีราคาที่สูงขึ้น ประกอบกับดินส่วนใหญ่ในพื้นที่เป็นดินร่วนปนทราย เก็บความชื้นได้น้อย ธาตุอาหารต่ำและมีน้ำใช้อย่างจำกัด คณะผู้จัดทำจึงสนใจแก้ปัญหาดังกล่าวจึงได้ศึกษาปัจจัยที่ส่งเสริมการเพิ่มผลผลิตของมะนาวแป้นพิจิตร(Citrus aurantifolia Swingle) ร่วมกับการประยุกต์ใช้เทคนิคการเพิ่มผลผลิต 1) เพื่อศึกษาสมบัติดินที่เหมาะสมกับการออกดอกและผลของมะนาว 2) เพื่อเปรียบเทียบปริมาณการให้น้ำต้นมะนาวที่ส่งผลต่อการออกดอกและผลของมะนาว 3) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของระบบให้น้ำแบบอัตโนมัติที่ส่งผลต่อการออกดอกและผลของมะนาว 4) เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบประสิทธิภาพแผ่นคลุมดินจากใบก้ามปูV2 ที่มีผลต่อสมบัติดินที่เหมาะสมต่อการออกดอกและผลของมะนาว 5) เพื่อศึกษาเทคนิคเพิ่มผลผลิตที่ส่งผลต่อการออกดอกและผลของมะนาว โดย ศึกษาสมบัติดินบริเวณสวนมะนาวของเกษตรกร พบว่า สมบัติดินบริเวณสวนมะนาวของเกษตรกรทั้ง 2 บริเวณ มีค่า pH ธาตุอาหาร NPK และอุณหภูมิดินที่ใกล้เคียงกันและอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมต่อการปลูกพืช ส่วนความชื้นดิน สวนมะนาวที่ปลูกโดยบ่อปูนซีเมนต์มีความชื้นดินที่เหมาะสมต่อการปลูกพืชมากกว่าสวนที่ปลูกแบบปกติ เมื่อความสัมพันธ์ระหว่างความชื้นดินกับจำนวนการติดผลของมะนาว พบว่า การให้น้ำต้นมะนาวในปริมาณ 1500 cm3 /วัน ส่งผลให้มะนาวติดผลได้มากที่สุด และเมื่อเปรียบเทียบรายคู่ระหว่างการให้ต้นมะนาวในปริมาณ 1000 และ1500 cm3 /วัน (ความชื้นดินอยู่ระหว่าง 44.67-54.67%) พบว่า มีจำนวนการติดผลของมะนาวไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จากการใช้แผ่นคลุมดินจากใบก้ามปูแต่ละอัตราส่วน พบว่า แผ่นคลุมดินจากใบก้ามปูแต่ละอัตราส่วนส่งผลต่อสมบัติดินที่แตกต่างกัน โดยการใช้แผ่นคลุมดินจากใบก้ามปูผสมปุ๋ยเคมี และแผ่นคลุมดินจากใบก้ามปูผสมปุ๋ยเคมี และเชื้อราไตรโคเดอร์มาส่งผลต่อสมบัติดินเหมาะสมต่อการปลูกพืชมากที่สุด เมื่อเปรียบเทียบรายคู่ระหว่างการใช้แผ่นคลุมคลุมดินจากใบก้ามปูผสมปุ๋ยเคมี และแผ่นคลุมดินจากใบก้ามปูผสมปุ๋ยเคมี และเชื้อราไตรโคเดอร์มา พบว่า ส่งผลต่อสมบัติดินไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น แผ่นคลุมดินจากใบก้ามปูผสมปุ๋ยเคมี และเชื้อราไตรโคเดอร์มา คือแผ่นคลุมดินจากใบก้ามปูV2 เพราะมีส่วนผสมของเชื้อราไตรโคเดอร์มาที่ช่วยในเรื่องการย่อย และการป้องกันโรคของพืชจากทางดิน เมื่อปลูกมะนาวโดยใช้ระบบให้น้ำแบบอัตโนมัติร่วมกับแผ่นคลุมดินจากใบก้ามปูV2 พบว่า สามารถควบคุมความชื้นดินอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมแก่การปลูกมะนาว คือ ความชื้นอยู่ในระดับ 45-55 % และส่งผลให้ต้นมะนาวติดดอกและผลมากกว่าการปลูกแบบทั่วไป (รดน้ำ เติมปุ๋ย) ส่วนเส้นผ่านศูนย์กลางของผลมะนาวมีค่าที่ใกล้เคียงกัน เมื่อศึกษาการควบคุมจำนวนดอกของช่อดอกที่ส่งต่อการเพิ่มผลผลิตของมะนาว พบว่า การปลิดดอกของมะนาวให้เหลือจำนวน 2 ดอก ส่งผลให้มะนาวติดผลได้ดีที่สุด เมื่อเปรียบเทียบเส้นผ่านศูนย์กลางของผลมะนาวจากการทดลองที่แตกต่างกัน พบว่า มีค่าไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ และเมื่อศึกการใช้น้ำหมักชีวภาพจากหยวกกล้วยที่ส่งผลต่อการเพิ่มผลผลิตของมะนาว พบว่า การปลูกมะนาวแล้วฉีดพ่นน้ำหมักชีวภาพจากหยวกกล้วยส่งผลให้ต้นมะนาวติดดอกและผลได้มากกว่าการปลูกมะนาวแบบแบบเกษตรกรทั่วไปที่ไม่ได้ฉีดพ่นน้ำหมักชีวภาพจากหยวกกล้วย