การพัฒนาสูตรฟิล์มห่ออาหารบริโภคได้ผสมน้ำมันหอมระเหยกระชายเพื่อยับยั้งแบคทีเรียก่อโรคในทางเดินอาหารและประยุกต์ใช้ในการถนอมอาหารอย่างมีประสิทธิภาพ

ชื่อนักเรียนผู้จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์

อัครพล ใจยอด, พิพัฒน์ บุญเพชร

อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานวิทยาศาสตร์

ปิยะมาศ เจริญชัย

โรงเรียนที่กำกับดูแลโครงงานวิทยาศาสตร์

โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย พิษณุโลก

ปีที่จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์

พ.ศ. 2563

บทคัดย่อโครงงานวิทยาศาสตร์

โครงงานเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของสารเพิ่มความยืดหยุ่นและสารพอลิแซคคาไรด์ของแผ่นฟิล์ม ศึกษาคุณสมบัติของแผ่นฟิล์มผสมสารสกัดและน้ำมันหอมระเหยจากกระชาย และทดลองใช้แผ่นฟิล์มผสมสารสกัดและน้ำมันหอมระเหยจากกระชายห่อหุ้มอาหาร โดยทำการเตรียมแผ่นฟิล์มแป้งมันสำปะหลังที่มีปริมาณกลีเซอรอลและโซเดียมอัลจิเนตแตกต่างกัน แล้วทำการทดสอบคุณสมบัติในการยืดตัวและการทนแรงดึงของแผ่นฟิล์ม พบว่า ปริมาณกลีเซอรอลและโซเดียมอัลจิเนตมีผลต่อคุณสมบัติของแผ่นฟิล์ม โดยปริมาณกลีเซอรอลเพิ่มขึ้น จะทำให้แผ่นฟิล์มมีค่าการยืดตัวเพิ่มขึ้น แต่ค่าการทนแรงดึงลดลง ส่วนปริมาณโซเดียมอัลจิเนตเพิ่มขึ้น จะทำให้แผ่นฟิล์มมีค่าการยืดตัวลดลง แต่ค่าการทนแรงดึงเพิ่มขึ้น ทำการสกัดสารจากกระชายด้วยตัวทำละลายเอทานอล และกลั่นน้ำมันหอมระเหยกระชายด้วย Clevenger Apparatus แล้วตรวจสอบความสามารถในการดูดกลืนแสง พบว่าสารดังกล่าวมีความสามารถในการดูดกลืนแสงที่ความยาวคลื่น 420 นาโนเมตร และสามารถยับยั้งเชื้อสามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย Staphylococcus aureus ได้ไม่แตกต่างกันทางสถิติ จากนั้นทำการเตรียมแผ่นฟิล์มโดยใช้ปริมาณกลีเซอรอลและปริมาณโซเดียมอัลจิเนตที่เหมาะสม แล้วผสมสารสกัดและน้ำมันหอมระเหยจากกระชาย ทำการตรวจสอบคุณสมบัติของฟิล์ม พบว่าแผ่นฟิล์มผสมสารสกัดกระชายและแผ่นฟิล์มผสมน้ำมันหอมระเหยกระชาย สามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย S.aureus ได้ไม่แตกต่างกันทางสถิติ โดยมีความหนา ค่าการยืดตัว ค่าการทนแรงดึง ค่าการละลายน้ำ และสี ใกล้เคียงกัน และใกล้เคียงกับแผ่นฟิล์มที่ไม่ได้ใส่สารด้วย นอกจากนี้แผ่นฟิล์มผสมสารสกัดกระชายและแผ่นฟิล์มผสมน้ำมันหอมระเหยกระชายสามารถนำมาห่อหุ้มอาหารได้ โดยมีความสามารถในการยับยั้งการเจริญของแบคทีเรียทั้งหมดในเนื้อหมู เท่ากับ 97.06% และ 98.72% ตามลำดับ นอกจากนี้ฟิล์มดังกล่าวยังสามารถนำไปห่อหุ้มตัวอย่างอาหารร่วมกับวัสดุอื่น และสามารถนำไปไว้ในที่อุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียลได้ด้วย อีกทั้งยังสามารถนำมาใช้ซ้ำได้อย่างน้อย 3 ครั้ง