ผญาเกี้ยว : ไม่สมหวังในรัก
มาหลูตนโตเด้ รักเพิ่นข้างเดียว
แสนสิเทียวมาจา เพิ่นบ่เหลียวพอน้อย
[มาหลูตนโตเด้ ฮักเพิ่นข่างเดียว
แสนสิเทียวมาจา เพิ่นบ่อเหลียวพอน่อย]
ผญาที่ว่า มาหลูตนโตเด้ (มาหลูตนโตเด้) แปลว่า รู้สึกสงสารตัวเอง จังเลย
หลูตน แปลว่า รู้สึกสงสาร บางถิ่นใช้ว่า สังขาราชาติ [สังขาราซาด]
โต แปลว่า ตัว, ในที่นี้หมายถึง ตัวเรา
เด้ เป็นคำลงท้าย หมายถึง นั่น, แน่ะ, แท้
ผญาที่ว่า รักเพิ่นข้างเดียว [ฮักเพิ่นข้างเดียว] แปลว่า รักเขาข้างเดียว
เพิ่น เป็นสรรพนามได้ทั้งบุรุษที่ ๑, ๒ หรือ ๓ ในที่นี้หมายถึง ผู้หญิงที่เราหลงรัก
ผญาที่ว่า แสนสิเทียวมาจา แปลว่า แม้จะเทียวมาหาหลายครั้งหลายครา เพื่ออ้อนวอนขอความรัก
แสน แปลว่า มาก
จา แปลว่า พูด, คุย
ผญาที่ว่า เพิ่นบ่เหลี่ยวพอน้อย [เพิ่นบ่อเหลียวพอน่อย] แปลว่า หญิง ที่ตนหลงรักก็ไม่สนใจใยดีหรือหันมามองแม้แต่น้อย ดังนั้น คำผญาที่ว่า
มาหลูตนโตเด้ รักเพิ่นข้างเดียว
แสนสิเทียวมาจา เพิ่นบ่เหลียวพอน้อย
[มาหลูตนโตเด้ ฮักเพิ่นข่างเดียว
แสนสิเทียวมาจา เพิ่นบ่อเหลียวพอน่อย]
จึงมีความหมายว่า ชายหนุ่มไปหลงรักหญิงสาวเพียงข้างเดียว แม้จะพยายาม ไปพูดจาเกี้ยวพาราสีอยู่เนือง ๆ เพื่อให้ฝ่ายสาวใจอ่อนรักตอบตนบ้าง แต่สาว ก็ยังไม่สนใจใยดี จึงรู้สึกสงสารตนเองมากเหลือเกิน
(นายเกษียร มะปะโม)