มือใหม่ชักชา
- ชื่อนักเรียนผู้จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์
ฟาฟาน สัญญา, ภูริชยา ฮ่องสาย
- อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานวิทยาศาสตร์
ฉ๊ะ หมาดมาสัน, ฟารีด๊ะ สันตี
- โรงเรียนที่กำกับดูแลโครงงานวิทยาศาสตร์
- ปีที่จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์
บทคัดย่อโครงงานวิทยาศาสตร์
ชาชัก เป็นชานมแบบร้อนที่พบได้ทั่วไปในมาเลเซีย สิงคโปร์ และภาคใต้ของไทย ชื่อมาจากกระบวนการชงที่มีการเทเครื่องดื่มกลับไปกลับมา ทำจากชาดำ นมระเหย จัดเป็นเครื่องดื่มประจำชาติของมาเลเซีย การผสมส่วนผสมจะใช้การเทกลับไปกลับมาระหว่างแก้วสองใบจนเกิดฟอง เป็นการทำให้ชาเย็นลง และทำให้ชากับนมระเหยเข้ากันดี การผสมชานี้กลายเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง ชาชักถือเป็นอาหารและเครื่องดื่มที่เป็นมรดกของมาเลเซีย
เนื่องจากชาชักนั้นเป็นเครื่องดื่มที่มีชื่อเสียงอีกอย่างของจังหวัดสตูล แต่มีผู้ที่สามารถชักชาเป็นเพียงเล็กน้อย ทางสมาชิกจึงสนใจที่จะทำโครงงานเกี่ยวกับเรื่องชาชักขึ้นมาเพื่อให้ชาชักนั้นเป็นที่รู้จักมากขึ้น และสามารถทำให้คนที่สนใจเกี่ยวกับเรื่องชาชักนั้น สามารถชักชาเป็นและเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องชาชักมากยิ่งขึ้น ซึ่งในการชักชานั้น จะต้องอาศัยความคล่องตัวในประมาณนึง และอาศัยประสบการณ์ที่ทำซ้ำ ๆ จนรู้จังหวะ ทางสมาชิกในกลุ่มจึงสนใจที่จะศึกษาท่าในการชักชา การเอียงลำตัว การตะแคงแก้วชงชาที่ทำให้ ชาลงแก้วพอดีโดยที่ชาไม่หกเลยจึงเป็นที่มาของโครงงานในครั้งนี้
โดยคณะผู้จัดทำศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างมุมที่เอียงตัวกับระยะชักชา 1. ทำการวัดมุมที่เอียงตัวเมื่อผู้ชักชาอยู่ในท่าที่ต่างกัน และศึกษาวัดมุมที่เอียงตัวของผู้ชักชาตั้งแต่เริ่มชักจนชักเสร็จ ใช้วิธีการอัดคลิป แล้วบันทึกภาพ ณ จุดต่าง ๆ แล้วสร้างเส้นแนวดิ่ง จากนั้นวัดมุมที่ผู้ชักชาเอียงออกจากเส้นแนวดิ่งและผู้จัดทำได้ทำการวัดระยะทางจากขอบล่างของกระบอกน้ำมือบนกับ (จุดที่น้ำไหลออกจากกระบอกน้ำ) กับปากกระบอกน้ำมือล่าง (จุดที่น้ำตกลงมาในกระบอกน้ำมือล่าง) ภาพ ณ จุดต่าง ๆ ซึ่งเป็นค่าที่ได้จากการวัด โดยใช้อัตราส่วน 1 : 14.83 เซนติเมตร แล้วทำการหาระยะห่างจริง ๆ 2.หาค่าระยะชักชาโดยคณะผู้จัดทำได้ทำการวัดมุมที่ชักชา โดยการสร้างเส้นแนวตั้ง ณ จุดขอบล่างของกระบอกน้ำมือบน ทำมุมกับ เส้นที่ลากจากขอบล่างของกระบอกน้ำมือบนไปยังขอบนอกของกระบอกน้ำมือล่างจากนั้นนำมุมที่ชักชาจากการวัดไปคำนวณหาระยะชักชา โดยใช้ความรู้เรื่องอัตราส่วนตรีโกณมิติ
จากการศึกษาเรื่องมือใหม่ชักชา พบว่า ท่าในการชักชาของผู้ชักชาแต่ละคนนั้นจะคล้าย ๆ กัน นั่นคือการเอียงตัวและระยะห่างของมือที่ใช้ชักชา คณะผู้จัดทำจึงได้ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองนี้ ได้ความสัมพันธ์เชิงเส้นตรงเป็น นั่นหมายความว่า มือใหม่ที่ไม่เคยชักชา หากอยากลองชักชาก็สามารถชักชา โดยการให้มือบนกับมือล่างมีความชัน 2.2302 และมือล่างอยู่ต่ำลงไปจากเอว เนื่องจากในโครงงานฉบับนี้ใช้เอวของผู้ชักชาเป็นจุดตัดแกน X, Y หรือเป็นจุดหมุนลำตัวของผู้ชักชานั่นเอง ซึ่งอาจเป็นแนวทางให้ผู้ที่สนใจได้ลองฝึกจนคล่องต่อไป