การศึกษาประสิทธิภาพของปุ๋ยมูลไส้เดือนที่มีผลต่อการเจริญเติบโต ปริมาณโปรตีน วิตามินบี 12 และฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระในไข่ผำ(Wolffia arrhiza (L.)) สำหรับแปรรูปเป็นเส้นขนมจีนเพื่อสุขภาพ

ชื่อนักเรียนผู้จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์

ภัทรานิษฐ์ สุขสำราญ, ปทิตตา ศาลางาม, เบญญา จิตหาญ

อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานวิทยาศาสตร์

ภูวนัย ดอกไธสง, อารีรัตน์ ใจกล้า

โรงเรียนที่กำกับดูแลโครงงานวิทยาศาสตร์

โรงเรียนจอมพระประชาสรรค์

ปีที่จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์

พ.ศ. 2565

บทคัดย่อโครงงานวิทยาศาสตร์

ไข่ผำเป็นพืชน้ำที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ซึ่งชาวบ้านในเขตพื้นที่อำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์ได้มีการนำไข่ผำมาประกอบอาหารกันอย่างยาวนาน ไข่ผำเป็นพืชที่มีโปรตีนสูงและมีคุณค่าทางอาหารอื่น ๆ อีกมากมายเช่น วิตามินบี 12 รวมถึงมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ เป็นต้น แต่ถึงอย่างไรก็ตามในปัจจุบันนี้ การนำไข่ผำจากแหล่งน้ำธรรมชาติมาประกอบอาหารอาจไม่ปลอดภัยอีกต่อไป เนื่องจากชาวบ้านในพื้นที่หันมาใช้สารเคมีในการทำการเกษตรกันมากขึ้น ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดสารเคมีปนเปื้อนในแหล่งน้ำที่มีไข่ผำอาศัยอยู่ เมื่อนำไข่ผำมาประกอบอาหารอาจส่งผลกระทบต่อร่างกายของผู้บริโภคได้

ด้วยเหตุนี้ทางคณะผู้จัดทำจึงมีแนวคิดที่จะนำไข่ผำมาเพาะเลี้ยงเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการนำมาบริโภค จึงได้ศึกษาวิธีการเพาะเลี้ยงไข่ผำรวมถึงวิธีการในการเพิ่มคุณค่าทางอาหารให้กับไข่ผำ จากการศึกษาพบว่าปุ๋ยหมักมูลไส้เดือน มีธาตุอาหารที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืชสูง สามารถเพิ่มคุณค่าทางอาหารให้กับพืชได้ คณะผู้จัดทำจึงมีแนวคิดที่จะนำปุ๋ยหมักมูลไส้เดือนมาใช้ในการเพาะเลี้ยงไข่ผำ แล้วนำไข่ผำที่ได้จากการเพาะเลี้ยง ไปทดสอบหาปริมาณโปรตีน วิตามินบี 12 และฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระเปรียบเทียบกับไข่ผำในธรรมชาติ และทำการศึกษาวิธีการแปรรูปไข่ผำให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด โดยการนำไปผสมกับแป้งขนมจีนเพื่อทำเป็นเส้นขนมจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในอาหารที่คนในชุมชนนิยมบริโภคกันอย่างแพร่หลายไม่ว่าจะเป็นงานบุญ งานบวช หรืองานต่าง ๆ ก็ย่อมมีขนมจีนเป็นหนึ่งในเมนูที่ใช้ในการต้อนรับแขกที่มาร่วมงาน การนำไข่ผำไปเป็นส่วนผสมในการทำเส้นขนมจีนนั้นจะทำให้คนในชุมชนได้บริโภคอาหารที่มีคุณค่าทางอาหารสูง อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับไข่ผำ รวมถึงเพิ่มมูลค่าให้กับเส้นขนมจีนได้อีกด้วย