ศึกษาระบบให้น้ำและปุ๋ยหมักชีวภาพใต้ผิวดินที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของพืชสวน

ชื่อนักเรียนผู้จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์

สุปรียา อาษาพนม, อาณิตา ผ่องศรี

อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานวิทยาศาสตร์

ชุมพล ชารีแสน

โรงเรียนที่กำกับดูแลโครงงานวิทยาศาสตร์

โรงเรียนดอนจานวิทยาคม

ปีที่จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์

พ.ศ. 2562

บทคัดย่อโครงงานวิทยาศาสตร์

เนื่องจากดินในท้องถิ่นเป็นดินร่วนปนทราย มีธาตุอาหารต่ำ ไม่เก็บความชื้น ประกอบกับในพื้นที่อำเภอดอนจาน จังหวัดกาฬสินธุ์ มีอยู่ในเขตชลประทานจึงมีน้ำไว้ใช้อย่างจำกัด คณะผู้จัดทำจึงสนใจแก้ปัญหาดังกล่าวจึงได้ประดิษฐ์ นวัตกรรมให้น้ำและปุ๋ยแก่พืชใต้ผิวดิน 1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของนวัตกรรมให้น้ำและปุ๋ยพืชใต้ผิวดิน ที่ส่งผลต่อสมบัติดิน 2) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของนวัตกรรมให้น้ำและปุ๋ยพืชใต้ผิวดินที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของพืช โดยการการใช้นวัตกรรมให้น้ำและปุ๋ยแก่พืชใต้ผิวดิน ที่มีขนาดและความยาวแตกต่างกัน ส่งผลต่อสมบัติดินใกล้เคียงกัน เมื่อวิเคราะห์ค่าสมบัติดินที่มีเหมาะสมต่อการปลูกพืช พบว่านวัตกรรมให้น้ำและปุ๋ยแก่พืชใต้ผิวดินมีค่าความชื้นดินแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 ส่วนค่า pH อุณหภูมิดิน ค่าธาตุไนโตรเจน ธาตุฟอสฟอรัส และธาตุโพแทสเซียม มีค่าไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05โดยพบว่านวัตกรรมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 2 เซนติเมตร ความยาว 11 เซนติเมตร ให้ผลการทดลองเหมาะสมต่อการปลูกพืชมากที่สุด คือ ให้ความชื้นดิน 53.33±5.77% ค่า pH 6.00±0.72 อุณหภูมิ 29.00±0.00 ๐C ธาตุไนโตรเจน 83.33±28.87 ppm ธาตุฟอสฟอรัส 8.17±1.44 ppm และธาตุโพแทสเซียม 83.33±28.87 ppm ตามลำดับ เมื่อตรวจวัดการกระจายตัวของน้ำ 3 จุดโดยรอบนวัตกรรมให้น้ำพบว่า การเจาะรูโดยรอบตรวจพบความชื้นใกล้เคียงกัน และจะลดลงตามระยะห่าง เมื่อระยะห่างจากนวัตกรรมเพิ่มขึ้น ความชื้นดินก็จะลดลง โดยระยะห่างจากนวัตกรรมที่เจาะรูโดยรอบ 5-8 เซนติเมตร ตรวจวัดความชื้นที่การปลูกพืช ส่วนการเจาะรูท่อด้านนอกของนวัตกรรมแบบด้านเดียว พบว่า ให้ความชื้นแตกต่างกัน โดยจุดที่ 1 ตรวจวัดความชื้นตรงกับรูของท่อด้านนอกพบว่าความชื้นลดลงตามระยะห่าง แต่น้ำสามารถกระจายตัวได้มากถึง 11 เซนติเมตร ส่วนจุดที่ 2 และ 3 ให้ความชื้นน้อย ไม่แตกต่างกัน และไม่เหมาะต่อการปลูกพืช เมื่อปลูกพริกโดยใช้นวัตกรรมให้น้ำและปุ๋ยแก่พืชใต้ผิวดิน แล้วการตรวจวัดความสูง ความกว้างของทรงพุ่ม น้ำหนักแห้ง ปริมาณใกล้เคียงกับการปลูกแบบเกษตรกรทั่วไป แต่สูงกว่าการปลูกแบบงดให้ปุ๋ย เมื่อวิเคราะห์ค่าสถิติพบว่า ปลูกพริกโดยใช้นวัตกรรมให้น้ำและปุ๋ยแก่พืชใต้ผิวดิน แล้วการตรวจวัดความสูง ความกว้างของทรงพุ่ม น้ำหนักแห้ง ไม่แตกต่างกับการปลูกแบบเกษตรกรทั่วไปอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 นอกจากนี้ยังสามารถประหยัดน้ำมากกว่าการปลูกแบบเกษตรกรทั่วไปคิดเป็นร้อนละ 22.22 และเมื่อตรวจวัดสมบัติดินหลังจากใช้นวัตกรรมให้น้ำและปุ๋ยแก่พืชใต้ผิวดิน พบว่ามีสมบัติดินที่แตกต่างกัน แต่การปลูกต้นพริกกะเหรี่ยงโดยใช้นวัตกรรมให้น้ำและปุ๋ยแก่พืชใต้ผิวดินมีสมบัติดินที่เหมาะสมแก่การเพาะปลูก และใกล้เคียงกับการปลูกแบบเกษตรกรทั่วไปและการปลูกแบบใช้นวัตกรรม (น้ำและปุ๋ยเคมี)