การปรับปรุงการย้อมสีไหมโดยอาศัยปฏิกิริยารีดอกซ์

ชื่อผู้จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์
  • จารุพงษ์ น้อยตำแย

อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานวิทยาศาสตร์
  • สุภาภรณ์ นพคุณดิลกรัตน์

สถาบันการศึกษาที่กำกับดูแลโครงงานวิทยาศาสตร์

โรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย

ระดับการศึกษา

โครงงานวิทยาศาสตร์ในระดับการศึกษาประกาศนียบัตรวิชาชีพ

หมวดวิชา

โครงงานวิทยาศาสตร์ในสาขาวิชาเคมี

วันที่จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์

01 มกราคม 2541

บทคัดย่อโครงงานวิทยาศาสตร์

ผ้าไหมนับเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญ คุณภาพจึงเป็นตัวที่กำหนดถึงราคา ปัญหาของผ้าไหมคือ ในการซักผ้าไหมมักประสบปัญหาการตกของสีเนื่องมาจากการย้อม อีกทั้งปัจจุบันได้มีการอาศัยปฏิกิริยารีดอกซ์ใช้ในการย้อมสีไนลอน ผู้จัดทำจึงสนใจที่จะนำมาใช้ในการย้อมสีไหม ซึ่งสีที่ใช้เป็นสีกลุ่มเดียวกันคือ สีแอซิด เป็นสีจำพวก Triphenylmethane เฉดสีเขียว คือ สี Acid green 16 เพื่อหาสภาวะที่เหมาะสมที่สุดในการย้อมและพัฒนาการย้อมให้ดีขึ้นโดยศึกษาถึงความเข้มข้นที่เหมาะสมของสารละลายที่ใช้ ความคงทนต่อการซัก ความแข็งแรงต่อแรงดึง การละลายใน NaOCI การหดตัวของผ้า พบว่า การย้อมสีไหมโดยอาศัยปฏิกิริยารีดอกซ์โดยสารกลุ่มที่ 1 คือ ![](/latexrender/pictures/de2/de25ebf7256ae58542a957fb8a294505.gif) ที่ความเข้มข้น 20 mM กลุ่มที่ 2 คือ ![](/latexrender/pictures/de2/b6a/b6adb622023e8862d8708771381c72b0.gif) ที่ความเข้มข้น 40 mM กลุ่มที่ 3 คือ !['C_6](/latexrender/pictures/de2/b6a/94d/94d0a419f7120413fcbc0fe5e3571b22.gif) ที่ความเข้มข้น 30 mM มีค่าการดูดกลืนแสงเปลี่ยนแปลงและลดลงมากที่สุดในแต่ละกลุ่มและมากกว่าสภาวะย้อมที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ซี่งเมื่อนำทุกกลุ่มมาเปรียบเทียบกันจะพบว่า กลุ่มที่ 1 คือ ![](/latexrender/pictures/de2/b6a/94d/6a6/6a65cc1d5744a52d17d249cfea6b87da.gif) ที่ความเข้มข้น 20 mM ค่าการดูดกลืนแสงเปลี่ยนแปลงและลดลงมากที่สุด ความคงทนของสีต่อการซัก ความแข็งแรงต่อแรงดึง สูงที่สุด การละลายใน NaOCI ต่ำที่สุด เพราะฉะนั้นกลุ่มที่ 1 ที่ความเข้มข้น 20 mM มีสภาวะที่เหมาะสมที่สุด