การศึกษาและสกัดน้ำมันหอมระเหยจากสะระแหน่ หนาด ยูคาลิปตัส เพื่อทดแทนเมนทอล พิมเสน การบูร สารสังเคราะห์ในยาดม โดยใช้ไส้หญ้าปล้องเป็นตัวดูดซับ
- ชื่อนักเรียนผู้จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์
บุญญารัตน์ ธิมาชัย, เจษฎา ธิโนชัย, นารีรัตน์ วรรณชัย
- อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานวิทยาศาสตร์
ศศิธร จันนวล, สราวรัชญ์ อ่อนคง
- โรงเรียนที่กำกับดูแลโครงงานวิทยาศาสตร์
- ปีที่จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์
บทคัดย่อโครงงานวิทยาศาสตร์
ผลิตภัณฑ์ยาดม ส่วนใหญ่ประกอบด้วย เมนทอล การบูร พิมเสน และยังมีน้ำมันระเหยยากช่วยในการละลาย เช่น น้ำมันงา น้ำมันแร่ องค์ประกอบหลักของเมนทอล การบูร และพิมเสน เหล่านี้จะทำให้เกิดความรู้สึกเย็น ซ่า ในโพรงจมูก รู้สึกสดชื่น ตื่นตัวได้บ้าง แต่การสูดดมสารเหล่านี้บ่อยๆ อาจทำให้เยื่อเมือกบุทางเดินจมูก ที่สัมผัสกับกลิ่นที่เข้มข้น เกิดการระคายเคืองได้ จากอันตรายดังกล่าวคณะผู้จัดทำโครงงานจึงมีความสนใจศึกษาและสกัดน้ำมันหอมระเหยจากสะระแหน่ หนาด ยูคาลิปตัส เพื่อทดแทน เมนทอล พิมเสน การบูร สารสังเคราะห์ในยาดม โดยสกัดด้วยวิธีการกลั่นด้วยไอน้ำ จะทำให้ได้น้ำมันหอมระเหยที่มีความบริสุทธิ์ตามลำดับ แล้วใช้ไส้หญ้าปล้องเป็นตัวดูดซับน้ำมันหอมระเหย
การศึกษาครั้งนี้ได้แบ่งการทดลองออกเป็น 3 ขั้นตอน คือ
การทดลองตอนที่ 1 ศึกษาและสกัดน้ำมันหอมระเหยจากสะระแหน่ หนาด และยูคาลิปตัส ด้วยการกลั่นด้วยไอน้ำ พบว่า สารสกัดน้ำมันหอมระเหยจากใบสะระแหน่ มีสีใส กลิ่นหอมเย็นคล้ายเมนทอลมีค่าเป็นกลาง ระดับ 7 และได้ปริมาณมากที่สุด คือ 24.8 cm3
การทดลองตอนที่ 2 ศึกษาลักษณะทางกายภาพ โครงสร้างภายในลำต้น และประสิทธิภาพของพืชที่จะนำมาเป็นตัวดูดซับน้ำมันหอมระเหยที่เหมาะสม พบว่าลักษณะโครงสร้างภายในของไส้หญ้าปล้องมีความเหมาะสมมากที่สุด เนื่องจากโครงสร้างภายในมีลักษณะเป็นร่างแหคล้ายฟองน้ำ น้ำหนักเบามีรูพรุนและมีเส้นใยจำนวนมาก
การทดลองตอนที่ 3 เปรียบเทียบความพึงพอใจของผู้ใช้ต่อน้ำมันหอมระเหยจากสะระแหน่ หนาด และ ยูคาลิปตัส กับยาดมในท้องตลาด พบว่า ความพึงพอใจของผู้ใช้ต่อยาดมสมุนไพร ด้านกลิ่นของน้ำมันหอมระเหย ส่วนใหญ่ชอบกลิ่นรวมพืช 3 ชนิด คือ ใบสะระแหน่ ใบหนาด ใบยูคาลิปตัส รองลงมาคือ กลิ่นของยาดมในท้องตลาด มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.33 และ 3.86 ตามลำดับ