รถแต๊กแต๊ก 4.0

ชื่อนักเรียนผู้จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์

วนิดา ผาสุข, รวิวรรณ คงสีลา, ทิพวรรณ คันธี

อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานวิทยาศาสตร์

ปัญญา สัมพะวงศ์, นพวรรณ ดวงสินธุ์

โรงเรียนที่กำกับดูแลโครงงานวิทยาศาสตร์

โรงเรียนท่าโพธิ์ศรีพิทยา

ปีที่จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์

พ.ศ. 2562

บทคัดย่อโครงงานวิทยาศาสตร์

ประเทศไทยเป็นประเทศแห่งเกษตรกรรม ซึ่งคนไทยสืบทอดอาชีพนี้กันมายาวนาน มีการทำเกษตรกรรมในรูปแบบต่าง ๆ ทำให้มีรายได้จากการส่งออกผลิตผลทางการเกษตร ทั้งในรูปผลิตภัณฑ์ปฐมภูมิ เช่น ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง และส่วนหนึ่งในการส่งออกก็มาจากผลิตภัณฑ์แปรรูปจากผลิตผลทางการเกษตร อย่าง อาหาร และผลิตภัณฑ์จากยางพารา เป็นต้น ประเทศไทยจึงเหมาะแก่การทำเกษตรกรรมเป็นอย่างมาก เพราะมีปัจจัยมากมายที่เอื้ออำนวยต่อการผลิตสินค้าเกษตรกรรม ไม่ว่าจะเป็น ความอุดมสมบูรณ์ของพื้นดิน ความเหมาะสมด้านภูมิศาสตร์ ความรู้ความสามารถของเกษตรกร จากปัจจัยทั้งหมดนี้ ทำให้ประเทศไทย เป็นประเทศที่ส่งออกผลิตผลทางการเกษตรมากที่สุด ประเทศหนึ่ง ซึ่งจะช่วยทำรายได้ให้ประเทศอย่างมหาศาล และเลี้ยงปากท้องให้กับชาวเกษตรกรที่มีความตั้งใจในการเพาะปลูกเป็นอย่างดี โรงเรียนท่าโพธิ์ศรีพิทยา ตั้งอยู่ตำบลท่าโพธิ์ศรี อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี ห่างจาก อำเภอเมืองอุบลราชธานี 55 กิโลเมตร มีอาชีพส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรรม และมีการนำผลผลิตที่ได้ใส่ยานพาหนะเพื่อไปขายให้ผู้รับซื้อ โดยชาวบ้านที่ไม่ค่อยมีฐานะจะใช้รถไถนาเดินตามแล้วพ่วงด้วยรถพ่วง ที่ภาษาถิ่น เรียกว่า“รถแต๊กแต๊ก” เป็นยานพาหนะในการเดินทางไปส่งผลผลิตทางการเกษตร แต่ด้วยเหตุเป็นยานพาหนะแบบชาวบ้านจึงมีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย เช่น การบรรทุกน้ำหนักที่มากเกินไป หรือการเดินทางที่โดนรถคันอื่นมาชน เพราะเป็นยานพาหนะที่ไม่ระบบสัญญาณจราจรที่ชัดเจน ประกอบกับข่าวสถิติเกี่ยวกับอุบัติเหตุบนท้องถนน ปรากฏว่า รถไถนาเดินตามแล้วพ่วงด้วยรถพ่วงจะเกิดอุบัติเหตุเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการเดินทางส่งผลผลิตทางการเกษตรในเวลากลางคืน ยิ่งมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุสูง ด้วยเหตุนี้สมาชิกในกลุ่มจึงคิดค้นสร้างสิ่งประดิษฐ์ รถแต๊กแต๊ก 4.0 ที่สามารถทำงานโดยอัตโนมัติโดยใช้ระบบไมโครคอนโทรลเลอร์ ในการเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางขนส่งผลผลิตทางการเกษตรของเกษตรกร โดยมีระบบสั่งการผ่านสมาร์ทโฟนเพื่อช่วยแจ้งบอกการเลี้ยวสัญญาณจราจร ระบบแจ้งเตือนรถด้านหลังเพื่อลดอุบัติเหตุ ระบบแจ้งตำแหน่ง GPS เมื่อเกิดอุบัติเหตุและส่งสัญญาณเข้าผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อช่วยเหลือ ส่งผลให้เกษตรกรและผู้ขับขี่ มีความปลอดภัยในการเดินทาง และเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งผลิตทางการเกษตรที่สูงขึ้น รวมทั้งเป็นการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ได้อีกด้วย