การศึกษาประสิทธิภาพของเหยื่อกำจัดปลวกจากวัสดุธรรมชาติที่มีส่วนผสมของเชื้อราที่เป็นปฏิปักษ์
- ชื่อนักเรียนผู้จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์
สรัญญา ศรีโยธา, นันท์นภัส พงศ์เลิศธนาธร
- อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานวิทยาศาสตร์
นรินทร รัตนทา
- โรงเรียนที่กำกับดูแลโครงงานวิทยาศาสตร์
- ปีที่จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์
บทคัดย่อโครงงานวิทยาศาสตร์
การกำจัดปลวกในปัจจุบันนิยมใช้สารเคมีในการกำจัดปลวกเนื่องจากมีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพแต่การใช้สารเคมีในการกำจัดปลวกเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตอื่นๆรวมถึงมนุษย์และทำให้สิ่งแวดล้อมรอบข้างจะปนเปื้อนสารเคมีเพราะสารเคมีที่ใช้กำจัดสามารถแพร่กระจายได้จึงส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมรอบข้าง ผู้ทดลองเห็นถึงปัญหานี้จึงได้นำเชื้อราเมธาไรเซียม เชื้อราเมธาไรเซียมผสมเชื้อราบิวเวอร์เรีย เชื้อราบิวเวอร์เรีย และเชื้อราไตรโคเดอร์มา นำมาศึกษาประสิทธิภาพในการกำจัดปลวกซึ่งเชื้อราที่กล่าวมาข้างต้นนี้ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและแมลงที่ดีต่อระบบนิเวศ และศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิภาพในการกำจัดปลวกซึ่งจะนำมาสู่การพัฒนาเป็นเหยื่อกำจัดปลวกที่มีประสิทธิภาพและไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม
โดยแบ่งการทดลองเป็น 12 ตอน ได้แก่ ตอนที่ 1 เปรียบเทียบชนิดไม้ที่ปลวกชอบมากที่สุดผลการทดลองพบว่าไม้ที่ปลวกชอบกินมากที่สุดคือไม้ขี้เลื่อย จากนั้นผู้ทดลองต้องการศึกษาปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการกินของปลวกจึงทดลองตอนที่ 2 และ 3 โดนตอนที่ 2 เปรียบเทียบความชื้นที่มีผลต่ออัตราการกินของปลวกผลการทดลองพบว่าความชื้นที่ปลวกชอบมากที่สุดคือความชื้นที่ 25 มิลลิลิตรและตอนที่ 3 เปรียบเทียบแสงสว่างที่มีผลต่อการกินของปลวกมากที่สุดผลการทดลองพบว่ามีอัตราการกินมากที่สุดในที่ที่มีแสงสว่าง จากนั้นตอนที่ 4 และ ตอนที่ 5 เปรียบเทียบวัสดุที่อุ้มน้ำได้ดีที่สุดและนานที่สุดด้วยวัสดุธรรมชาติผลการทดลองพบว่าวัสดุธรรมชาติที่อุ้มน้ำได้ดีที่สุดและนานที่สุดคือ กาบกล้วย จากนั้นตอนที่ 6 เปรียบเทียบอัตราส่วนที่ดีที่สุดของไม้และกาบกล้วยผลการทดลองพบว่าอัตราส่วนที่มีผลต่ออัตราการกินของปลวกมากที่สุดคือไม้ 2 ส่วนต่อกาบกล้วย 1 ส่วน จากนั้นตอนที่ 7 เปรียบเทียบวัสดุประสานและเปรียบเทียบประสิทธิภาพของเชื้อราในการกำจัดปลวกผลการทดลองพบว่าอัตราส่วนที่ดีที่สุดคือไม้ 2 ส่วนต่อกาบกล้วย 1 ส่วนต่อวัสดุประสานไข่ขาว 1 ส่วนและผสมเชื้อราเมธาไรเซียม 22 มิลลิลิตรเป็นส่วนผสมที่มีผลทำให้มีอัตราการตายของปลวกมากที่สุด ต่อไปตอนที่ 8 ผู้ทดลองจะทดสอบความคงทนต่อสภาพแวดล้อมโดยการทดสอบความแข็งแรงและการยุ่ยของเหยื่อกำจัดปลวกโดยทดสอบความแข็งแรงและการยุ่ยของเหยื่อกำจัดปลวกผลการทดลองพบว่า อัตราส่วน ไม้:กาบกล้วย:ไข่ขาว 2:1:3 มีความแข็งแรงมากที่สุดและการยุ่ยของเหยื่อกำจัดปลวกน้อยที่สุด จากนั้นตอนที่ 9 ทดลองความชื้นของเหยื่อกำจัดปลวกผลการทดลองพบว่าเหยื่อกำจัดปลวกมีประสิทธิภาพในการเก็บความชื้นไว้ได้ จากนั้นตอนที่ 10 เปรียบเทียบประสิทธิภาพการโตของเชื้อราเมธาไรเซียมในเหยื่อกำจัดปลวกผลการทดลองพบว่าการเจริญเติบโตของเชื้อราเมธาไรเซียมในเหยื่อล่อปลวกเจริญเติบโตได้ดี จากนั้นตอนที่ 11 ส่องดูสปอร์เชื้อราในปลวกที่ตายผลการทดลองพบว่าจะพบสปอร์ของเชื้อราที่เข้าแทงลำตัวปลวกอย่างเห็นได้ชัดและตอนที่ 12 ทดลองในรังจริงผลการทดลองพบว่าใน 7 วันปลวกมีการเอาเหยื่อล่อปลวกลงไปกินในรังปลวกบางส่วน เหยื่อกำจัดปลวกที่ผู้ทดลองพัฒนานี้สามารถกำจัดปลวกได้โดยที่ไม่มีสารพิษตกค้างและเมื่อปลวกตาย สปอร์เชื้อราจะเข้าแทงลำตัวปลวกและเจริญภายในลำตัวปลวกทำให้สปอร์สามารถแพร่กระจายไปติดกับปลวกตัวอื่นและทำให้ปลวกตัวอื่นตายไปด้วย