ผญาเกี้ยว : ชายหนุ่มอยากเกี้ยวสาว
มาเห็นน้ำวังใส ใจอยากอาบ ย่านแต่มีเงือกเฝ้าในน้ำ ส่องบ่เห็น
[มาเห็นน้ำวังไส ใจอยากอาบ ย่านแต่มีเงือกเฝ่าไนน้ำ ส่องบ่อเห็น]
ผญาที่ว่า มาเห็นน้ำวังใส ใจอยากอาบ [มาเห็นน้ำวังใส ใจอยากอาบ] แปลว่า เมื่อมาเห็นน้ำใส ๆ ในห้วยหนองคลองบึงแล้วอยากจะลงเล่นน้ำให้ เย็นฉ่ำชื่นใจ
วัง แปลว่า ห้วงน้ำลึก, เวิ้งน้ำ
ผญาที่ว่า ย่านแต่มีเงือกเฝ้าในน้ำ ส่องบ่เห็น [ย่านแต่มีเงือกเฝ้า ในน้ำ ส่องบ่อเห็น] แปลว่า กลัวแต่ในห้วงน้ำลึกนั้นจะมีเงือกน้ำเฝ้ารักษาอยู่ ซึ่งเรามองไม่เห็น
ย่าน แปลว่า กลัว
เงือก แปลว่า งูพิษ, ปลาไหลไฟฟ้า
ดังนั้น คำผญาที่ว่า
มาเห็นน้ำวังใส ใจอยากอาบ ย่านแต่มีเงือกเฝ้าในน้ำ ส่องบ่เห็น
[มาเห็นน้ำวังใส ใจอยากอาบ ย่านแต่มีเงือกเฝ้าในน้ำ ส่องบ่อเห็น]
หมายความว่า ชายหนุ่มเจอสาวงามแล้วนึกรัก อยากเกี้ยวมาเป็นคู่เคียง แต่ไม่กล้าเพราะเกรงว่าสาวเจ้าจะมีเจ้าของแล้ว เปรียบสาวเจ้าเหมือนน้ำใส ๆ และน้ำใส ๆ ในวังน้ำนั้นอาจจะมีงูพิษคอยเฝ้ารักษาอยู่ ซึ่งงูพิษที่ว่านี้เปรียบ เหมือนคนรักของสาวเจ้านั่นเอง
(นายเกษียร มะปะโม)