ผญาคำสอน : สอนเด็กให้ตั้งใจเรียน

ยามยังน้อย ให้เจ้าหมั่นเรียนคุณลางเทื่อบุญเรามีสิยศสูงเพียงฟ้า
ไปทางหน้า หาเงินได้พันหมื่นไผผู้ความรู้ตื้น เงินเบี้ยบ่แก่นถุง ดอกนา
[ยามยังน่อย ไห่เจ้าหมั่นเฮียนคุนลางเทือบุนเฮามี สิยดสูงเพียงฟ่า
ไปทางหน่า หาเงินได้พันหมื่นไผผู่ควมรู่ตื้น เงินเบี้ยบ่แก่นถง ดอกนา]

ผญาที่ว่า ยามยังน้อย ให้เจ้าหมั่นเรียนคุณ [ยามยังน่อย ไห่เจ้าหมั่น เฮียนคุน] แปลว่า เมื่อยังเป็นเด็ก ให้เจ้าขยันหมั่นเพียรเรียนหนังสือ

ยังน้อย [ยังน่อย] แปลว่า ยังเด็ก

ผญาที่ว่า ลางเทื่อบุญเรามี สิยศสูงเพียงฟ้า [ลางเทือบุนเฮามี สิ ยดสูงเพียงฟ่า] แปลว่า บางทีหากเรามีบุญวาสนา อาจจะมียศศักดิ์สูงเทียมฟ้า

ลางเทื่อ [ลางเทือ] แปลว่า บางที, บางครั้ง

ผญาที่ว่า ไปทางหน้า หาเงินได้พันหมื่น [ไปทางหน่า หาเงินได้พันหมื่น] แปลว่า ในอนาคตข้างหน้า เราอาจจะหาเงินได้เป็นพันเป็นหมื่น

ทางหน้า [ทางหน่า] แปลว่า ในอนาคต

ผญาที่ว่า ไผผู้ความรู้ตื้น เงินเบี้ยบ่แก่นถุง ดอกนา [ไผผู่ควมรู่ตื้น เงินเบี้ยบ่แก่นถง ดอกนา] แปลว่า ใครที่มีความรู้น้อย จะไม่สามารถหาเงินมา ใส่ในกระเป๋าได้ดอกนะ

ไผ แปลว่า ใคร,ผู้ใด

แก่น แปลว่า คุ้นเคย, สนิทสนม, ชอบพอ

ดอกนา เป็นคำสร้อยท้ายประโยค

ดังนั้น คำผญาว่า

ยามยังน้อย ให้เจ้าหมั่นเรียนคุณลางเทื่อบุญเรามีสิยศสูงเพียงฟ้า
ไปทางหน้า หาเงินได้พันหมื่นไผผู้ความรู้ตื้น เงินเบี้ยบ่แก่นถุง ดอกนา
[ยามยังน่อย ไห่เจ้าหมั่นเฮียนคุนลางเทือบุนเฮามี สิยดสูงเพียงฟ่า
ไปทางหน่า หาเงินได้พันหมื่นไผผู่ควมรู่ตื้น เงินเบี้ยบ่แก่นถง ดอกนา]

จึงมีความหมายว่า ในวัยเด็กมีหน้าที่เรียนหนังสือ ก็ต้องขยันหมั่นเพียร ขวนขวายหาความรู้ ต่อไปเราอาจจะได้ยศได้เกียรติได้ตำแหน่งที่สูงขึ้นในอนาคต ข้างหน้าจะหาเงินหาทองได้มากมาย ถ้าเราไม่หมั่นหาความรู้ใส่ตัว จะทำให้หาเงิน หาทองได้ยาก ชีวิตความเป็นอยู่ก็จะตกระกำลำบาก

(นายเกษียร มะปะโม)